บลจ.ไทยพาณิชย์เตรียมเปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลด์ ลิงค์ 3 ต่อระหว่างวันที่ 4-10 ก.ค.นี้ หลัง 2 กองแรกกวาดยอดเงินลงทุนรวมกันกว่า 1,530 ล้านบาท ชูผลตอบแทนประมาณ 9% ต่อปี เหตุแนวโน้มราคาทองคำจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) อีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลด์ ลิงค์ 3 (SCBGLF3) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน อายุโครงการประมาณ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 4-10 กรกฎาคม 2551 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยยังอยู่ในระหว่างขออนุมัติจัดตั้งและจัดการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured note) ของสถาบันการเงินต่างประเทศ ที่มีเงื่อนไขที่จะชำระเงินต้นคืนเต็มจำนวน (ตามสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย) ซึ่งออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยตราสารจะมีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาทองคำที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
ส่วนเงื่อนไขในการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงของกองทุน มีดังนี้ กรณีที่ ราคาทองคำ ณ วัน ทำการก่อนหน้าวันครบอายุตราสารหรือวันครบอายุโครงการ 5 วันทำการเท่ากับหรือปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาทองคำ ณ วันทำการในวันเริ่มลงทุนหรือ ณ วันจดทะเบียนกองทุนรวม ตราสารดังกล่าวจะให้อัตราผลตอบแทนเท่ากับ 9% ต่อปี หากราคาทองคำ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้น กองทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนแต่อย่างใด ทั้งนี้ กองทุนจะได้รับเงินต้นคืนในรูปเงินสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทั้งจำนวน
แหล่งข่าว บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ทองคำยังคงมีความน่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยหลักมาจากความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนสถาบันต่างๆ เริ่มมาลงทุนในทองคำ โดยเฉพาะกองทุนทั้งกองทุนที่ลงทุนด้านทองคำโดยเฉพาะ และกองทุนสวัสดิการต่างๆ ที่หันมาถือครองทองคำในระยะยาว ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาทองคำจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอีกอย่างน้อยในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า
ส่วนการตัดสินใจออกกองทุนทองคำกองต่อไปนั้นจะดูจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสมให้กับผู้ลงทุน เนื่องจากราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก การเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญ และจากการที่ช่วงนี้ราคาทองได้ปรับลดลงเล็กน้อย หลังจากที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาที่ผ่านมา (Price Correction) ทั้งที่อุปสงค์ในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง จึงยังคงเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าลงทุนในทองคำ บริษัทจึงมีแผนที่จะออกกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลด์ ลิงค์ 3 (SCBGLF3) โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายได้ประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้
ขณะที่การออกกองทุนทองคำที่สามารถเข้าซื้อขายได้ทุกวัน และมีลักษณะคล้ายกับกองทุนตลาดเงิน (Money Market) เนื่องจากการเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุนที่ถูกต้องนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนในทองคำ การออกกองทุนเปิดที่สามารถเข้าซื้อขายได้ทุกวัน นักลงทุนต้องศึกษา และเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุนเอง และมีโอกาสที่จะขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวลดลง บริษัทจึงยังคงเน้นกองทุนทองคำที่ช่วยผู้ลงทุนในการเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุน พร้อมทั้งให้ความคุ้มครองเงินต้นหากราคาทองคำปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทำการศึกษาและมีแนวโน้มที่จะออกกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเป็นกองทุนเปิดที่สามารถเข้าซื้อขายได้ทุกวัน
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) อีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลด์ ลิงค์ 3 (SCBGLF3) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน อายุโครงการประมาณ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 4-10 กรกฎาคม 2551 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยยังอยู่ในระหว่างขออนุมัติจัดตั้งและจัดการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured note) ของสถาบันการเงินต่างประเทศ ที่มีเงื่อนไขที่จะชำระเงินต้นคืนเต็มจำนวน (ตามสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย) ซึ่งออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยตราสารจะมีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาทองคำที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
ส่วนเงื่อนไขในการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงของกองทุน มีดังนี้ กรณีที่ ราคาทองคำ ณ วัน ทำการก่อนหน้าวันครบอายุตราสารหรือวันครบอายุโครงการ 5 วันทำการเท่ากับหรือปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาทองคำ ณ วันทำการในวันเริ่มลงทุนหรือ ณ วันจดทะเบียนกองทุนรวม ตราสารดังกล่าวจะให้อัตราผลตอบแทนเท่ากับ 9% ต่อปี หากราคาทองคำ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้น กองทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนแต่อย่างใด ทั้งนี้ กองทุนจะได้รับเงินต้นคืนในรูปเงินสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทั้งจำนวน
แหล่งข่าว บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ทองคำยังคงมีความน่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยหลักมาจากความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนสถาบันต่างๆ เริ่มมาลงทุนในทองคำ โดยเฉพาะกองทุนทั้งกองทุนที่ลงทุนด้านทองคำโดยเฉพาะ และกองทุนสวัสดิการต่างๆ ที่หันมาถือครองทองคำในระยะยาว ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาทองคำจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอีกอย่างน้อยในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า
ส่วนการตัดสินใจออกกองทุนทองคำกองต่อไปนั้นจะดูจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสมให้กับผู้ลงทุน เนื่องจากราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก การเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญ และจากการที่ช่วงนี้ราคาทองได้ปรับลดลงเล็กน้อย หลังจากที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาที่ผ่านมา (Price Correction) ทั้งที่อุปสงค์ในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง จึงยังคงเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าลงทุนในทองคำ บริษัทจึงมีแผนที่จะออกกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลด์ ลิงค์ 3 (SCBGLF3) โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายได้ประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้
ขณะที่การออกกองทุนทองคำที่สามารถเข้าซื้อขายได้ทุกวัน และมีลักษณะคล้ายกับกองทุนตลาดเงิน (Money Market) เนื่องจากการเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุนที่ถูกต้องนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนในทองคำ การออกกองทุนเปิดที่สามารถเข้าซื้อขายได้ทุกวัน นักลงทุนต้องศึกษา และเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุนเอง และมีโอกาสที่จะขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวลดลง บริษัทจึงยังคงเน้นกองทุนทองคำที่ช่วยผู้ลงทุนในการเลือกจังหวะเวลาเข้าลงทุน พร้อมทั้งให้ความคุ้มครองเงินต้นหากราคาทองคำปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทำการศึกษาและมีแนวโน้มที่จะออกกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเป็นกองทุนเปิดที่สามารถเข้าซื้อขายได้ทุกวัน
