บลจ.กรุงไทยขายกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้อายุ 7 เดือน ชูผลตอบแทน 1.60%ต่อปี พร้อมเร่งระดมเงินข้ากองทุน RMF-LTFก่อนสิ้นปีนี้ ด้าน บลจ.นครหลวงไทยขาย 6 เดือน ผลตอบแทน 1.55%ต่อปี ขณะที่ บลจ.อยุธยานำเสนออายุ 5 เดือน และชูผลตอบแทนประมาณ 1.50%ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 7 เดือน 1 (KTFF7M1) ในวันที่ 25 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2552 เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ อายุโครงการ 7 เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท เป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ (Monetary Stabilization Bond หรือ Korea Treasury Bond) ทั้ง 100% ซึ่งปัจจุบันได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นระดับ F1โดย Fitch และเงินลงทุนจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการ 1.60%ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นการจำหน่ายกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยบริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเทรดดิ้ง เพื่อความสะดวกของลูกค้าในการซื้อขายหน่วยลงทุน โดยบริษัทมีการบริหารกองทุนแบบActive Management โดยผู้จัดการกองทุนจะประเมินภาวะตลาดในแต่ละช่วงจะติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจ ปัจจัยการลงทุนต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับช่วงเวลา โดยมีการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และการถือครองเงินสดให้เหมาะสม
ขณะเดียวกัน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของกองทุนประเภท RMF และ LTF ที่อยู่ภายใต้การบริการของบริษัท เช่นกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว (KTLF) ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 8.07% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 23.33% ย้อนหลัง 9 เดือนอยู่ที่ 57.89% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 73.37% ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ1 (RMF1) ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 9.11% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 22.88% ย้อนหลัง 9 เดือนอยู่ที่ 61.98% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 79.46%
หากลูกค้าลงทุนภายในปีนี้ จะได้รับประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับกองทุน RMF1-2 จากบริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และกองทุน RMF3 จากบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมรับโปรโมชั่นหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ มูลค่าสูงสุดถึง 6,300 บาท
ด้านนายรุ่งโรจน์ นิลนพคุณ ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานจัดการลงทุน บลจ.นครหลวงไทย กล่าวว่า บริษัทเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6M4/09 (NKT FFI6M4/09) ที่มีอายุประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ด้วยอัตราผลตอบแทนประมาณ 1.55% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่าย 0.45%) โดยบริษัทจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน โดยเน้นลงทุนใน Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) และ Korea Treasury Bond (KTB) ซึ่งเป็นตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลและ/หรือสถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารระยะสั้น F-1 จากสถาบัน Fitch Rating ลงทุนในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
ส่วนแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของการลงทุนในตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้ยังคงมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้ลดลงถึง 113 จุด ในเดือนพฤศจิกายน จาก 117 จุด ในเดือนตุลาคม ซึ่งในเดือนตุลาคมอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในปี 2009 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา และได้ปรับลดการคาดการณ์เกี่ยวกับราคาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสนับสนุมมุมมองที่ว่าอัตราดอกเบี้ยของเกาหลีใต้จะทรงตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอาคาพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน ลดลงสู่ 108 จุด จาก 110 จุด ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นสาเหตุในการปรับลดเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6M4/09 ถือเป็นกองทุนทางเลือกสำหรับนักลงทุนเนื่องจากผลตอบแทนยังเป็นที่น่าสนใจ และมีความเสี่ยงต่ำ โดยลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากผลตอบแทนที่ได้รับ เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันนี้ - 1 ธันวาคม 2552 นี้ และมูลค่าขั้นต่ำของการลงทุนเพียง 2,000 บาท ราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
ด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อยุธยา กล่าวว่า บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเกาหลี 5M1 (KFKGB5M1) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้อายุประมาณ 5 เดือน โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนที่มีระยะเวลาแน่นอน ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และเปิดขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเกาหลี 5M1เป็นการเสนอขายกองทุน อายุโครงการประมาณ 5 เดือน ที่เน้นลงทุนในพันธบัตร MSB ที่ออกโดยธนาคารกลางของเกาหลีใต้ โดยกองทุนจะปิดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนไว้ทั้งหมด ผู้ลงทุนจะได้รับอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไม่น้อยกว่า 1.50% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.40%) กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท
นายฉัตรพี กล่าวทิ้งท้ายว่า การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี ยังคงเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ออม และผู้ลงทุน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อยู่ในระดับต่ำ และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากไทยในขณะนี้