xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.บัวหลวงชี้ปัญหามาบตาพุด เร่งแก้ไขถูกจุดหวั่นต่างชาติขาดความเชื่อมั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.บัวหลวง ชี้หลังศาลปกครองกลางสั่งระงับ 76 โครงการซึ่งกำลังจะก่อสร้างในพื้นที่มาบตาพุด เผยลงทุนหุ้นกระทบตามแต่ละกรณี แต่ต้องไม่ประมาท แนะรัฐฯ ควรมีแนวทางที่ชัดเจน ถ้าแก้ไขปัญหาไม่เสร็จ แก้ไม่สุด เราจะเสียโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนใหม่ ๆ ในอนาคต นักลงทุนขาดความมั่นใจ
นางวรวรรณ ธาราภูมิ
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยถึง กรณีที่ศาลปกครองกลางสั่งระงับ 76 โครงการซึ่งกำลังจะก่อสร้างในพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉาง และบริเวณใกล้เคียงในจังหวัดระยองเป็นการชั่วคราวนั้น มองว่า ปัจจุบันนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอนคำสั่งระงับดังกล่าวแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้อง ซึ่งอาจจะมีสถานะเป็นคดีเร่งด่วน จึงเชื่อว่าน่าจะมีผลการวินิจฉัยออกมาในอีกไม่นานนัก

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม NGO ก็เตรียมที่จะยื่นคัดค้านการอุทธรณ์ดังกล่าวด้วย และยังเตรียมยื่นคำร้องให้ศาลสั่งระงับโครงการเพิ่มอีกกว่า 500 โครงการ ที่ทาง NGO เชื่อว่ายังไม่มีการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญมาตรา 67

สำหรับผลกระทบในเชิงลบต่อการลงทุนในหุ้นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องย่อมมีมากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีไป และแม้ว่าผู้ลงทุนสถาบันต่างๆ จะได้รับรู้ข้อมูลแล้ว และข่าวในเชิงลบนั้นน่าจะ Price In ไปในราคาหุ้นแล้ว แต่เราต้องติดตามต่อไปไม่ใช่ติดตามเพียงผลกระทบต่อตัวหุ้นนั้นๆ แต่ต้องประเมินเป็นภาพกว้างถึงนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมกับการหลีกเลี่ยงหรือเยียวยาผลกระทบต่อชุมชน ว่ารัฐบาลจะชั่งน้ำหนักอย่างไรดี มีทางออกอย่างไรบ้าง หากจะจัดตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบการพิจารณาผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) แล้วจะทำอย่างไรต่อ เพราะมันไม่จบแค่นั้น

อย่างไรก็ดี โชคยังดีที่ปัญหามาบตาพุดในขณะนี้ยังไม่ได้ทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) สูง เพราะเกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ได้ไปไหนไกล ประเทศอุตสาหกรรมหลักที่เจอพิษเศรษฐกิจเขาสามารถฟื้นตัวได้ช้า แต่เมื่อใดที่เศรษฐกิจโลกกลับพลิกฟื้นได้ แล้วเรายังแก้ไขปัญหาไม่เสร็จ แก้ไม่สุด เราจะเสียโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนใหม่ ๆ ในอนาคต จะไม่เข้ามาในประเทศ เพราะเขาไม่รู้ทิศทางของเรา และไม่มั่นใจว่าจะเดินหน้าแล้วถอยหลังอีกหรือไม่

"เราคงมองเฉพาะในแง่การพัฒนาอุตสาหกรรม การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการจ้างงาน แต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะโลกกำลังเดินหน้าไปในทางที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตมากขึ้น ปัญหาเรื่องนี้กำลังเป็นไก่กับไข่หรือเปล่า ไม่มีงานก็ไม่มีกิน มีกินแต่ป่วย หรือ ตายก็ไม่ไหว เราจะไปทอดทิ้งคนบางกลุ่มเพื่อการพัฒนาประเทศไปเฉยๆ ไม่ได้ หรือหากมีคำสั่งให้เยียวยาคนในชุมชนจนเป็นที่พอใจแล้ว แต่เขาต้องรอไปอีกหลายปีก่อนจะได้รับการเยียวยาก็ไม่ไหว และที่สำคัญที่สุดคือต้องให้ชุมชนเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนที่จะได้รับผลกระทบ กับให้กลุ่ม NGO ได้รับรู้ ได้เข้าใจ และยอมรับการตัดสินใจกัน"

ส่วน Road Map ของการพัฒนาประเทศ จึงต้องคำนึงถึงทุกๆ ด้าน ดังนั้น เราจะต้องมีคำตอบว่าเราจะไปทิศทางไหนที่ดีที่สุดต่อประชาชนคนไทยในประเทศ และคิดให้ทะลุไปจนปลายทาง ไม่ควรแก้ปัญหาเป็นเฉพาะกรณี ไป เพราะหากทำโครงการไปแล้วมาเพิกถอนกันทีหลัง โครงการต่างๆ อาจจะเสียหาย การลงทุนของทุกๆ คนทั้งผู้ลงทุนในโครงการนั้น ๆ โดยตรง กับผู้ลงทุนสถาบันอย่างเราหรือนักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ ก็อาจเสียหายไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น