xs
xsm
sm
md
lg

การเคลื่อนไหวของ “Spread หุ้นกู้เอกชน” VS “Gov Bond Yield Curve

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท่ามกลางความผันผวนของทั้งเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของประเทศไทย ตลาดตราสารหนี้ไทยเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะส่งผลดีกับตลาดพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากนักลงทุนต้องการแหล่งลงทุนที่ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ จึงย้ายเงินลงทุนจากแหล่งที่มีความเสี่ยงสูง อย่างตลาดหุ้น ทองคำ และน้ำมัน มาซื้อพันธบัตรรัฐบาลซึ่งความเสี่ยงต่ำกว่า ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2551 จนถึงต้นปี 2552

 เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจโลกเริ่มคลายตัว เราจึงพบว่าเริ่มมีการย้ายเงินลงทุนกลับไปสู่ตลาดหุ้น และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน และทองคำมากขึ้น ซึ่งมีผลให้ราคาพันธบัตรเริ่มลดต่ำลง และอัตราผลตอบแทนเริ่มสูงขึ้น ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 เป็นต้นมา
ในขณะที่สถานการณ์ของหุ้นกู้เอกชนเองนั้น เริ่มจากความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อความเสี่ยงด้านเครดิตของเอกชนท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ทำให้เราพบกับปัญหาสินเชื่อหดตัว และ Spread หุ้นกู้เอกชนก็กว้างขึ้นอย่างมากในช่วงปลายปี 2551

เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดต่ำลงจนไม่สามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนได้อีกต่อไป หุ้นกู้เอกชนที่ได้รับอันดับ rating ที่อยู่ในเกณฑ์ดี จึงเป็นตัวเลือกอันดับต่อมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นกู้เอกชนกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง และ Spread ก็เริ่มปรับตัวแคบลงเรื่อย ๆ

 จากเหตุการณ์ความผันผวนในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ทำให้เราสังเกตเห็นรูปแบบ หรือ Pattern ของ Spread หุ้นกู้เอกชน ซึ่งจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2551 เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อกลางปี 2552 ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกันของ Spread หุ้นกู้เอกชน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลนั้น กล่าวได้ว่าเกิดจาก 2 ปัจจัยเบื้องต้น
 ปัจจัยแรก คือสภาพเศรษฐกิจโดยรวม  เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของบริษัทเอกชนที่ออกหุ้นกู้ด้วย ในขณะเดียวกันก็ย้ายเงินลงทุนมาสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตรรัฐบาล ส่งผลให้ Spread หุ้นกู้เอกชนถีบตัวสูงขึ้น

 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง ในทางกลับกันเมื่อเศรษฐกิจเริ่มผ่อนคลายความตึงตัว Spread หุ้นกู้เอกชนก็จะปรับตัวแคบลง เนื่องจากความวิตกกังวลของนักลงทุนเริ่มผ่อนคลายและหันมาลงทุนในหุ้นกู้เอกชนซึ่งได้ผลตอบแทนสูง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลก็จะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น

 ปัจจัยที่สอง ก็คือ การที่ตลาดหุ้นกู้เอกชนตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลล่าช้า (Delayed Response) อันเป็นผลมาจากตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัว แต่หุ้นกู้เอกชนยังไม่ปรับตัวตาม จึงยังมีการซื้อขายกันที่อัตราผลตอบแทนเดิม ซึ่งเท่ากับว่า หุ้นกู้เอกชนตัวนั้นมี Spread ที่สูง

โดยที่ไม่ได้มีผลมาจากความเสี่ยงด้านเครดิตที่สูงขึ้น ในทำนองกลับกันเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น แต่อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนที่มีการเสนอซื้อเสนอขายในตลาดยังไม่ปรับตาม เมื่อเกิดการซื้อขาย จึงส่งผลให้ได้ Spread ที่ต่ำลง
การที่ Spread ของหุ้นกู้เอกชนเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเช่นนี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนเอง มีความผันผวนน้อยกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

เนื่องจากมี Spread ทำหน้าที่เสมือนเป็น Buffer กันไม่ให้อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนนั้นสวิงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรืออย่างน้อยก็จะมีความล่าช้า (Lag) อยู่บ้าง ด้วยลักษณะพิเศษของ Spread หุ้นกู้เอกชน โดยเฉพาะของประเทศไทยนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น