xs
xsm
sm
md
lg

แอสเซทพลัสส่งกองทุนลุยหุ้นใหญ่ รอจังหวะเข้าเก็บช่วงดัชนีปรับฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซทพลัส ตั้งกองทุน "แอสเซทพลัสสมาร์ทเอควิตี้ 2" ส่งลุยหุ้นใหญ่ รับโอกาสฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ ชูกลุยทธ์หาจังหวะเข้าช่วงดัชนีปรับฐาน พร้อมกำหนดเป้าหมาย ทยอยทำกำไรที่ระดับ 5% ของพาร์ เอาใจลูกค้ากลัวความผันผวน
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในระยะที่เหลือของปีนี้ตามการปรับตัวของเศรษฐกิจหลักๆ ของโลก ทำให้คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ จะปรับตัวขึ้นก่อนที่ภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงจะเริ่มเห็นผล โดยมองว่าภาวะตลาดปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ยังมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นได้ ดังนั้น การหาจังหวะในช่วงตลาดปรับฐานระยะสั้นเข้าซื้อและถือลงทุนในหุ้นดี ๆ จึงเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทน ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะทรงอยู่ที่ระดับปัจจุบัน (1.25%) ไปจนถึงช่วงไตรมาส 1 ปี 2553 โดยอาจปรับเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1% ในปีหน้า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividends yield) หุ้นจดทะเบียนในตลาดอยู่ในระดับ 4-5% ทำให้การลงทุนในหุ้นมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ในจังหวะที่คาดว่าตลาดหลักทรัพย์อาจมีการปรับฐานระยะสั้นจากการทำกำไร หลังจากที่ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว บริษัท จึงเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ทเอควิตี้ 2 (ASP-SMART2) ในระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 8 ตุลาคม 2552 นี้

โดยกองทุน ASP-SMART2 มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกลุ่มสื่อสาร รวมไปถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐระยะที่ 2 (SP2) ได้แก่ หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นที่มีแนวโน้มของผลประกอบการที่ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี ได้แก่ หุ้นกลุ่มยานยนต์ และกลุ่มท่องเที่ยว หุ้นที่เป็นบริษัทที่เป็นผู้นำอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิหรือมีศักยภาพในการเติบโตสูง ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ โดยเลือกลงทุนในจังหวะที่เหมาะสมกับรอบธุรกิจของแต่ละอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ จุดเด่นของกองทุนดังกล่าว อยู่ที่การกำหนดเป้าหมายการทยอยทำกำไรที่ระดับ 5% ของพาร์ ด้วยวิธีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นทุก 0.50 บาท นั่นคือ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับผ่านจุดที่กำหนด 10.50 บาท, 11.00 บาท, 11.50 บาท, 12.00 บาท กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายภายใน 3 วันทำการ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต้องพะวงกับการแกว่งตัวผันผวนของภาวะตลาด

“จุดเด่นของกองทุนที่กลุ่มผู้ลงทุนยอมรับ คือ การทยอยทำกำไรคืนให้กับผู้ถือหน่วยจากกลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรุก และวิธีการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้ตราสารอนุพันธ์มาช่วยลดความเสี่ยงของกองทุน (Minimize Downside) ซึ่งคาดว่ากองทุนนี้จะยังได้รับการตอบรับที่ดี” นางลดาวรรณกล่าว

นางลดาวรรณกล่าวว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 52 บริษัทได้เน้นการออกผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย เพื่อสร้างช่องทางให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในการบริหารเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากกองทุนตราสารหนี้ทั่วไป ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน เช่น กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ทเอควิตี้ (ASP-SMART) ซึ่งสามารถจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับลูกค้าได้แล้วจำนวน 6 ครั้ง หลังจากจัดตั้งกองทุนประมาณ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 40% ของเงินลงทุนเริ่มแรก
กำลังโหลดความคิดเห็น