xs
xsm
sm
md
lg

สถาบันซื้อบิ๊กล็อตTFUNDต่อเนื่อง เพียง2วันเก็บเข้าพอร์ต7.8ล้านหน่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุนรวมอสังหาฯไทคอน เนื้อหอม พบบิ๊กล็อต 2 ต่อเนื่องจำนวน 7.8 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 62.03 ล้านบาท คาดสถาบันเข้าซื้อเพื่อหวังผลตอบแทนระยะยาว ด้านโบรกฯประเมินวิกฤตเศรษฐกิจฉุดอัตราค่าเช่า และอัตราการเช่าปีนี้ลดลง

รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแจ้งว่า วานนี้(23เม.ย.) มีการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ซึ่งมีมูลค่าสูงสุด 11.13 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 7.95 บาท ในจำนวน 1.4 ล้านหน่วย มูลค่า 11.13 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน แม้ภาพรวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์ จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ซึ่งส่งผลให้กองทุนประเภทที่ดินและโรงงานให้เช่าประสบปัญหาในเรื่องลูกค้าใหม่ที่มีจำนวนน้อยลง หรือไม่มีเข้ามาเพิ่มเติม จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศที่มีความกังวลต่อเสถียรภาพ และความปลอดภัยในการลงทุนในไทย แต่กลับพบว่า ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน (22เม.ย.) มีการซื้อหน่วยลงทุนTFUND ในลักษณะ BIG LOT จำนวนถึง 6.4 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 7.95 บาท มูลค่ารวม 50.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อนำการซื้อหน่วยลงทุนแบบBIGLOT ทั้ง 2 วันมารวมกันจะมีจำนวนหน่วยลงทุนที่ทำการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 7.8 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 62.03 ล้านบาท โดยมีการคาดการณ์ว่า มีนักลงทุนสถาบันรายหนึ่งเข้ามาเก็บหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าว เนื่องจากมองว่ามีราคาที่ถูกและยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนกลับคืนในระยะยาว

บทวิเคราะห์ จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ระบุถึง TFUND ว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้อัตราการส่งออกสินค้าของไทยลดลง จึงคาดว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้เช่าของ TFUND ได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ซึ่งน่าจะส่งให้ผู้เช่า มีการต่อรองขอปรับลดค่าเช่าลง ฉะนั้นจึงได้ปรับสมมติฐานให้ในปีนี้อัตราค่าเช่าปรับลดลงประมาณ 5.0% และปรับลดอัตราการเช่าลดลงจาก 95% เป็น 93% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราได้มาจากการสอบถามจากผู้บริหารของ TFUND

โดยจากราคาของ TFUND ที่ปรับลดลงมาค่อนข้างมากจากระดับประมาณ 10 บาทต้นๆ มาที่ระดับประมาณ 8 บาท นั้น เท่าที่ได้ข้อมูลจากผู้บริหาร พบว่าเป็นเพราะผู้ถือหน่วยชาวต่างชาติรายหนึ่งมีการขายออกจำนวนในตลาด ประกอบช่วงที่ผ่านมาภาวะตลาดทำให้สภาพคล่องค่อนข้างน้อย ราคาจึงปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก

“เราประมาณว่า ณ ระดับราคาดังกล่าวมีความน่าสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากจะให้อัตราผลตอบแทนถึงประมาณ 10% ตามการประมาณการอัตราเงินปันผลที่เราคาดไว้ในปีนี้ที่ 0.82 บาท/หน่วย จึงยังคงคำแนะนำ”ซื้อ”ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจากข้างต้นที่เราได้ปรับลดลงอัตราค่าเช่า และอัตราการเช่าลง มีผลทำให้ราคาเป้าหมายของเราลดลงจากเดิมที่ 11.10 บาท/หน่วยเป็น 10.20 บาท/หน่วย”

อนึ่ง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน(TFUND) เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป หรือเป็นกองทุนอสังหาฯ Type I เช่นเดียวกับ Real Estate Investment Trust (REIT). TFUND มุ่งธุรกิจในการสร้างโรงงานที่ได้มาตรฐานสำหรับปล่อยเช่าในประเทศไทย โดยไม่มีการกำหนดอายุของโครงการ ด้วยขนาดกองทุนฯในปัจจุบันประมาณ 7.60 พันล้านบาท พอร์ตสินทรัพย์ของ TFUND ประกอบด้วยโรงงาน 175 โรงด้วยพื้นที่ 416,975 ตร.ม.ซึ่งโรงงานจะตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรม 8 แห่งศูนย์การขนส่ง 1 แห่ง ทั้งในชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) และในภาคกลาง—อยุธยา, ชลบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการและระรอง—ซึ่งใกล้กับสนามบิน, ท่าเรื่อ, นิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญและจุดเชื่อมต่อการขนส่ง TFUND จดทะเบียนในตลาดฯ ในเดือน พ.ค. 2548 โดยโรงงานทั้งหมดเป็นโรงงานของ TICON ซึ่งยังคงเป็นผู้จัดการอสังหาฯ

ทั้งนี้ TFUND มีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิประจำปีและอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดฯ TFUND จ่ายเงินปันผลทุกไตรมาสด้วยอัตราจ่ายเงินปันผลที่ประมาณ 100%

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) ยอมรับว่า TICON มีความกังวลในการขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) จำนวน 2.5 พันล้านบาทว่าจะไม่ได้ตามจำนวนเนื่องจากภาวะตลาดไม่ค่อยดี รวมถึงการขายที่เลื่อนออกไปด้วยจากเดิมปลายไตรมาส 2 เป็นไตรมาส 3 ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทคงจะปรับลดลงจากปีก่อนพอสมควร จากที่ปีก่อนบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น