xs
xsm
sm
md
lg

มันนี่มาร์เกต3กองใหญ่NAVทรุด เงินไหลออกลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักลงทุนโยกเงินมันนี่มาร์เกต ลุยสินทรัพย์เสี่ยง ฉุดเอ็นเอวี 3 กองทุนใหญ่ลดฮวบ "ไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้" เบอร์ 1 ไหลออกไปประมาณ 3 หมื่นล้านบาท "เค ตราสารรัฐระยะสั้น" กองทุนที่เติบโตโดดเด่นในรอบปีวูบกว่า 4.5 หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนทั่วโลกหามาหาผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเงินลงทุนที่โยกมาส่วนใหญ่ แน่นอนว่าเป็นเงินลงทุนจากกองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนมันนี่มาร์เก็ต ซึ่งเป็นแหล่งพักเงินอย่างดีในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลก ให้กับสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมถึงกองทุนเก็งกำไร (เฮจด์ฟันด์) ด้วย ทั้งนี้ ภายหลังจากความเชื่อมั่นเรื่องของเศรษฐกิจกลับมา เงินเหล่านี้ก็เริ่มไหลออกมาลงทุนในมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมอดิตี)

สำหรับไทยเอง ในช่วงที่เกิดวิกฤตเงินลงทุนก็ไหลเข้ามาอยู่ในมันนี่มาร์เกตด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากความผันผวนของตลาดหุ้นแล้ว อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลงต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นปัจจัยทำให้นักลงทุนพักเงินในมันนี่มาร์เกตเช่นกัน โดยหลังจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะในเอเชีย ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามามากขึ้น และกลายเป็นปัจจัยหนุนทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสัญญาณที่ดีดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนไทยเอง กล้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ จากการสำรวจเงินลงทุนในกองทุนมันนี่มาร์เกตพบว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) ลดลงทุกกองทุน โดยเฉพาะ 3 กองทุนของ 3 บริษัทจัดการเครือแบงก์ใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจากการโยกเงินออกไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นนั่นเอง โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนมันนี่มาร์เกตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม มีสินทรัพย์ลดลงจากเดิมที่มีมูลค่าสูงถึง 2.1 แสนล้านล้านบาทในช่วงเดือนเมษายน มาอยู่ที่ 1.80 ล้านบาทในปัจจุบัน (ณ วันที่ 20 ส.ค.) คิดเป็นจำนวนเงินลงทุนไหลออกไปประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

สำหรับกองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น ภายใต้การบริหารของ บลจ.กสิกรไทย ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ก็ลดลงเช่นกัน โดยเงินลงทุนลดลงระดับสูงสุด 1.4 แสนล้านบาทในช่วงเดือนเมษายน มาอยู่ที่ 9.5 หมื่นล้านบาท ลดลงประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท

ในขณะที่กองทุนเปิดทหารไทยธนบดี ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. ทหารไทย ก็มีสินทรัพย์ลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเงินลงทุนเคยปรับขึ้นไปถึงระดับ 5 หมื่นล้านบาท ล่าสุด ณ วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา มีสินทรัพย์เหลืออยู่ประมาณ 3.82 หมื่นล้านบาท

สำหรับกองทุนอื่นๆ ที่มีนโยบายลงทุนใกล้เคียงกัน ถึงแม้จะมีมูลค่าเงินลงทุนไม่มาก แต่เอ้นเอวีก็ลดลงเช่นกัน โดยกองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ เดลี ของบลจ.ยูโอบี (ไทย) เงินลงทุนขยับลงจากที่ขึ้นไปถึงเกือบ 3 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือนมกราคม มาอยู่ที่ 2.07 หมื่นล้านบาท ส่วนกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินและกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส ของบลจ.อยุธยา ลดลงจากหมื่นล้านในช่วงเดือนพฤษภาคม มาอยู่ที่ 7.87 พันล้านบาท และลดลงจากเอ็นเอวีประมาณ 9.5 พันล้านในเดือนเมษายน มาอยู่ที่ 6.01 ล้านบาท ตามลำดับและกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์ ของบลจ.ไอเอ็นจี ลดลงจากระดับสูงสุด 1.5 หมื่นล้านบาทในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ 1.10 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น