xs
xsm
sm
md
lg

ก.อุตฯ ขอ 2.5 พัน ล. ยกเครื่องใหญ่ก่อสร้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- กระทรวงอุตสาหกรรม ต่อยอดโครงการไทยเข้มแข็งกระตุ้นเศรษฐกิจระลอก 2 เตรียมเสนองบ 2,500 ล้านบาท จัดทำแผนพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย เริ่มต้นปี 2553 – 2555 หวั่นไทยเสียเปรียบบริษัทรับเหมาก่อสร้างต่างชาติ ช่วยเหลือแรงงานเกือบ 3 ล้านคน ดึงเข้าสังกัดก.อุตฯ จัดสัมมนาใหญ่นายกฯนั่งหัวโต๊ะ30ก.ย.นี้

นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีนโยบายให้จัดทำ “แผนพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย” ภายใต้การดำเนินงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นไปตาม “แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555” โดยจะมีการนำเสนอของบประมาณ 2,500 ล้านบาทดำเนินงานภายใต้แผน 3 ปี (2553 – 2555 ) เพื่อให้ภาคก่อสร้างของไทยสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้งบประมาณดังกล่าวจะแบ่งเป็นปี 2553 จะใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ปี2554 จะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท และในปี 2555 จะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติงานตาม “แผนพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย” มุ่งแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งระบบใน 3 ด้าน 1) การพัฒนาบุคลากร 2)การพัฒนายกระดับวิสาหกิจ และ3) การสร้างเครือข่ายวิจัยและพัฒนา (R&D)

“ อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยยังขาดมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ ไม่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วยโครงการเมกะโปรเจคส์ขนาดใหญ่ ซึ่งจุดนี้อาจจะส่งผลต่อการแข่งขันที่ผู้ประกอบการรับเหมาของไทยไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติได้ ดังนั้นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างภายใต้ แผนพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเพื่อให้อุตสาหกรรมดังกล่าวมีทิศทางการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน ” นายสรยุทธ กล่าว

สำหรับแผนพัฒนาอุตฯก่อสร้างนั้น แบ่งเป็น ด้านแผนการพัฒนาบุคลากร จะเน้นการพัฒนาบุคลากรให้เป็นแรงงานที่มีมาตรฐานในระดับสากล โดยมีสถาบันทำหน้าที่ฝึกอบรมทักษะและความเชี่ยวชาญในด้านงานก่อสร้าง รวมทั้งมีการขึ้นบัญชีบุคลากร พร้อมทั้งมีหน่วยงานกลางเพื่อทดสอบคุณภาพฝีมือแรงงาน นับเป็นการยกระดับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างไทยที่จะป้อนเข้าสู่ระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านการพัฒนายกระดับวิสาหกิจ จะเน้นการดูแลยกระดับภาคประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วประเทศที่มี 84,700 ราย เข้าสู่การจัดทำมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้เป็นธุรกิจมีการดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใสและมีความเป็นธรรมกับผู้บริโภค เป็นการสร้างศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่ยอมรับในมาตรฐานระดับประเทศและสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยในอนาคตจะมีการออกใบรับรองคุณภาพให้กับผู้ประกอบการ ด้านแผนการสร้างเครือข่าย R&D จะเน้นในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงจากสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะความร่วมมือในด้าน R&D เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรและการศึกษาสภาพตลาดมุ่งสู่การเป็น Green Construction Industry

โดยตัวเลขการจ้างงานจากข้อมูลของกรมโรงงานอุตสาหกรรมพบว่า ก่อนวิกฤติเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมก่อสร้างมีการจ้างแรงงานประมาณ 4 ล้านคน และปัจจุบันลดลงเหลือ 2.5 ล้านคน (ไม่รวมภาคการผลิตและขนส่งที่เกี่ยวข้อง) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีการลงทุนของภาครัฐและเอกชนรวมกันกว่า 7 แสนล้านบาทต่อปี คิดเป็น 6% ในสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

นางสาวกฤษณา รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างไทย จะเป็นอุตสาหกรรมหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการสามารถพัฒนายกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันโดยการใช้เทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นตลาดหลักที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย และก้าวทันกับข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) ในการเปิดเสรีทางการค้าที่ไทยมีพันธกรณีในเวทีโลกในปี 2010 ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้มีการปรับตัวทันกับการแข่งขันในเวทีการค้าโลก

อย่างไรก็ตามกระทรวงอุตสาหกรรมจะได้ร่วมกับวุฒิสภาโดยคณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพานิชย์และอุตสาหกรรมจัดงานสัมมนา ระดมความคิดเห็น จากผู้แทนภาครัฐ นักวิชาการ และเอกชนผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้าง กว่า 500 คนในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ“ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่การแข่งขันในตลาดโลก” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำแผนพัฒนาเชิงปฏิบัติการให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น