บลจ.พรีมาเวสท์เตรียมดัน กองอสังหาฯ ศาลาแอทสาทร เข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ มั่นใจสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในทำเลทีดี และติดรถไฟฟ้า ระบุแนโน้มการเช่าอาคารสำนักงานปีนี้ยังขยายตัว สวนทางกับอาคารใหม่ที่มีเพิ่มขึ้น แต่มีข้อแม้ว่าเศรษฐกิจต้องไม่เลวร้ายกว่าเดิม
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ศาลาแอทสาทรของบริษัทที่ทำการเปิดขายในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี และคาดว่าน่าจะเต็มตามจำนวนมูลค่าโครงการที่กำหนด โดยหลังจากนี้หากนักลงทุนต้องการซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติม น่าจะสามารถทำได้หลังจากนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์
สำหรับกองทุนนี้จะลงทุนในการซื้อที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน ซึ่งได้แก่ อาคารศาลาแอทสาทร รวมทั้งงานระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอาคาร
"กองทุนนี้มีจุดเด่นที่ลงทุนในสินทรัพย์แบบฟรีโฮลด์ หรือ กองทุนเข้าไปซื้อสินทรัพย์เป็นของกองทุนเลยทำให้มีสภาพคล่องสูง นอกจากนี้อาคารที่เข้าไปลงทุนก็เป็นอาคารใหม่ที่ตั้งอยู่บนถนนสาทร ติดกับสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นทำเลที่ดีมากทำให้น่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีในอนาคต"นางสาวศรีเนตรกล่าว
นางสาวศรีเนตร เพิ่มเติมอีกว่า การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้นับเป็นจังหวะที่น่าลงทุน ซึ่งเหมาะสมกับนักลงทุนที่ชอบการลงทุนในระยะยาว โดยทางบริษัทเองก็มีแผนที่จะออกกองทุนประเภทนี้เพิ่มเติมเช่นกัน แต่ยังต้องคำนึงถึงสินทรัพย์ที่จะเข้าไปลงทุนก่อน เนื่องจากสินทรัพย์ในลักษณะนี้ยังมีน้อย แตกต่างจากการลงทุนในลักษณ์ ลิสต์โฮลด์ที่กองทุนไม่ได้เข้าซื้อสินทรัพย์โดยตรงทำให้สภาพคล่องยังไม่ดีมากนัก
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่น่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนในกองทุนนี้ โดยในปีที่ผ่านมาถึงแม้จะเป็นปีที่ท้าทายของตลาดอาคารสำนักงาน เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบการปัจจัยภายในและภายนอก ทำให้ธุรกิจต่างๆ ได้ชะลอการตัดสินใจลงทุนด้านออฟฟิศสำนักงานออกไป
อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจของบริษํท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ปริมาณการเข้าใช้พื้นที่สำนักงานสุทธิยังคงอยู่ในทิศทางบวกในปี 2552 ซึ่งแนวโน้มตลาดพื้นที่สำนักงานในปีนี้ ยังคงขึ้นกับภาวะทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยหากรัฐบาลสามารถมีนโยบายที่จะใช้กระตุ้นการลงทุนและความมั่นใจ และภาวะเศรษฐกิจโลกไม่เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ สภาวะตลาดสำนักงานน่าจะทรงตัวอยู่ได้
"หากดูจากปริมาณความต้องการเข้าใช้พื้นที่ที่คาดว่าน่าจะยังเป็นบวกอยู่ ซึ่งสวนทางกับพื้นที่สำนักงานที่จะเข้ามาเพิ่มเติมที่ยังไม่เห็นมีการริเริ่มโครงการใหม่นอกเหนือจากเดิมก็น่าจะสงผลดีกับกองทุน เพราะหากผู้ประกอบการหันมาทำโครงการเพิ่มเติม การก่อสร้างก็ยังคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3ปีอยู่ดี"นางสาวศรีเนตรกล่าว
