บลจ.แอสเซท พลัส มองเศรษฐกิจปีหน้ารับปัจจัยบวกหนุนดัชนีขึ้นต่อเนื่อง หวังจับจังหวะช่วงหุ้นปรับฐานส่งไอพีโอกองทุนเปิด"แอสเซทพลัสสมาร์ท 3" ใน Smart Series เอาในนักลงทุนชอบหุ้น ตั้งแต่วันนี้ – 3 ธันวาคม 2552
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองและปัญหาทางด้านการลงทุนในส่วนของมาบตาพุตที่ยังไม่คืบหน้าในช่วงนี้ ประกอบกับการที่ดัชนีมีการปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากตลอดในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลง โดยน่าจะมีโอกาสปรับฐานมาเคลื่อนไหวที่กรอบ 640-670 จุด ในระยะสั้น ๆนี้
ดังนั้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่คาดว่าภาวะตลาดจะมีการปรับฐาน บริษัทจึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) ซึ่งเป็นกองทุนที่กำหนดเป้าหมายในการทยอยทำกำไรในระหว่างการลงทุน โดยจะเสนอขายครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2552
โดยเป้าหมายในการลงทุนของกองทุน ASP-SMART3 ยังคงเหมือนกับกองทุน Smart Series ก่อนหน้านี้ คือ ต้องการมุ่งสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยกำหนดเป้าหมายการทยอยทำกำไรด้วยวิธีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นทุก 0.50 บาท นั่นคือ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับผ่านจุดที่กำหนด 10.50 บาท, 11.00 บาท, 11.50 บาท, 12.00 บาท... กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายภายใน 3 วันทำการ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต้องพะวงกับการแกว่งตัวผันผวนของภาวะตลาด”นายวินกล่าว
สำหรับกองทุน ASP-SMART3 เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนแบบผสม อายุโครงการประมาณ 2 ปี โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ได้ 0 – 100% เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งส่งผลให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นจนอาจส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุน
“ในช่วงแรกของการลงทุน กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากราคาได้ปรับฐานลงมาจนต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเมื่อปัญหาที่กดดันตลาดอยู่มีแนวโน้มคลี่คลายลง รวมถึง หุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐระยะที่ 2 (SP2) ได้แก่ หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น”นายวินกล่าว
สำหรับความคืบหน้าของ 2 กองทุน SMART ที่ผ่านมา กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท (ASP-SMART) ซึ่งจัดตั้งกองทุนในวันที่ 10 เมษายน 52 มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรวม 5 บาทต่อหน่วยลงทุน ปัจจุบันกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 53% และลงทุนในตราสารหนี้และเงินสด 47% ขณะที่กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 2 (ASP-SMART2) ที่จัดตั้งวันที่ 9 ตุลาคม ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 80% และเงินสด 20% โดยปัจจุบันกองทุนอยู่ระหว่างการทยอยลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมเมื่อจังหวะตลาดปรับฐาน ทั้งนี้ หุ้นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หุ้นที่ได้รับประโยชน์ด้านการปรับขึ้นของราคาจากการควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition)
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองและปัญหาทางด้านการลงทุนในส่วนของมาบตาพุตที่ยังไม่คืบหน้าในช่วงนี้ ประกอบกับการที่ดัชนีมีการปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากตลอดในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลง โดยน่าจะมีโอกาสปรับฐานมาเคลื่อนไหวที่กรอบ 640-670 จุด ในระยะสั้น ๆนี้
ดังนั้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในจังหวะที่คาดว่าภาวะตลาดจะมีการปรับฐาน บริษัทจึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) ซึ่งเป็นกองทุนที่กำหนดเป้าหมายในการทยอยทำกำไรในระหว่างการลงทุน โดยจะเสนอขายครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2552
โดยเป้าหมายในการลงทุนของกองทุน ASP-SMART3 ยังคงเหมือนกับกองทุน Smart Series ก่อนหน้านี้ คือ ต้องการมุ่งสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยกำหนดเป้าหมายการทยอยทำกำไรด้วยวิธีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นทุก 0.50 บาท นั่นคือ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับผ่านจุดที่กำหนด 10.50 บาท, 11.00 บาท, 11.50 บาท, 12.00 บาท... กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายภายใน 3 วันทำการ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต้องพะวงกับการแกว่งตัวผันผวนของภาวะตลาด”นายวินกล่าว
สำหรับกองทุน ASP-SMART3 เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนแบบผสม อายุโครงการประมาณ 2 ปี โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ได้ 0 – 100% เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งส่งผลให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นจนอาจส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุน
“ในช่วงแรกของการลงทุน กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากราคาได้ปรับฐานลงมาจนต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเมื่อปัญหาที่กดดันตลาดอยู่มีแนวโน้มคลี่คลายลง รวมถึง หุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐระยะที่ 2 (SP2) ได้แก่ หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น”นายวินกล่าว
สำหรับความคืบหน้าของ 2 กองทุน SMART ที่ผ่านมา กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท (ASP-SMART) ซึ่งจัดตั้งกองทุนในวันที่ 10 เมษายน 52 มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรวม 5 บาทต่อหน่วยลงทุน ปัจจุบันกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประมาณ 53% และลงทุนในตราสารหนี้และเงินสด 47% ขณะที่กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 2 (ASP-SMART2) ที่จัดตั้งวันที่ 9 ตุลาคม ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 80% และเงินสด 20% โดยปัจจุบันกองทุนอยู่ระหว่างการทยอยลงทุนในหุ้นเพิ่มเติมเมื่อจังหวะตลาดปรับฐาน ทั้งนี้ หุ้นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หุ้นที่ได้รับประโยชน์ด้านการปรับขึ้นของราคาจากการควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition)
