xs
xsm
sm
md
lg

โภคภัณฑ์มาแรง แซงโค้งหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ ตลาดทุนไทยในสายตาต่างชาติ
โดยบริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด

หลังจากที่ผมได้มีโอกาสเดินทางไปฮ่องกงตามคำเชิญของโบรกเกอร์ Standard Bullion ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ The Chinese Gold & Silver Exchange Society ซึ่งถือว่าเป็นสมาคมผู้ค้าทองคำและเงิน ที่ใหญ่และมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (เปิดทำการมานานกว่า 90 ปี) โดยมีสมาชิกหลายร้อยบริษัทฯ เข้าร่วม ซึ่งถือว่าสมาคมฯ ได้ทำการพัฒนาและปรับปรุงกฏ ระเบียบ วิธีการ ให้สอดคล้องกับบุคลิก ลักษณะ และพฤติกรรมของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี อันเนื่องมาจากธรรมชาติของคนฮ่องกงนั้น มีสายเลือดของนักเก็งกำไรอยู่ในตัว ทำให้เกือบทุกตรอก ซอกซอยที่ฮ่องกงนั้น คุณสามารถเข้าไปลุ้นกับการชิงโชคได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น พนันม้า บอล หรือ ลุ้นชิงโชคในล็อตเตอรี่ เป็นต้น

ด้วยความเป็นโบรกเกอร์ที่มีลักษณะเฉพาะของ Standard Bullion ทำให้ตัวสินค้าที่ให้บริการนั้น จำกัดอยู่เฉพาะ ทองคำ และ เงิน (Gold spot & Silver spot) โดยไม่มี currency pair หรือ สินค้าในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในมุมมองของผม ก็คิดว่าน่าจะเป็นข้อดี ของลูกค้า ในแง่ของความจำเพาะเจาะจงของผู้ประกอบการณ์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กอปรกับตัวสินค้าที่นำเสนอแก่นักลงทุนที่ค่อนข้างชัดเจนและเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะแค่สินค้า 2 ตัวดังกล่าว ก็มีความผันผวนมากเพียงพอสำหรับนักลงทุนประเภทเก็งกำไร หรือ ร้านทอง ที่ต้องการทำ Arbitrage เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของตลาด (ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการทำ Arbitrage ให้ส่งคำถามมาที่ thiti@chart-master.com)

นอกจากทองคำ ซึ่งมีให้เลือกทำกำไรทั้งการซื้อทองคำแท่ง และ Gold Futures แล้ว ในต่างประเทศยังมีทางเลือกในการ ซื้อ-ขาย Gold spot อีกทางหนึ่งที่นักลงทุนอาจใช้สินค้าดังกล่าวในการลดความเสี่ยง หรือ เพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนให้สูงขึ้น ในกรณีเกิดความผันผวน หรือ ตลาดมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ แต่เนื่องจากข้อจำกัดของตลาดฯ บ้านเราในปัจจุบัน ซึ่งมีการเปิด-ปิด และ ซื้อ-ขาย ที่ไม่สอดคล้องกับตลาดโลก (บ้านเราเปิด ซื้อ-ขาย ไม่กี่ชั่วโมง แต่ตลาดโลกเปิด 24 ชม.) หากเผลอไปถือสัญญาข้ามคืน คงต้องนั่งมองตาปริบๆ และนั่งนับเงินที่สูญเสียไปกับความผันผวนของตลาดในตอนกลางคืนได้ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น เราก็ไม่สามารถไปปลุก ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้มาเปิดตลาดเพื่อปิดสัญญาที่เราขาดทุนอยู่ได้ (ขนาดเวลาปกติบางครั้ง ตลาดฯ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ แล้วจะไปหวังอะไรกับเรื่องพวกนี้)
รูปที่ 1 แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลก (ราคา ณ ตลาดลอนดอน) กราฟรายวัน
จากกราฟในรูปที่ 1 จะเห็นว่า ราคาทองคำในตลาดโลก ที่ใช้แนวทางการวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎี Elliott wave (อ้างอิงจากเอกสารการสอนตามหลักสูตร “ทำกำไรในตลาดล่วงหน้า ด้วย Technical Analysis”) จะพบว่า ราคาทองคำในตลาดโลก มีโอกาสจะไปทดสอบที่ระดับ 1,350 USD ในไม่ช้า

สินค้าหนึ่ง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ในบ้านเรา อาจไม่ทราบ หรือ ไม่ได้ให้ความสนใจในการซื้อ-ขาย กันมากนัก สำหรับ Silver ซึ่งมีความน่าสนใจไม่แพ้ทองคำเลยทีเดียว เพราะจากประสบการณ์การสอนให้กับนักลงทุนหลายต่อหลายคน ที่ลงทุน (เก็งกำไร) ในสินค้าตัวดังกล่าว จะพบว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของ Silver มีความสอดคล้องกับ ทองคำ อย่างมีนัยสำคัญ หากแต่ที่แตกต่างกันคือ ความผันผวน และโอกาสในการทำกำไร ที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับเงินลงทุนนั่นเอง
รูปที่ 2 แนวโน้มราคายางพาราในตลาด TOCOM จากกราฟรายวัน
ในส่วนของสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่น ก็ไม่ได้น้อยหน้าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ยางพารา หรือแม้กระทั่งข้าว ต่างก็มีการเติบโต และปรับตัวสูงขึ้นในระดับที่น่าพอใจด้วยกันทั้งสิ้น (อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ย้อนหลังในเว็บไซต์ technicalday.com) ทำให้ตลาดดังกล่าวกำลังได้รับความสนใจขึ้นมาจากนักลงทุน ณ ปัจจุบันได้ไม่น้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น