xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเวลาคืนกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์คุยกับผู้จัดการกองทุน
ณัฐพัชร์ ลัคนาธรรมพิชิต
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด
0-2686-9500


ท่านผู้อ่านได้เห็นชื่อของบทความวันนี้แล้ว คงอดที่จะนึกไปถึงโฆษณาของร้านสะดวกซื้อต่างๆไม่ได้ ที่มักจะมีช่วงเวลา “คืนกำไรให้กับลูกค้า” เช่นเดียวกับการลงทุนในช่วงนี้ หากผู้ลงทุนไม่ได้ลดน้ำหนักการลงทุน ไม่ว่าจะในตราสารทุนหรือตราสารหนี้ สองถึงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาล้วนลดลงกันถ้วนหน้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเกือบทั่วโลกเป็นตัวชี้นำ

ช่วงนี้ถ้าจะเปรียบกับการดำเนินเรื่องในนิทาน “ราชสีห์กับหนู” ก็คงจะเป็นตอนที่หนูถูกราชสีห์จับตัวไว้ได้ และมีการขอร้องว่า อย่าฆ่า ”หนู” เลย โปรดไว้ชีวิต “หนู” เถิด สักวัน “ข้าน้อยอาจจะช่วยท่านได้บ้างในอนาคต” เทียบได้กับอัตราดอกเบี้ยที่ขยับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาก ทำให้ขาดทุนจากราคาของพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลง หลังจากที่ได้ลดน้ำหนักการลงทุนลงไปในคราวก่อนแล้ว ครั้งนี้จึงขอคงน้ำหนัก “หนู” ไว้เท่าเดิม

หันมาดู ตราสารทุน หรือ ราชสีห์ บ้าง น่าจะเปรียบกับเรื่องราวใน “The Lion King” ตอนที่ซิมบ้าเสียท่าแก่กลุ่มไฮอีน่า 3 ตัวที่ชื่อ บันไซ เช็นซิ และเอ็ด (Banzai, Shenzi & Ed) เทียบได้กับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯที่ยังคงลดลงต่อเนื่องมากว่า 3 สัปดาห์ เช่นเดียวกับ ทีโมนและพุมบ้าก็เสียท่า แม้ว่าค่าเงินบาทยังคงอ่อนตัวลงอยู่บ้าง แต่ราคาทองคำกลับลดลงในสัดส่วนที่มากกว่าทำให้ขาดทุน ทั้งนี้ยังคาดว่าซิมบ้า ทีโมนและพุมบ้ายังมีโอกาสที่จะกลับมาได้เปรียบคู่ต่อสู้ จึงขอเพิ่มน้ำหนักให้กับการลงทุนในตราสารทุนและทองคำอีกอย่างละ 5% โดยลดน้ำหนักเงินในส่วนของสภาพคล่องจากที่มีอยู่ 25% คงเหลือเพียง 15% ราคาทองคำได้ลดลงมาอยู่ที่ 864 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แต่ค่าเงินของ USD ก็สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาทมาอยู่ที่ 33.149 บาท หรือ ขาดทุนจากราคาทองคำแต่กำไรจากค่าเงินของ USD รวมเบ็ดเสร็จทั้งคู่ยังขาดทุนอยู่ 0.07% โดยปรับให้มีน้ำหนักการลงทุนในทองคำเป็น 20% เช่นเดียวกับตราสารทุนที่ขาดทุนไปอีก 3.23% โดยปรับให้มีน้ำหนักเป็น 35% ส่วนตราสารหนี้ขาดทุนไปอีกรวม 2.41% โดยคงน้ำหนักรวมไว้ที่ 30% ถือได้ว่าเป็นการคืนกำไรครั้งใหญ่ให้กับตลาดการลงทุน ช่วงนี้พอร์ตโฟลิโอขาดทุนไปทั้งสิ้น 1.33% คงเหลือกำไรสะสมมาตั้งแต่ 20 ธ.ค. 50 หรือประมาณ 6 เดือน อยู่ที่ 4.42% ตามที่แสดงไว้ในตารางประกอบ

บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว เพื่อเป็นตัวอย่างด้วยการใช้ข้อมูลจริงในการจัดสัดส่วนของพอร์ตโฟลิโอและหาจังหวะในการปรับน้ำหนักในการลงทุน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น