บลจ.ไอเอ็นจี ประเมินเศรษฐกิจเอเชียฟื้น โอกาสของตลาดหุ้นไทย ระบุราคายังถูกกว่าเพื่อนบ้าน ลุ้นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนครึ่งปีหลังรุ่ง เชียร์นักลงทุน ทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ต ชูกองทุน"ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์"เเละกองทุน"ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ - ปันผล" หลังผลตอบเเทนเข้าตา ที่ดีสุดในรอบ 8 เดือน
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา บลจ.ไอเอ็นจี ให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นไทยมาก จากการประเมินว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ดังนั้น หลังจากนี้ไป จะเป็นช่วงของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่า ประเทศในกลุ่มเอเชีย เป็นเป้าหมายหลักของการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และตลาดหุ้นไทยก็เป็นตลาดหุ้นที่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจ จากการคาดการณ์การปรับเพิ่มขึ้นของผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลัง ที่มีแนวโน้มจะออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งตลาดหุ้นไทยยังมีราคาถูกกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
ทั้งนี้ หากพิจารณาการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เราจะพบว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 ที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับว่าน่าสนใจ เพราะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น ตลาดหุ้นซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนภาพเศรษฐกิจจริงก็จะปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ที่ได้รับการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับลิปเปอร์ ให้เป็นกองทุนหุ้นที่มีผลตอบแทนสูงที่สุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2552 เเละสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง54.99% เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลาเดียวกันที่เพิ่มขึ้น 45.18% รองลงมา คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ - ปันผล ซึ่งผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 54.44%
อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อิควิตี้ฟันด์เป็นกองทุนหุ้นที่มีการดำเนินงานที่ดีสม่ำเสมอ จากการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ที่ผ่านการคัดกรองจากผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานดี เนื่องจากหุ้นที่เข้าลงทุนให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง โดยกองทุนเน้นลงทุนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นและสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นได้
นอกจากนี้ บลจ.ไอเอ็นจี ร่วมกับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นการลงทุนในกองทุนภายใต้การบริหาร 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ซึ่งเน้นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ที่เน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศเกรทเทอร์ ไชน่า ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง และไต้หวัน โดยจะต้องลงทุนผ่านธนาคารทหารไทยตั้งแต่วันนี้ - 15 ต.ค.2552 ยอดลงทุนทุกๆ 200,000 บาท จะได้รับบัตรกำนัล Central Gift Voucher มูลค่า 500 บาท เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และบัตรกำนัล TESCO LOTUS มูลค่า 500 บาท สำหรับลูกค้าในเขตธุรกิจสาขาภูมิภาค ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องถือครองหน่วยลงทุนในแต่ละยอดลงทุนไม่น้อยกว่า 3 เดือนนับจากวันที่ลงทุนและไม่สามารถสะสมยอดลงทุนได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารทหารไทย ทุกสาขาทั่วประเทศอีกด้วย
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา บลจ.ไอเอ็นจี ให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นไทยมาก จากการประเมินว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ดังนั้น หลังจากนี้ไป จะเป็นช่วงของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่า ประเทศในกลุ่มเอเชีย เป็นเป้าหมายหลักของการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และตลาดหุ้นไทยก็เป็นตลาดหุ้นที่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจ จากการคาดการณ์การปรับเพิ่มขึ้นของผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลัง ที่มีแนวโน้มจะออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งตลาดหุ้นไทยยังมีราคาถูกกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
ทั้งนี้ หากพิจารณาการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เราจะพบว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 ที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับว่าน่าสนใจ เพราะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น ตลาดหุ้นซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนภาพเศรษฐกิจจริงก็จะปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ที่ได้รับการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับลิปเปอร์ ให้เป็นกองทุนหุ้นที่มีผลตอบแทนสูงที่สุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2552 เเละสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง54.99% เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลาเดียวกันที่เพิ่มขึ้น 45.18% รองลงมา คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ - ปันผล ซึ่งผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 54.44%
อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อิควิตี้ฟันด์เป็นกองทุนหุ้นที่มีการดำเนินงานที่ดีสม่ำเสมอ จากการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ที่ผ่านการคัดกรองจากผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานดี เนื่องจากหุ้นที่เข้าลงทุนให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง โดยกองทุนเน้นลงทุนหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นและสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นได้
นอกจากนี้ บลจ.ไอเอ็นจี ร่วมกับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นการลงทุนในกองทุนภายใต้การบริหาร 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ซึ่งเน้นการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ที่เน้นการลงทุนในกลุ่มประเทศเกรทเทอร์ ไชน่า ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง และไต้หวัน โดยจะต้องลงทุนผ่านธนาคารทหารไทยตั้งแต่วันนี้ - 15 ต.ค.2552 ยอดลงทุนทุกๆ 200,000 บาท จะได้รับบัตรกำนัล Central Gift Voucher มูลค่า 500 บาท เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และบัตรกำนัล TESCO LOTUS มูลค่า 500 บาท สำหรับลูกค้าในเขตธุรกิจสาขาภูมิภาค ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะต้องถือครองหน่วยลงทุนในแต่ละยอดลงทุนไม่น้อยกว่า 3 เดือนนับจากวันที่ลงทุนและไม่สามารถสะสมยอดลงทุนได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารทหารไทย ทุกสาขาทั่วประเทศอีกด้วย