บลจ.ไอเอ็นจี โชว์ผลงาน 2 กองทุนอสังหาฯ "FUTUREPF- QHOP" กำไรวูบกว่า 20% เหตุท่องเที่ยวซบเซา ฉุดรายได้ค่าเช่าและบริการลดลง แต่ยังใจดีจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วย
นายสิทธิชัย จิตรตั้งตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ (QHOP) นั้น มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.489 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.1803 บาท เมื่อเทียบกับไตรมาเดียวกันของปี 2551 กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 48.623 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.2542 บาท ซึ่งพบว่ากำไรสุทธิของไตรมาส 3 เปลี่ยนแปลงลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29.07%
ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุน QHOP มีรายได้ค่าเช่าและบริการลดลงในอัตราร้อยละ 18.53 มีค่าใช้จ่ายรวมลดลงในอัตราร้อยละ 2.44 เนื่องจากมีจำนวนผู้เช่าลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์การเมืองในประเทศ2) ในระหว่างปี 2552 กองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้สอบทานการประเมินมูลค่าเงินลงทุนใน สิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนลงทุนไว้ โดยในไตรมาส 3 ปี 2552 มีการปรับมูลค่าของเงิน ลงทุนลดลงเป็นจำนวน 4.00 ล้านบาททั้งนี้กองทุนได้มีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น เป็นจำนวน 0.32 ล้านบาท และรับรู้ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเป็นจำนวน 4.32 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บลจ.ไอเอ็นจี จะทำการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 6 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2552 ของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ อีกด้วย โดยจะปันผลในอัตรา หน่วยลงทุนละ 0.20 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เเละจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) ว่ากองทุนดังกล่าวมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 109.131 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.2306 บาท หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2551 จะพบว่า กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 164.577 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.3477
ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนในรอบ 9 เดือนนั้น กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 320.973 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.6781 บาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิลดลง เนื่องมาจากกองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ทำการประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ประเมินราคาใช้วิธีพิจารณาจากรายได้ (Income Approach) โดยในไตรมาส 3 ปี 2551 มีการปรับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 89.80 ล้านบาท แต่ทั้งนี้กองทุนได้มีการลงทุนปรับปรุงสภาพของอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้นเป็นจำนวน 59.84 ล้านบาท และรับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่ เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 29.96 ล้านบาท
ขณะที่ในไตรมาส 3 ปี 2552 มีการปรับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4.40 ล้านบาท และกองทุนได้มีการลงทุนปรับปรุงสภาพของอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้นเป็นจำนวน 15.55 ล้านบาท และรับรู้ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 11.15 ล้านบาท
นอกจากนี้ บลจ.ไอเอ็นจี จะทำการจ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 12 ของ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 30กันยายน 2552 อีกด้วย โดยจะปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.26 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เเละจะ ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้
นายสิทธิชัย จิตรตั้งตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ (QHOP) นั้น มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.489 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.1803 บาท เมื่อเทียบกับไตรมาเดียวกันของปี 2551 กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 48.623 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.2542 บาท ซึ่งพบว่ากำไรสุทธิของไตรมาส 3 เปลี่ยนแปลงลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29.07%
ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุน QHOP มีรายได้ค่าเช่าและบริการลดลงในอัตราร้อยละ 18.53 มีค่าใช้จ่ายรวมลดลงในอัตราร้อยละ 2.44 เนื่องจากมีจำนวนผู้เช่าลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์การเมืองในประเทศ2) ในระหว่างปี 2552 กองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้สอบทานการประเมินมูลค่าเงินลงทุนใน สิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนลงทุนไว้ โดยในไตรมาส 3 ปี 2552 มีการปรับมูลค่าของเงิน ลงทุนลดลงเป็นจำนวน 4.00 ล้านบาททั้งนี้กองทุนได้มีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น เป็นจำนวน 0.32 ล้านบาท และรับรู้ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเป็นจำนวน 4.32 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บลจ.ไอเอ็นจี จะทำการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 6 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2552 ของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ อีกด้วย โดยจะปันผลในอัตรา หน่วยลงทุนละ 0.20 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เเละจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) ว่ากองทุนดังกล่าวมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 109.131 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.2306 บาท หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2551 จะพบว่า กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 164.577 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.3477
ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนในรอบ 9 เดือนนั้น กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 320.973 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.6781 บาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิลดลง เนื่องมาจากกองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ทำการประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ประเมินราคาใช้วิธีพิจารณาจากรายได้ (Income Approach) โดยในไตรมาส 3 ปี 2551 มีการปรับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 89.80 ล้านบาท แต่ทั้งนี้กองทุนได้มีการลงทุนปรับปรุงสภาพของอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้นเป็นจำนวน 59.84 ล้านบาท และรับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่ เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 29.96 ล้านบาท
ขณะที่ในไตรมาส 3 ปี 2552 มีการปรับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4.40 ล้านบาท และกองทุนได้มีการลงทุนปรับปรุงสภาพของอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้นเป็นจำนวน 15.55 ล้านบาท และรับรู้ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 11.15 ล้านบาท
นอกจากนี้ บลจ.ไอเอ็นจี จะทำการจ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 12 ของ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 30กันยายน 2552 อีกด้วย โดยจะปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.26 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เเละจะ ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้