บลจ.ไอเอ็นจี เผย ไตรมาส3 กองทุนอสังหาฯเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ กำไรเพิ่ม 46.30% หลังประเมินราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นถึง 17.10 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยเตรียมเฮรับเงินปันผล ขณะที่ กองทุน SIRIPF ผลงานยังดี เตรียมจ่ายเงินปันผลด้วยเช่นกัน
นายสิทธิชัย จิตรตั้งตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF)ประจำไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 ว่ากองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 71.474 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.3108 บาท ซึ่งกองทุนมีกำไรเพิ่มขึ้น 46.30 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2551 กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 47.854 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.2124 บาท
ขณะเดียวกันกองทุน MJLF มีผลกำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนอยู่ที่ 212.416 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.9235 บาท ซึ่งกองทุมีกำไรเพิ่มขึ้น 43.96% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปี 2551 กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.547 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.6415 บาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่กองทุนมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากกองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ทำการประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ประเมินราคาใช้วิธีพิจารณาจากรายได้ (Income Approach) โดยในไตรมาส 3 ปี 2552 มีการปรับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 17.10 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ กองทุนได้มีการลงทุนปรับปรุงสภาพของอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้นเป็นจำนวน 1.07 ล้านบาท และรับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 16.03 ล้านบาท
สำหรับงวด 9 เดือนปี 2552 นั้นกองทุนมีการปรับมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 58.10 ล้านบาท ทั้งนี้กองทุนได้มีการลงทุนปรับปรุงสภาพของอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้นเป็นจำนวน 7.03 ล้านบาท และรับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 51.07 ล้านบาท ขณะที่ในงวด 9 เดือนปี 2551 มีการปรับต้นทุนของอสังหาริมทรัพย์ลดลงเป็นจำนวน 0.32 ล้านบาท และรับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 0.32 ล้านบาท
นอกจากนี้บลจ.ไอเอ็นจี จะทำการจ่ายเงินปันกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ ครั้งที่ 9 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.237 บาท โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 2.เเละปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้อีกด้วย
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) สุดวันที่ 30 กันยายน 2552 กองทุมมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15.718 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.1817 บาท เมื่อเทียบกับไตรมาเดียวกันของปี 2551 กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15.852 ล้านบาทเเละมีกำไรสุทธิต่อหน่วยลงทุนอยู่ที่ 0.1829 บาท
ขณะที่ผลกาดำเนินงานงวด 9 เดือนกองทุมีกำไรอยู่ที่ 31.046 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.3589 บาท ซึ่งกองทุมมีกำไรลดลง 63.61% เทียบกับงวดเดียวกันในปี 2551 กองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 85.326 ล้านบาท เเละมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.9864 บาท
โดยสาเหตุที่ทำให้กำไรในรอบ 9 เดือนลดลงเนื่องมาจากในเดือนมิถุนายน 2551 กองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้มีการสอบทานมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้ลงทุนไว้โดยใช้วิธีเปรียบเทียบราคาตลาด (Market Comparison Approach)โดยมีมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้นจาก 878.00 ล้านบาทเป็น 915.72 ล้านบาท และบริษัทได้รับรู้กำไรสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจำนวน 37.72 ล้านบาท
ในขณะที่เดือนพฤษภาคม 2552 กองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยใช้วิธีเปรียบเทียบราคาตลาด (Market ComparisonApproach) ซึ่งมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้ลงทุนไว้มีมูลค่ายุติธรรมลดลงจาก 915.72 ล้านบาทเป็น 899.60ล้านบาท และบริษัทได้รับรู้ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนเป็นจำนวน 16.12 ล้านบาท จึงเป็นเหตุให้กำไรสุทธิของงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนในอัตราดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้บลจ.ไอเอ็นจี จะจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ครั้งที่ 16จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 30กันยายน 2552 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.182 บาท โดยจะจ่าย เงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เเละปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 นี้อีกด้วย
