บลจ.กสิกรไทยยิ้มแก้มปริ กองทุนทองคำ "เค โกลด์ (K-GOLD)" กวาดยอดไอพีโอ 10 วัน 335.82 ล้านบาท เชื่อเป็นเครื่องมือการลงทุนที่สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เหตุมีความสัมพันธ์กับตราสารหนี้ และหุ้นน้อย พร้อมเตรียมเสนอขายได้อีกครั้ง 28 ก.ค.นี้
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิด เค โกลด์ (K-GOLD) ระหว่างวันที่ 5-15 กรกฏาคม ที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดสั่งจองหน่วยลงทุนเข้ามากว่า 335.82 ล้าน โดยกองทุนนี้พร้อมจะเปิดรับคำสั่งชื้อครั้งต่อไป ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2551
สำหรับกองทุนเปิดเค โกลด์ จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท และผู้ลงทุนสามารถลงทุนกับกองทุนเค โกลด์ ในช่วงเสนอขายครั้งแรกได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท
นอกจากนี้ กองทุนยังมีมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง โดคยจ่ายในอัตราไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องไม่ทำให้กองทุนรวมมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นในงวดบัญชีที่มีการจ่ายปันผลนั้น
ทั้งนี้ ทางบริษัทเชื่อมั่นว่าการลงทุนในทองคำจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีในการลงทุน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผลตอบแทนของทองคำมีความสัมพันธ์กับผลตอบแทนของตราสารทางการเงินและของหุ้นไม่มากนัก ทำให้เป็นเครื่องมือในการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเช่นในปัจจุบัน
อนึ่งนายอโศก วงศ์ชะอุ่ม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทยจำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ลงทุนชาวไทยส่วนหนึ่งคุ้นเคยลงทุนในทองคำโดยตรงอยู่แล้ว แต่การลงทุนผ่านกองทุนเปิดเค โกลด์ จะเป็นทางเลือกที่สะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อย ตลอดจนมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงเพราะสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และยังมีผู้บริหารกองทุนมืออาชีพช่วยดูแลในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยและเป็นผลตอบแทนที่สะท้อนราคาทองคำในตลาดโลก”
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2551 บลจ.กสิกรไทยได้เตรียมที่จะออกกองทุนใหม่เพิ่มเติมนอกจากกองทุนคำ เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยแนวทางการออกกองทุนของบริษัทจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งจะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย และบรรยากาศการลงทุน
อย่างไรก็ตามกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทตั้งเป้าว่าจะออกมาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน 2-3 กองในปีนี้นั้น ขณะนี้ยังทำการเปิดขายได้เพียงกองเดียว ส่วนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอยู่ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ โดยกองทุนที่จะทำการเปิดขายเป็นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ของ โรงแรมในเครือเซ็นทารา โดยจะมีการจัดสัมนาให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนในโอกาสต่อไป
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิด เค โกลด์ (K-GOLD) ระหว่างวันที่ 5-15 กรกฏาคม ที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดสั่งจองหน่วยลงทุนเข้ามากว่า 335.82 ล้าน โดยกองทุนนี้พร้อมจะเปิดรับคำสั่งชื้อครั้งต่อไป ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2551
สำหรับกองทุนเปิดเค โกลด์ จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท และผู้ลงทุนสามารถลงทุนกับกองทุนเค โกลด์ ในช่วงเสนอขายครั้งแรกได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท
นอกจากนี้ กองทุนยังมีมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง โดคยจ่ายในอัตราไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องไม่ทำให้กองทุนรวมมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นในงวดบัญชีที่มีการจ่ายปันผลนั้น
ทั้งนี้ ทางบริษัทเชื่อมั่นว่าการลงทุนในทองคำจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีในการลงทุน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผลตอบแทนของทองคำมีความสัมพันธ์กับผลตอบแทนของตราสารทางการเงินและของหุ้นไม่มากนัก ทำให้เป็นเครื่องมือในการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเช่นในปัจจุบัน
อนึ่งนายอโศก วงศ์ชะอุ่ม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทยจำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ลงทุนชาวไทยส่วนหนึ่งคุ้นเคยลงทุนในทองคำโดยตรงอยู่แล้ว แต่การลงทุนผ่านกองทุนเปิดเค โกลด์ จะเป็นทางเลือกที่สะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อย ตลอดจนมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงเพราะสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และยังมีผู้บริหารกองทุนมืออาชีพช่วยดูแลในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยและเป็นผลตอบแทนที่สะท้อนราคาทองคำในตลาดโลก”
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2551 บลจ.กสิกรไทยได้เตรียมที่จะออกกองทุนใหม่เพิ่มเติมนอกจากกองทุนคำ เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยแนวทางการออกกองทุนของบริษัทจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งจะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย และบรรยากาศการลงทุน
อย่างไรก็ตามกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทตั้งเป้าว่าจะออกมาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน 2-3 กองในปีนี้นั้น ขณะนี้ยังทำการเปิดขายได้เพียงกองเดียว ส่วนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอยู่ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ โดยกองทุนที่จะทำการเปิดขายเป็นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ของ โรงแรมในเครือเซ็นทารา โดยจะมีการจัดสัมนาให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนในโอกาสต่อไป