บลจ.แอสเซท พลัส เผยแนวโน้มเงินดอลล์อ่อนค่าต่อเนื่อง ดึงนักลงทุนโยกเงินลงทุนตลาดหุ้นเอเชียและทองคำแทน ชี้ระยะสั้นราคาทอง มีโอกาสพุ่งแตะ 1,100 เหรียญ ขณะที่กองทุนเปิดแอสเซทพลัสออยล์ เอ็นเอวีโตขึ้นกว่า 3 เท่า จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น มั่นใจก่อนสิ้นปีราคาน้ำมันอยู่ที่ 75 เหรียญต่อบาร์เรล
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1,100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ จากการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำเพิ่มมากขึ้นเพื่อหวังทำกำไรระยะสั้นมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การที่ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งให้ผลการดำเนินงานและเอ็นเอวีของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาทองคำในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาหรือนับตั้งแต่ บลจ.แอสเซทพลัสได้มีการจัดตั้งกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ (ASP-GOLD) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 15% ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.5% และ ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2552 พบว่ากองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท
"ที่ผ่านมานักลงทุนให้การตอบรับและเข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เอ็นเอวีกองทุนของเราได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 70 ล้านบาท โดยเราได้มีการแนะนำนักลงทุนจะมีการเทขายหน่วยลงทุนออกบ้างเพื่อทำกำไร และเข้าซื้ออีกครั้งในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงหรือมีการปรับฐาน เพื่อรอทำกำไรในช่วงที่ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ขณะนี้ เอ็นเอวีของกองทุนได้ปรับตัวลดลงไปบ้าง จากการขายของนักลงทุนและการปรับเพิ่มของราคาทองคำทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ"นายวินกล่าว
นายวินกล่าวอีกว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะนี้ เนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่ ได้มีการสับเปลี่ยนการลงทุนหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียและทองคำแทนการลงทุนในค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากว่า ราคาทองคำมีทิศทางสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น หากค่าเงินดอลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1,000 เหรียญต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากนี้ จะมีการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองคำในตลาดโลกให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ข้อดีของการเลือกลงทุนในทองคำ มีประโยชน์ในด้านการช่วยปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนในการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนที่เน้นการเกร็งกำไรระยะสั้นการลงทุนในทองคำจึงถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะการที่ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนด้วย "นายวิน กล่าว
นายวิน กล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนในทองคำขณะนี้ มีให้นักลงทุนได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในทองคำแท่ง ,Gold Futures หรือการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ เช่นกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ ที่ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำ โดยเป็นการลงทุนที่สะดวกและง่าย อีกทั้งทองที่กองทุนใช้ลงทุนเป็นทองคำ 99.9% ขณะที่ทองคำที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดหรือ Gold Futures ใช้ทองคำ 96.5% ในขระที่ความเสี่ยงจากการลงทุนยังน้อยกว่า เพราะมีการป้องกันความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหรือการอ่อนค่าหรือแข็งค่าของค่าเงินในขณะนั้นๆ ดังนั้น นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตามความเป็นจริง
ทั้งนี้ นอกจากราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นแล้ว ราคาน้ำมันเองก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยกองทุนเปิดแอสเซทพลัสออยล์ (ASP-OIL) พบว่าตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ผลการดำเนินงานได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกองทุนเปิดASP-OIL มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 10% ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% ทั้งนี้ เอ็นเอวีของกองทุนเปิด ASP-OILได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่านับตั้งแต่ปิดไอพีโอ โดยการเติบโตของกองทุน เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการและแนวโน้มการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคาดว่าก่อนสิ้นปี 2552 ราคาน้ำมันจะปรับตัวไปอยู่ที่ 75 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เพราะขณะนี้ ราคาน้ำมันอยู่ที่ 72 เหรียญต่อออนซ์
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1,100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ จากการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำเพิ่มมากขึ้นเพื่อหวังทำกำไรระยะสั้นมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การที่ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งให้ผลการดำเนินงานและเอ็นเอวีของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาทองคำในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาหรือนับตั้งแต่ บลจ.แอสเซทพลัสได้มีการจัดตั้งกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ (ASP-GOLD) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 15% ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.5% และ ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2552 พบว่ากองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท
"ที่ผ่านมานักลงทุนให้การตอบรับและเข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เอ็นเอวีกองทุนของเราได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 70 ล้านบาท โดยเราได้มีการแนะนำนักลงทุนจะมีการเทขายหน่วยลงทุนออกบ้างเพื่อทำกำไร และเข้าซื้ออีกครั้งในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงหรือมีการปรับฐาน เพื่อรอทำกำไรในช่วงที่ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ขณะนี้ เอ็นเอวีของกองทุนได้ปรับตัวลดลงไปบ้าง จากการขายของนักลงทุนและการปรับเพิ่มของราคาทองคำทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ"นายวินกล่าว
นายวินกล่าวอีกว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะนี้ เนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่ ได้มีการสับเปลี่ยนการลงทุนหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียและทองคำแทนการลงทุนในค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากว่า ราคาทองคำมีทิศทางสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น หากค่าเงินดอลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1,000 เหรียญต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากนี้ จะมีการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองคำในตลาดโลกให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ข้อดีของการเลือกลงทุนในทองคำ มีประโยชน์ในด้านการช่วยปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนในการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนที่เน้นการเกร็งกำไรระยะสั้นการลงทุนในทองคำจึงถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะการที่ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนด้วย "นายวิน กล่าว
นายวิน กล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนในทองคำขณะนี้ มีให้นักลงทุนได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในทองคำแท่ง ,Gold Futures หรือการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ เช่นกองทุนเปิดแอสเซทพลัสโกลด์ ที่ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำ โดยเป็นการลงทุนที่สะดวกและง่าย อีกทั้งทองที่กองทุนใช้ลงทุนเป็นทองคำ 99.9% ขณะที่ทองคำที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดหรือ Gold Futures ใช้ทองคำ 96.5% ในขระที่ความเสี่ยงจากการลงทุนยังน้อยกว่า เพราะมีการป้องกันความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหรือการอ่อนค่าหรือแข็งค่าของค่าเงินในขณะนั้นๆ ดังนั้น นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตามความเป็นจริง
ทั้งนี้ นอกจากราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นแล้ว ราคาน้ำมันเองก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยกองทุนเปิดแอสเซทพลัสออยล์ (ASP-OIL) พบว่าตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ผลการดำเนินงานได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกองทุนเปิดASP-OIL มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 10% ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% ทั้งนี้ เอ็นเอวีของกองทุนเปิด ASP-OILได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่านับตั้งแต่ปิดไอพีโอ โดยการเติบโตของกองทุน เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการและแนวโน้มการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคาดว่าก่อนสิ้นปี 2552 ราคาน้ำมันจะปรับตัวไปอยู่ที่ 75 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เพราะขณะนี้ ราคาน้ำมันอยู่ที่ 72 เหรียญต่อออนซ์
