บลจ.ยูโอบี (ไทย) พอใจยอดขาย "ยูโอบี มิดเดิ้ลอีสท์ บอนด์" ปิดไอพีโอ ระดมทุนได้กว่า 1,350 ล้านบาท ระบุแม้ดีมานด์สูง แต่ซีรี่ส์ 2 ยังต้องรอ เหตุตราสารหนี้ตะวันออกกลางหายาก ส่วน "ยูโอบี สมาร์ท เอเชีย รีคัฟเวอรี่" ปิดไอพีโอได้ 37 ล้านบาท
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดยูโอบี มิเดิ้ลอีสท์ บอนด์ อายุโครงการประมาณ 4 ปี 7 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลประเทศกาตาร์ 75% และรัฐอาบูดาบี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) อีก 25% ที่เปิดขายก่อนหน้านี้ได้รับการตอบรับดีพอสมควร และขายดีมาก โดยสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,350 ล้านบาท
ขณะที่กองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ท เอเชีย รีคัฟเวอรี่ อายุโครงการประมาณ 2 ปี ที่เน้นลงทุนในกองทุนเปิด United Asia Recovery ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่บริหารโดย บลจ.ยูโอบี สิงคโปร์ ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่ในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ประมาณ 15-20 ตัว และเปิดขายในช่วงเวลาเดียวกันสามารถระดมทุนได้ประมาณ 37 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่เลวจนเกินไปนัก
ทั้งนี้ ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลประเทศกาตาร์ และรัฐอาบูดาบี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ค่อนข้างมีจำกัด ขณะที่นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ท เอเชีย รีคัฟเวอรี่จะต้องสามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูง จึงสามารถระดมทุนได้น้อยกว่า และต้องมีมุมมองว่าหลังจาก 2 ปีไปภาวะเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้น
นายวนา กล่าวว่า บริษัทอาจจะออกกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในภูมภาคเอเชียตะวันออกกลางออกมาอีก แต่คงต้องดูผลตอบแทน และปริมาณความต้องการของลูกค้าประกอบกันไปด้วย และอายุโครงการน่าจะใกล้เคียงกับโครงการที่ผ่านมา ซึ่งตราสารหนี้ส่วนใหญ่ที่ออกโดยประเทศในภูมิภาคดังกล่าวมักจะมีอายุโครงการประมาณ 4 ปีขึ้นไป และตราสารหนี้อายุสั้นไม่ค่อยมี
ส่วนตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้มีความน่าสนใจ โดยยังอยู่ในระหว่างการพิจาราณา หากออกมาน่าจะมีอายุโครงการประมาณ 1 – 2 ปี ส่วนมูลค่าโครงการน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป แต่ต้องดูที่ผลตอบแทน อายุตราสารหนี้อีกครั้ง
สำหรับกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 2 ที่เน้นลงทุนหุ้นในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีศักยภาพในการเติบโตสูงเป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมายยกเลิกกองทุนเมื่อสามารสร้างผลตอบแทนได้ 10% ภายในปีแรกหรือ 20% ภายในปีที่ 2 ซึ่งในปัจจุบันมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) อยู่ที่ประมาณ 10.3638 บาทต่อหน่วย
นายวนา กล่าวว่า กองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 2 ยังคงทยอยเข้าออกลงทุนแบบเก็บเล็กผสมเล็กน้อยจนกว่าจะได้ผลตอบแทนที่กำหนดไว้ แต่บริษัทยังไม่ออกกองทุนที่มีลักษณะนี้ออกมาจนกว่าจะสร้างผลตอบแทนของกองทุนนี้ให้ได้ตามกำหนดก่อน เพราะว่าต้องการบริหารครั้งละกองทุนมากกว่า และเชื่อว่าหากทำได้จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และเข้ามาลงทุนมากขึ้น
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดยูโอบี มิเดิ้ลอีสท์ บอนด์ อายุโครงการประมาณ 4 ปี 7 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลประเทศกาตาร์ 75% และรัฐอาบูดาบี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) อีก 25% ที่เปิดขายก่อนหน้านี้ได้รับการตอบรับดีพอสมควร และขายดีมาก โดยสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,350 ล้านบาท
ขณะที่กองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ท เอเชีย รีคัฟเวอรี่ อายุโครงการประมาณ 2 ปี ที่เน้นลงทุนในกองทุนเปิด United Asia Recovery ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่บริหารโดย บลจ.ยูโอบี สิงคโปร์ ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่ในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ประมาณ 15-20 ตัว และเปิดขายในช่วงเวลาเดียวกันสามารถระดมทุนได้ประมาณ 37 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่เลวจนเกินไปนัก
ทั้งนี้ ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลประเทศกาตาร์ และรัฐอาบูดาบี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ค่อนข้างมีจำกัด ขณะที่นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ท เอเชีย รีคัฟเวอรี่จะต้องสามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูง จึงสามารถระดมทุนได้น้อยกว่า และต้องมีมุมมองว่าหลังจาก 2 ปีไปภาวะเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้น
นายวนา กล่าวว่า บริษัทอาจจะออกกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในภูมภาคเอเชียตะวันออกกลางออกมาอีก แต่คงต้องดูผลตอบแทน และปริมาณความต้องการของลูกค้าประกอบกันไปด้วย และอายุโครงการน่าจะใกล้เคียงกับโครงการที่ผ่านมา ซึ่งตราสารหนี้ส่วนใหญ่ที่ออกโดยประเทศในภูมิภาคดังกล่าวมักจะมีอายุโครงการประมาณ 4 ปีขึ้นไป และตราสารหนี้อายุสั้นไม่ค่อยมี
ส่วนตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้มีความน่าสนใจ โดยยังอยู่ในระหว่างการพิจาราณา หากออกมาน่าจะมีอายุโครงการประมาณ 1 – 2 ปี ส่วนมูลค่าโครงการน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป แต่ต้องดูที่ผลตอบแทน อายุตราสารหนี้อีกครั้ง
สำหรับกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 2 ที่เน้นลงทุนหุ้นในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีศักยภาพในการเติบโตสูงเป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมายยกเลิกกองทุนเมื่อสามารสร้างผลตอบแทนได้ 10% ภายในปีแรกหรือ 20% ภายในปีที่ 2 ซึ่งในปัจจุบันมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) อยู่ที่ประมาณ 10.3638 บาทต่อหน่วย
นายวนา กล่าวว่า กองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 2 ยังคงทยอยเข้าออกลงทุนแบบเก็บเล็กผสมเล็กน้อยจนกว่าจะได้ผลตอบแทนที่กำหนดไว้ แต่บริษัทยังไม่ออกกองทุนที่มีลักษณะนี้ออกมาจนกว่าจะสร้างผลตอบแทนของกองทุนนี้ให้ได้ตามกำหนดก่อน เพราะว่าต้องการบริหารครั้งละกองทุนมากกว่า และเชื่อว่าหากทำได้จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และเข้ามาลงทุนมากขึ้น
