แม้ว่าตลาดหุ้นในเอเชีย โดยเฉพาะจีน จะฟื้นจากวิกฤตขึ้นมาเยอะแล้ว แต่หากจะพูดถึงความน่าสนใจแล้ว ต้องบอกว่ายังมีอยู่ เพราะถ้าเทียบจากจุดสูงสุดก่อนเกิดวิกฤต การปรับขึ้นดังกล่าวมาเพียงครึ่งทางเท่านั้น...และด้วยโอกาสที่ยังมีอยู่นี้เอง บลจ.อเบอร์ดีน จะเสนอทางเลือกการลงทุนในหุ้นจีน ผ่าน "กองทุนเปิดอเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์" ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวานนี้ (17 ส.ค.)...ส่วนรายละเอียดและความน่าสนใจของกองทุนนี้จะเป็นอย่างไรนั้น "ASTVผู้จัดการกองทุนรวม" เก็บมาฝากครับ
ผู้จัดการกองทุนตราสารทุนเอเชีย ประจำ อเบอร์ดีน อินเตอร์เนชั่นแนล ฟันด์ แมเนเจอร์ส ลิมิเต็ด ในฮ่องกง มร. นิโคลัส โยว ระบุว่า แม้เศรษฐกิจทั่วโลกจะอยู่ในช่วงขาลงแต่เศรษฐกิจของประเทศจีนยังคงมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยในปีนี้มองว่าจีนจะยังคงมีอัตราการเติบโตประมาณ 7-8% ถือเป็นการเติบโตที่สมํ่าเสมอในระยะยาว ซึ่งอเบอร์ดีนเองเล็งเห็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่ประสงค์จะลงทุนระยะยาวในประเทศจีน เพราะมองเศรษฐกิจของจีนว่าจุดต่ำสุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงของรัฐบาลจีน ที่ช่วยให้เศรษฐกิจจีนยังดำรงเสถียรภาพไว้ได้ในระดับหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน อุปสรรคหลักๆ ยังคงมาจากการมีกำลังการผลิตที่เกินความต้องการ การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และการส่งออกที่ลดลงของจีน จึงทำให้ยากที่จะมองเห็นทิศทางและช่วงจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนได้อย่างชัดเจน
สำหรับ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้จีนยังมีอัตราการเติบโตนั้น ได้แก่ ค่าแรงงานที่ตํ่าและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ถือเป็นพื้นฐานที่ทำให้จีนนั้นสามารถก้าวขึ้นค่าแรงงานที่ต่ำและเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เป็นพื้นฐานที่ทำให้จีนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นโรงงานผลิตสินค้าของโลก
แต่เมื่อความต้องการสินค้าจากสหรัฐฯหดหายไป จีนจึงมุ่งกระตุ้นความต้องการการบริโภคภายในประเทศ ด้วย แผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 5.85 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่กำลังกระจายไปในรูปการลงทุนด้านสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานและขนส่ง ซึ่งสิ้งนี้จะช่วยเพิ่มการเติบโตให้เศรษฐกิจจีน ทดแทนการส่งออกที่ลดลง
นอกจากนี้ ยังพบว่า จุดเลวร้ายที่สุดของเศรษฐกิจนั้นอาจจะผ่านไปแล้ว เห็นได้จากดัชนีราคาผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อบ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคการผลิต ซึ่งแสดงว่าผู้จัดการเริ่มมีมุมมองในแง่ดีขึ้น แต่ก็ยังระมัดระวังต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจอยู่ รวมทั้งในส่วนของความต้องการที่อยู่อาศัยที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น จากมาตรการร่วมที่จูงใจทั้งผู้ขายบ้านและผู้ซื้อบ้านด้วยสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำ ที่ส่งผลไปถึงในภาคส่วนอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น เหล็ก ปูน เป็นต้น
ทั้งนี้ อเบอร์ดีนมั่นใจว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นได้ เพราะจะช่วยเพิ่มผลผลิตให้เศรษฐกิจของจีน อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในอัตราสูงกว่า 10% น่าจะไม่มีอีกแล้ว ในช่วงสองปีข้างหน้า เราคาดว่าอัตราการเติบโตของจีนจะอยู่ในระดับ 6-7% ซึ่งก็นับว่ายังสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
"เราเชื่อว่า แนวทางการลงทุนที่เน้นการพิจารณาไปที่ตัวบริษัทมากกว่าการพิจารณาภาพรวมของเศรษฐกิจนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้ทราบถึงมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทและเป็นการป้องกันข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยของนักลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นั้นคือ การเข้าลงทุนในหุ้นที่มีราคาแพงเกินไป"
และถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังขยายตัว แต่เรามองว่ายังคงมีความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอยู่เช่นกัน เพราะจำนวนเงินที่จะใช้ปล่อยสินจากเชื่อรายใหม่ถูกนำไปใช้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลกระตุ้นการลงทุนในทรัพย์สินถาวร ทำให้เงินทุนไหลเข้าไปยังตลาดหุ้น 1.2 ล้านล้านหยวน และไหลเข้าไปยังทรัพย์สินอื่นๆ เพื่อให้เต็มตามโควตา ดังนั้น ผลที่ตามมาก็คือ อาจจะเกิดหนี้เสียอาจจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต*
ฮ่องกง...ประตูสู่จีน
ชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน กล่าวว่า สำหรับกองทุนเปิดอเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์ เน้นลงทุนในบริษัทที่มีเงินได้หรือทรัพย์สินในการประกอบกิจการอย่างน้อย 50% อยู่ในจีนหรือฮ่องกง โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง และ H-Shares ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่ก่อตั้งในจีนและจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง เนื่องจากมีทีมผู้บริหารที่มีความรู้และประสบการณ์ มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการ รวมถึงตลาดหุ้นฮ่องกงนั้นมีกฏเกณฑ์ในการควบคุมดูแลผลประโยชน์ของนักลงทุนที่เป็นมาตรฐานสากล
ทั้งนี้ ทางกองทุนฯยังเลือกลงทุนในหุ้นประเภท B-Shares, Red Chips, และ P-Chips แต่เป็นไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากบริษัทของจีนส่วนใหญ่เป็นบริษัทใหม่ ที่อาจจะยังคงต้องปรับปรุงเรื่องความโปร่งใสในการบริหารจัดการ และยังคงขาดประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว...
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้เรามองว่า...ฮ่องกงเป็นประตูสู่จีนที่เราเลือก
"เรามองว่า กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์ น่าจะเหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการเน้นลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนและ/หรือดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ในประเทศจีนและฮ่องกง โดยมองว่าบริษัทเหล่านี้ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต รวมถึงเชื่อมั่นในแนวทางการลงทุนของอเบอร์ดีน ที่เน้นการทำความเข้าใจในธุรกิจที่เข้าลงทุน วิเคราะห์หามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทก่อนที่จะเข้าลงทุน เพื่อคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาว"
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ กองทุนเปิดอเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์...บลจ.อเบอร์ดีน จะเสนอขายหน่วยลงทุนในระหว่างวันที่ วันที่ 24 สิงหาคม ถึง 7 กันยายน 2552 นี้
สุดท้าย...อเบอร์ดีนขอฝากนักลงทุนว่า โปรดศึกษาค้นคว้าข้อมูลของบริษัทที่คุณจะลงทุนก่อนเสมอ อย่าลงทุนตามกระแสความนิยมในตลาด หรือข่าวลือ จงมีวินัยในการซื้อหุ้น โดยพิจารณาราคาหุ้น และไม่ซื้อหุ้นตามนักลงทุนคนอื่นๆ ควรลงทุนในระยะยาว และคงการลงทุนไว้ให้ครบวงจรของตลาด เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของการลงทุนคือการสะสมทรัพย์สินเพื่อการเกษียณอายุของคุณ ดังนั้น จึงไม่ควรพยายามกะจังหวะตลาดในการลงทุนตลอดเวลา