xs
xsm
sm
md
lg

ยูโอบีแย้มยังสนบอนด์กิมจิ-แขก จ่อ‘ซุปเปอร์สไตรค์3’ลุยหุ้นไทยต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ยูโอบี (ไทย) แย้ม ยังสนใจออกกองบอนด์กิมจิ และตะวันออกกลาง แต่ขอประเมินดีมานด์ลูกค้าก่อน ด้านกองทุนหุ้น ได้อานิสงส์ดัชนีพุ่ง ลุ้นเข้าเป้าหมาย ส่งกองที่ 3 ต่อ ชูลูกเล่นใหม่ดึงลูกค้า

นายวนา พูลผล
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนงานการออกกองทุนของบริาทยังให้ความสนใจออกกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ และกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง แต่ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของนักลงทุนด้วย โดยหากจะออกกองทุนทั้ง 2 ประเภทออกมา กองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ จะเน้นออกกองทุนที่มีอายุโครงการประมาณ 1 – 2 ปี ขณะที่กองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลางจะมีอายุโครงการประมาณ 4 ปี 6 เดือนขึ้นไป

ขณะเดียวกัน กองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรเดนมาร์กในปัจจุบัน ให้ผลตอบแทนที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งนับว่าค่อนข้างน้อยเกินไป และไม่อยู่ในระดับที่น่าสนใจแล้ว ส่วนตราสารหนี้ในภูมิภาคอื่นที่นอกเหนือไปจากพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ และพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลางยังไม่มีตราสารหนี้ที่น่าสนใจแต่อย่างใด

ส่วนกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 2 (UOBSS2) ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นภายในประเทศ และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 10% ยังไม่ได้ยกเลิกโครงการ แต่ก็ใกล้จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายแล้ว เพราะว่ามูลค่าหน่วยลงทุน (เอ็นเอวี) อยู่ที่ประมาณ 11 บาทแล้ว คาดว่าหากตลาดหุ้นปรับขึ้นไปอีกในช่วง 1 – 2 วันนี้น่าจะสามารถยกเลิกโครงการได้ จากนั้นจะทำการออกกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 3 (UOBSS3) มาทันที ซึ่งจะมีลูกเล่นพิเศษที่แตกต่างจากสองกองทุนแรกในซีรีส์เดียวกัน

นายวนา กล่าวว่า ความคืบหน้าของกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ซึ่งบริษัทให้ความสนใจสินทรัพย์อย่างการลงทุนในน้ำมัน และทองคำ โดยการออกกองทุนน้ำมันในปัจจุบันไม่สามารถออกอีทีเอฟที่สามารถซื้อขายทุกวัน และซื้อโดยตรงไม่ได้ ซึ่งจะต้องไปซื้อฟิวเจอร์แทน ส่งผลให้ผลตอบแทนจะไม่ตรงกัน นอกจากนี้ ยังไม่สามารถซื้อเก็บไว้ได้เหมือนทองคำ ต้องมีการลงทุนครั้งละ 1 เดือน ทำให้มูลค่าหน่วยลงทุนกับราคาน้ำมันในตลาดจะไม่ปรับขึ้นไปในระดับเดียวกัน ซึ่งจะต้องอธิบายให้นักลงทุนเข้าใจถึงสาเหตุดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะออกกองทุนที่รูปแบบอื่นมาทดแทน แต่อาจจะมีการอ้างอิงผลตอบแทน (ลิงก์) กับน้ำมันเหมือนกัน ซึ่งจะเป็นกองทุนที่มีการตั้งเป้าหมายผลตอบแทน (ทาร์เก็ต รีเทิร์น) เอาไว้ โดยอาจจะเป็นการลงทุนในน้ำมัน หรือหุ้นในต่างประเทศ ส่วนราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 900 – 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่งผลให้โอกาสในการปรับขึ้นไป (อัพ ไซส์) ค่อนข้างน้อยแล้ว

สำหรับกรณีกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะขอฉันทามติประเทศสมาชิกเพื่อนำทองคำที่เป็นทุนสำรองออกมาขายจะมีผลกดดันให้ราคาทองคำปรับลดลงไป มองว่ายังขึ้นอยู่กับอุปสงค์ และอุปทานในทองคำเป็นสำคัญ ขณะที่กองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวท ฟันด์) ในปัจจุบันพบว่านักลงทุนเริ่มให้ความสนใจมาลงทุนในหุ้น และหุ้นกู้คุณภาพดีมากขึ้น โดยรวมแล้วนักลงทุนหันมามองสินค้าที่มีความหลากหลาย และมีความเสี่ยงบ้าง จากเดิมที่จะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอายุลงทุนระยะสั้น และมีความปลอดภัยเสียเป็นส่วนใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น