โบรกเกอร์กองทุน มองตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนอยู่ หลังปัจจัยเสี่ยง"การเมือง"ยังมีต่อเนื่อง พร้อมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่ชัดเจน เเนะนำนักลงทุนลงกองทุนตราสารหนี้-กองทุนตลาดเงินเพิ่ม เพื่อลดความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยง
นางสาวศุภมาส พยัคฆพันธ์ Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 3.22% มาปิดที่ 708.76 จุด ซึ่งนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงการเมือง เเละปัญหาการระงับโครงการลงทุนที่มาบตาพุด รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูงต่อไปอีก ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจาก ยังไม่มีสัญญาณการปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากทิศทางฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมที่ 1.25%
ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯแต่ตลาดหุ้นจีนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2.24% มาปิดที่ 3,261.63 จุด ซึ่งเศรษฐกิจของจีนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง GDP ไตรมาส 3 ของจีนประกาศออกมาสูงถึง 8.9%
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปแกว่งตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงไม่แข็งแรงดังเห็นได้จากผลประกอบการ และตัวเลขทางเศรษฐกิจ จากการประกาศผลประกอบการที่น่าผิดหวังหลายบริษัทในสหรัฐฯ และการปรับลดคำแนะนำให้ขาย เวลส์ ฟาร์โก้ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นในช่วงกลางสัปดาห์ในกลุ่มการเงินที่ยังมีปัญหาเรื่องหนี้เสียในระดับสูง
ทั้งนี้การประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาดอย่างเช่นยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับขึ้น 0.5% อยู่ที่ 590,000 ยูนิตในเดือน ก.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิตเองก็ปรับตัวลดลง 0.6% YoY ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปแกว่งตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีในกลุ่มเทคโนโลยี และค้าปลีกก็ตาม ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทที่สำคํญๆ ในสหรัฐฯ ต่อไป
นางสาวศุภมาส กล่าวต่อว่า แม้ว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น น้ำมัน หรือ ทองคำ ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามค่าเงินดอลล่าร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง แต่ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศไทยยังคงอ่อนแอ เราจึงยังคงคำแนะนำให้นักลงทุนเน้นลงทุนในกองตราสารหนี้ และตลาดเงิน เป็นหลักเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยกองทุนตราสารหนี้เราแนะนำ กองทุนเปิดทหารไทยธนวัฒน์ ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในกลุ่มสถาบันการเงินเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม การลงทุนตลาดเงิน เรายังคงเเนะนำ กองทุนเปิดฟิลลิปบริหารเงิน ซึ่งมีผลการดำเนินงานยังคงสามารถชนะ Benchmark เงินฝากประจำ 3 เดือนได้ต่อเนื่องและสินทรัพย์ที่ลงมีความเสี่ยงต่ำโดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และเงินฝากเป็นหลัก ขณะที่ลงทุนในกรุงศรีมันนี่ (ที่เปลี่ยนชื่อจากกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่) มีผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีที่ผ่าน มาโดดเด่นจากการเก็บค่าธรรมเนียมการบริหารที่ต่ำ และการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นแต่จากการควบรวมกับ บลจ. อยุธยา หรือ AYF แล้วนั้นอาจทำให้นโยบายของกองเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
สำหรับตราสารหนี้ต่างประเทศเรายังคงแนะนำ T-Global Bond ต่อไปตามเดิม Distribution Yield* 30 ก.ย. 52 อยู่ที่ 4.79% โดยช่วงที่ผ่านมาผลการดำเนินงานได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงทำให้กอง Master Fund มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงทาง บลจ. ธนชาต มีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วนตามสถานการณ์ (Dynamic Hedging)
นางสาวศุภมาส พยัคฆพันธ์ Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 3.22% มาปิดที่ 708.76 จุด ซึ่งนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงการเมือง เเละปัญหาการระงับโครงการลงทุนที่มาบตาพุด รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูงต่อไปอีก ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจาก ยังไม่มีสัญญาณการปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากทิศทางฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมที่ 1.25%
ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯแต่ตลาดหุ้นจีนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2.24% มาปิดที่ 3,261.63 จุด ซึ่งเศรษฐกิจของจีนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง GDP ไตรมาส 3 ของจีนประกาศออกมาสูงถึง 8.9%
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปแกว่งตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงไม่แข็งแรงดังเห็นได้จากผลประกอบการ และตัวเลขทางเศรษฐกิจ จากการประกาศผลประกอบการที่น่าผิดหวังหลายบริษัทในสหรัฐฯ และการปรับลดคำแนะนำให้ขาย เวลส์ ฟาร์โก้ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นในช่วงกลางสัปดาห์ในกลุ่มการเงินที่ยังมีปัญหาเรื่องหนี้เสียในระดับสูง
ทั้งนี้การประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาดอย่างเช่นยอดขายบ้านใหม่ที่ปรับขึ้น 0.5% อยู่ที่ 590,000 ยูนิตในเดือน ก.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิตเองก็ปรับตัวลดลง 0.6% YoY ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปแกว่งตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีในกลุ่มเทคโนโลยี และค้าปลีกก็ตาม ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทที่สำคํญๆ ในสหรัฐฯ ต่อไป
นางสาวศุภมาส กล่าวต่อว่า แม้ว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น น้ำมัน หรือ ทองคำ ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามค่าเงินดอลล่าร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง แต่ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศไทยยังคงอ่อนแอ เราจึงยังคงคำแนะนำให้นักลงทุนเน้นลงทุนในกองตราสารหนี้ และตลาดเงิน เป็นหลักเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยกองทุนตราสารหนี้เราแนะนำ กองทุนเปิดทหารไทยธนวัฒน์ ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในกลุ่มสถาบันการเงินเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม การลงทุนตลาดเงิน เรายังคงเเนะนำ กองทุนเปิดฟิลลิปบริหารเงิน ซึ่งมีผลการดำเนินงานยังคงสามารถชนะ Benchmark เงินฝากประจำ 3 เดือนได้ต่อเนื่องและสินทรัพย์ที่ลงมีความเสี่ยงต่ำโดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และเงินฝากเป็นหลัก ขณะที่ลงทุนในกรุงศรีมันนี่ (ที่เปลี่ยนชื่อจากกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่) มีผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีที่ผ่าน มาโดดเด่นจากการเก็บค่าธรรมเนียมการบริหารที่ต่ำ และการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นแต่จากการควบรวมกับ บลจ. อยุธยา หรือ AYF แล้วนั้นอาจทำให้นโยบายของกองเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
สำหรับตราสารหนี้ต่างประเทศเรายังคงแนะนำ T-Global Bond ต่อไปตามเดิม Distribution Yield* 30 ก.ย. 52 อยู่ที่ 4.79% โดยช่วงที่ผ่านมาผลการดำเนินงานได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงทำให้กอง Master Fund มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงทาง บลจ. ธนชาต มีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วนตามสถานการณ์ (Dynamic Hedging)
