บลจ. บัวหลวงเป็นปลื้ม นักลงทุนแห่จองกองทุนอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ จนยอดทะลุเป้ากว่า 2 พันล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 1,533 ล้านบาท ชี้การรันตีผลตอบแทน 7 ปี จูงใจ
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์” หรือ ทีโลจิส (TLOGIS) ไปเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ปรากฏได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมากจนสามารถปิดการขายได้อย่างสมบูรณ์ตามเป้าหมาย ทำให้มียอดจองซื้อเข้ามารวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ล้านบาท เกินจำนวนที่ต้องการระดมทุน ที่ได้ตั้งมูลค่าโครงการไว้แค่ 1,533 ล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนผู้จองซื้อทั่วไปนั้นมีการจองเข้ามามากกว่าปริมาณที่เสนอขายถึงกว่าร้อยละ 86
สำหรับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าว จะได้รับการจัดสรรให้ทุกรายอย่างเป็นธรรมตามที่กำหนดไว้ในโครงการ ซึ่งใช้วิธีจัดสรรที่เอื้ออำนวยให้รายเล็กๆ ได้ประโยชน์เต็มที่ โดยจัดสรรให้ทุกรายเป็นจำนวน 10,000 บาท ตามการจองซื้อขั้นต่ำ หลังจากนั้นจัดสรรเพิ่มทีละรอบ รอบละ 1,000 บาท ไปเรื่อย ๆ เวียนจนครบจำนวนเงินที่เปิดไอพีโอ ซึ่งจะแจ้งผลการจัดสรรหน่วยลงทุนพร้อมทั้งคืนเงินในส่วนที่จองซื้อไม่ได้ให้ผู้จองซื้อได้ทราบต่อไปโดยเร็ว และเมื่อกองทุนจดทะเบียนกับสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว จะนำเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
นางวรวรรณกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากถือเป็นสัญญาณบวกที่ดี ตั้งแต่เริ่มเปิดขายกองทุนทีโลจิสวันแรกก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่จองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากจนยอดจองล้นเกินกว่าเป้าหมาย เป็นเพราะศักยภาพของสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุน รวมถึงการที่นักลงทุนเชื่อมั่นเพราะมีการรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนเป็นเวลานานถึง 7 ปี และเป็นกองทุนที่มีกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินกับตัวอาคาร ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวมาก โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่เป็นเจ้าของที่ดินและคลังสินค้ายังคงเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ออมและผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ในอัตราที่สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ และเงินฝากในปัจจุบัน
นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการกองทุน ผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บลจ. บัวหลวง กล่าวว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม เป็นผลมาจากบริษัทได้ให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักลงทุนอย่างลึกซึ้งถึงการลงทุนในกองทุนดังกล่าว โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนมีทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันทางการเงิน
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นใจให้แก่นักลงทุนอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ การการันตีในเรื่องของผลตอบแทนแก่นักลงทุนในขั้นต่ำกว่า 7 ปี จากการที่บริษัท ไทคอน คอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ที่ได้การันตีในเรื่องของผลตอบแทนที่จะได้รับ ไม่ว่าในอนาคตสถานการณ์จะเป็นอย่างไรนักลงทุนก็ยังสามารถสบายใจได้ว่ายังไงแล้วทางบริษัทไทรคอนเองจะยังต้องจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนอย่างแน่นอนในทุก ๆ ปีไม่ต่ำกว่า 7 - 8% นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ได้สร้างความมั่นใจและลดความเสี่ยงให้แก่นักลงทุนได้
ขณะที่นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON กล่าวว่า จากการฟื้นตัวของภาวเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้การเช่าพื้นที่ในโครงการดังกล่าวมีเพิ่มมากขึ้น เพราะจะเห็นได้ว่าการเช่าพื้นที่คลังสินค้าต่างได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะลูกค้ารายใหม่ ๆ หลายรายต่างทยอยเข้ามาเช่าพื้นที่ ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่ที่เข้านั้นต่างประกอบไปด้วย ธุรกิจนำเข้าและส่งออก รวมถึงธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์” หรือ ทีโลจิส (TLOGIS) ไปเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ปรากฏได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมากจนสามารถปิดการขายได้อย่างสมบูรณ์ตามเป้าหมาย ทำให้มียอดจองซื้อเข้ามารวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ล้านบาท เกินจำนวนที่ต้องการระดมทุน ที่ได้ตั้งมูลค่าโครงการไว้แค่ 1,533 ล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนผู้จองซื้อทั่วไปนั้นมีการจองเข้ามามากกว่าปริมาณที่เสนอขายถึงกว่าร้อยละ 86
สำหรับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าว จะได้รับการจัดสรรให้ทุกรายอย่างเป็นธรรมตามที่กำหนดไว้ในโครงการ ซึ่งใช้วิธีจัดสรรที่เอื้ออำนวยให้รายเล็กๆ ได้ประโยชน์เต็มที่ โดยจัดสรรให้ทุกรายเป็นจำนวน 10,000 บาท ตามการจองซื้อขั้นต่ำ หลังจากนั้นจัดสรรเพิ่มทีละรอบ รอบละ 1,000 บาท ไปเรื่อย ๆ เวียนจนครบจำนวนเงินที่เปิดไอพีโอ ซึ่งจะแจ้งผลการจัดสรรหน่วยลงทุนพร้อมทั้งคืนเงินในส่วนที่จองซื้อไม่ได้ให้ผู้จองซื้อได้ทราบต่อไปโดยเร็ว และเมื่อกองทุนจดทะเบียนกับสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว จะนำเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
นางวรวรรณกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากถือเป็นสัญญาณบวกที่ดี ตั้งแต่เริ่มเปิดขายกองทุนทีโลจิสวันแรกก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่จองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากจนยอดจองล้นเกินกว่าเป้าหมาย เป็นเพราะศักยภาพของสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุน รวมถึงการที่นักลงทุนเชื่อมั่นเพราะมีการรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนเป็นเวลานานถึง 7 ปี และเป็นกองทุนที่มีกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินกับตัวอาคาร ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวมาก โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่เป็นเจ้าของที่ดินและคลังสินค้ายังคงเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ออมและผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ในอัตราที่สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ และเงินฝากในปัจจุบัน
นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการกองทุน ผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บลจ. บัวหลวง กล่าวว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม เป็นผลมาจากบริษัทได้ให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักลงทุนอย่างลึกซึ้งถึงการลงทุนในกองทุนดังกล่าว โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนมีทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันทางการเงิน
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นใจให้แก่นักลงทุนอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ การการันตีในเรื่องของผลตอบแทนแก่นักลงทุนในขั้นต่ำกว่า 7 ปี จากการที่บริษัท ไทคอน คอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ที่ได้การันตีในเรื่องของผลตอบแทนที่จะได้รับ ไม่ว่าในอนาคตสถานการณ์จะเป็นอย่างไรนักลงทุนก็ยังสามารถสบายใจได้ว่ายังไงแล้วทางบริษัทไทรคอนเองจะยังต้องจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนอย่างแน่นอนในทุก ๆ ปีไม่ต่ำกว่า 7 - 8% นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ได้สร้างความมั่นใจและลดความเสี่ยงให้แก่นักลงทุนได้
ขณะที่นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON กล่าวว่า จากการฟื้นตัวของภาวเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้การเช่าพื้นที่ในโครงการดังกล่าวมีเพิ่มมากขึ้น เพราะจะเห็นได้ว่าการเช่าพื้นที่คลังสินค้าต่างได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะลูกค้ารายใหม่ ๆ หลายรายต่างทยอยเข้ามาเช่าพื้นที่ ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่ที่เข้านั้นต่างประกอบไปด้วย ธุรกิจนำเข้าและส่งออก รวมถึงธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น