xs
xsm
sm
md
lg

อาซึชิ ฟูจิโมโตะ“ผมยังหาจุดอ่อนฮอนด้าไม่เจอ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีโอกาสได้ร่วมสัมภาษณ์ “อาซึชิ ฟูจิโมโตะ” ประธาน ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อ 1 เมษายน ที่ผ่านมา กับภาระหนักที่ต้องควบคุมนาวาฮอนด้า ที่กำลังอยู่ในช่วงร้อนแรงสุดๆ และแม้ยอดขายในตลาดรวมครึ่งปีแรกจะลดลงไป 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ถ้ามองคู่แข่งรายอื่นๆ หรือตลาดรวมต่างมีตัวเลขถดถอยระดับ 2 หลักกันทั้งนั้น...วันนี้เราจะพาไปเปิดวิสัยทัศน์ของผู้นำคนใหม่ และติดตามทิศทางของค่ายรถยนต์ฮอนด้า
อาซึชิ ฟูจิโมโตะ
- สภาพตลาดครึ่งปีหลัง

6 เดือนแรกของปี 2552 ยอดขายรวมทุกยี่ห้อปิดประมาณ 2.3 แสนคัน ตกไปกว่า 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าตลาดรถยนต์จะมีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ต่อเนื่อง จะช่วยฟื้นบรรยากาศและเรียกความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี คาดว่ายอดขายรวมสิ้นปีนี้น่าจะทำได้ 4.8 แสนคัน (ลดลง 22% เมื่อเทียบกับปี 2551)

- ยอดขายฮอนด้า

ต้นปีเราคาดว่าจะทำยอดขายได้ 80,000 คัน แต่เมื่อเล็งเห็นถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เราจึงปรับเป้ายอดขายเพิ่มอีก 4,000 คัน เป็น 84,000 คัน

- ลูกค้าหลายรายบ่นเรื่องซื้อรถแล้วรอนาน

ช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาต้นปีนี้ เราได้ปรับลดกำลังผลิต เนื่องจากประเมินว่าความต้องการของตลาดในประเทศ และส่งออกมีแนวโน้มลดลง แต่เมื่อทิศทางตลาดกลับมาสดใส เราจึงเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการลูกค้า โดย 2 โรงงานจะผลิตรวม 1.2 แสนคัน (จากกำลังการผลิตเต็มที่ 2.4 แสนคัน)

- ตอนนี้มียอดรอค้างส่งมอบเท่าไหร่

บางรุ่นบางสีต้องรอประมาณ 2-3 เดือน หรือถ้าคิดเป็นจำนวนคันแล้ว ตอนนี้เรายังมียอดค้างส่งมอบ (Back Order) อยู่ประมาณ 16,000 คัน

- อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ฮอนด้าประสบความสำเร็จ

เป็นเพราะการทำงานหนักของพนักงาน รวมถึงทีมงาน R&D (วิจัยและพัฒนา) ที่นำความต้องการของลูกค้ามาใส่ในตัวโปรดักต์ ซึ่งเห็นได้จากรถยนต์ของฮอนด้าที่ได้รับความนิยมมาก

“ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา เราสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่ง ขณะที่ 6 เดือนแรกของปี เรามีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งถึง 39.4% และตลาดรวม 17.3% ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ ทำให้มั่นใจว่า เราดำเนินนโยบายที่ถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จะต้องทำงานหนักเพื่อเพิ่มความไว้ใจที่ลูกค้ามีต่อฮอนด้า”

- ความคืบหน้าโครงการอีโคคาร์

อยู่ระหว่างวางแผน และเป็นไปตามแผน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเปิดตัวเมื่อไหร่

- โตโยต้าเตรียมเจรจากับบีโอไอ (รัฐบาล) เรื่องปรับเงื่อนไขผลิต 100,000 คัน/ปี ภายในปีที่ 5

ต้องเข้าใจว่าตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนจากพิษเศรษฐกิจ ขณะที่การส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศลดลงอย่างมาก และกลายเป็นความหนักใจของทุกค่ายที่ยื่นข้อรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการอีโคคาร์ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องมีการพูดคุยระหว่างค่ายรถ เพื่อหาข้อสรุปและชี้แจงกับบีโอไออีกครั้ง แต่กระนั้นสิ่งที่เราทำได้คือ การพยายามลดต้นทุนการผลิตให้ได้มากที่สุด และจะส่งผลถึงเม็ดเงินลงทุนที่ลดลง

- พอใจกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่เก็บรถยนต์นั่งในปัจจุบันหรือไม่

เรารู้สึกว่าภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งยังสูงไป แต่ก็ยอมรับและยังทำธุรกิจบนเงื่อนไขนี้ และเรายังไม่มีแผนเข้าไปพูดคุยกับรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว
ฮอนด้า อินไซท์ ไฮบริด ครั้งมาอวดโฉมในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2009
- ฮอนด้าจะทำตลาดรถไฮบริดในไทยหรือไม่

ปัจจุบันถือเป็นแนวโน้มโลกที่ ลูกค้าจะหันมาหารถประหยัดพลังงาน เช่นเดียวกับรถไฮบริด ที่ได้รับความนิยม แต่ปัจจุบันรถไฮบริด ยังมีเทคโนโลยีและต้นทุนสูง คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ขณะที่ฮอนด้าเองยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเริ่มทำตลาดเมื่อไหร่

- โตโยต้าเริ่มทำตลาด คัมรี่ ไฮบริด แล้ว

ถือเป็นตัวอย่างที่ดี และเป็นโอกาสที่เราจะได้เก็บข้อมูลตลาด

- หลังเข้ามารับตำแหน่ง คุณมองว่าจุดอ่อนของฮอนด้าคืออะไร

ตอนนี้ยังหาจุดอ่อนของบริษัทไม่เจอ แต่ที่จะเป็นจุดอ่อนมากที่สุดคือตัวผมเอง เพราะไม่สามารถพูดภาษาไทยได้
กำลังโหลดความคิดเห็น