กระเเสบอนด์เกาหลียังเเรงดี หลัง BOK ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย บลจ.กรุงไทย ส่งกองทุน"กรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 12เดือน 10" ให้ยิลด์ 2.60%ต่อปี ส่วนบลจ.แอสเซทส่ง"เอฟไอเอฟตราสารหนี้ระยะสั้น 1/5M" จ่ายยิลด์ 2.20 % ต่อปี เปิดIPO ตั้งเเต่วันนี้ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 52 นี้ ขณะที่บลจ.นครหลวงไทย เปิดเพิ่มอีก 2 กอง ชูผลตอบแทน 3.5%ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ อัตราผลตอบแทนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสะท้อนภาวะการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และสัญญาณจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ในขณะเดียวกันตลาดอัตราแลกเปลี่ยนยังรอดูมาตรการที่จะประกาศเกี่ยวกับการควบคุมการก่อหนี้ระยะสั้นต่างประเทศของสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ทำให้ Cross Currency Swap สกุล USDKRW ปรับลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนปรับลดลงเช่นกัน จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้เมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 12เดือน 10 (KTFF12M10 ) อายุโครงการ 12 เดือน มูลค่า 1,500 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ (Monetary Stabilization Bond หรือ Korea Treasury )ทั้ง 100% ซึ่งปัจจุบันได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นระดับ F1โดย Fitch และเงินลงทุนจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.60%ต่อปี
ทางด้านนาย วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตัวเลขเงินทุนสำรองต่างประเทศของประเทศเกาหลีใต้ อยู่ที่ระดับ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศที่ดีขึ้น ที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ฟื้นตัวดีขึ้นมาก ซึ่งน่าจะส่งผลให้ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้มีเสถียรภาพดีขึ้น และมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ ซึ่งทำให้ธนาคารกลางของประเทศเกาหลีใต้เริ่มพยายามลดบทบาทการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายทางการเงินลง และอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะค่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ระดับ 2% ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจเกาหลีใต้
“จากสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น จึงยังคงแนะนำผู้ลงทุนให้ลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งพันธบัตรเกาหลีใต้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศไทย” นายวิน กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บลจ. แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมการเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดเอฟไอเอฟตราสารหนี้ระยะสั้น 1/5M (STFIXED-FIF1/5M) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Monetary Stabilization Bond (MSB)) อายุประมาณ 5 เดือน โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 2.20 % ต่อปี เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 29 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน นี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 2 (ACFIF2) ที่จะเปิดเสนอขายและรับซื้อรอบใหม่ วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ โดยกองทุนนี้เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยรอบการลงทุนนี้จะพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) อายุประมาณ 7 เดือน คาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 2.35% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ อัตราผลตอบแทนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสะท้อนภาวะการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และสัญญาณจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ในขณะเดียวกันตลาดอัตราแลกเปลี่ยนยังรอดูมาตรการที่จะประกาศเกี่ยวกับการควบคุมการก่อหนี้ระยะสั้นต่างประเทศของสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ทำให้ Cross Currency Swap สกุล USDKRW ปรับลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนปรับลดลงเช่นกัน จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้เมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 12เดือน 10 (KTFF12M10 ) อายุโครงการ 12 เดือน มูลค่า 1,500 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ (Monetary Stabilization Bond หรือ Korea Treasury )ทั้ง 100% ซึ่งปัจจุบันได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นระดับ F1โดย Fitch และเงินลงทุนจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.60%ต่อปี
ทางด้านนาย วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตัวเลขเงินทุนสำรองต่างประเทศของประเทศเกาหลีใต้ อยู่ที่ระดับ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศที่ดีขึ้น ที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ฟื้นตัวดีขึ้นมาก ซึ่งน่าจะส่งผลให้ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้มีเสถียรภาพดีขึ้น และมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ ซึ่งทำให้ธนาคารกลางของประเทศเกาหลีใต้เริ่มพยายามลดบทบาทการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายทางการเงินลง และอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะค่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ระดับ 2% ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจเกาหลีใต้
“จากสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น จึงยังคงแนะนำผู้ลงทุนให้ลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งพันธบัตรเกาหลีใต้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศไทย” นายวิน กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บลจ. แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมการเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดเอฟไอเอฟตราสารหนี้ระยะสั้น 1/5M (STFIXED-FIF1/5M) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Monetary Stabilization Bond (MSB)) อายุประมาณ 5 เดือน โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 2.20 % ต่อปี เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 29 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน นี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 2 (ACFIF2) ที่จะเปิดเสนอขายและรับซื้อรอบใหม่ วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ โดยกองทุนนี้เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยรอบการลงทุนนี้จะพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) อายุประมาณ 7 เดือน คาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 2.35% ต่อปี