xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโผกองทุนเด่นรอบ6เดือน "ทหารไทย China Equity"เจ๋งสุด60.14%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จบครึ่งปีแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมๆ กับ ความเสี่ยงหลายๆ ปัจจัยที่ยังอยู่คู่บรรยากาศการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลก ที่ยังมองไม่ออกว่าจะฟื้นตัวได้จริง อย่างที่หลายๆ ฝ่ายตั้งความหวังเอาไว้หรือไม่ บรรยากาศทางการเมืองในประเทศ ที่ยังครุ่กรุ่นอยู่เนืองๆ...ล่าสุด ผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เงินลงทุนกำลังไหลกลับไปลงทุนในตราสารหนี้อีกครั้ง หลังจากแวะมาหาผลตอบแทนในตลาดหุ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ในช่วงปลายไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตอนนี้ บรรยากาศการลงทุนยังเดาทิศทางไม่ถูก แต่ความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วๆ นี้ ทำให้ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทย ช่วงครึ่งปีแรกออกมาค่อนข้างดี

โดยในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า MSCI AC World CR USD ให้ผลตอบแทนประมาณ 5.89% ส่วนตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนไปแล้ว 32.79% แต่ที่โดดเด่นเหนือใคร เห็นจะเป็นตลาดหุ้นจีน ที่ให้ปรับขึ้นไปกว่า 60% ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา

ภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรกที่ออกมาค่อนข้างดีแบบนี้ น่าสนใจว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมในช่วงเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหุ้นในประเทศ กองทุนหุ้นในต่างประเทศ จะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง "ASTVผู้จัดการกองทุนรวม" อาสารวบรวมให้ โดยแยกตามประเภทของกองทุน ว่ากองทุนที่ให้ผลตอบแทน 10 อันดับแรกในแต่ละประเภทมีอะไรกันบ้าง

...เริ่มต้นกับที่ 10 กองทุนหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552)
อันดับ 1 กองทุนเปิดทิสโก้ทุนทวี ให้ผลผลตอบแทนย้อนหลัง 40.67%
อันดับ 2 กองทุนเปิดทีซีเอ็มหุ้นทุน ผลตอบแทนย้อนหลัง 40.51%
อันดับ 3 กองทุนเปิดทิสโก้ หุ้นทุนปันผล ผลตอบแทนย้อนหลัง 40.50%
อันดับ 4 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทยอิควิตี้ฟันด์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 40.25%
อันดับ 5 กองทุนเปิดทหารไทย SET 50 ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.85%
อันดับ 6 กองทุนเปิดทหารไทย SET 50 ปันผล ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.67%
อันดับ 7 กองทุนเปิดไอเอ็นจี อิควิตี้ปันผล ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.52%
อันดับ 8 กองทุนเปิดทิสโก้สแตรทิจิก ฟันด์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.40%
อันดับ 9 กองทุนเปิดเค เซ็ท 50 ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.33%
อันดับ10 กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.21%

...กองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ (FIF) เป็นอีกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างน่าสนใจ แน่นอนว่าอันดับต้น คงหนีไม่พ้นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตตลาดหุ้นจีน
อันดับ1 กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index กับผลตอบแทนย้อนหลังที่สูงถึง 60.14%
อันดับ 2 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ลิงค์ 3 ผลตอบแทนย้อนหลัง 54.53%
อันดับ 3 กองทุนเปิดพรีมาเวสท์-อลิอันซ์ จีไอ บริค สตาร์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 50.93%
อันดับ 4 กองทุนเปิดทิสโก้ ไชน่า อินเดีย ดิวิเดนท์ ฟันด์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 45.10%
อันดับ 5 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เอเชียน อีเมอร์จิ้ง ผลตอบแทนย้อนหลัง 44.23%
อันดับ 6 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเวสท์ เอเชียน อิควิตี้ ฟันด์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 42.44%
อันดับ 7 กองทุนเปิดทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 41.66%
อันดับ 8 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล โบนัส แซนซ์ ฟันด์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 33.69%
อันดับ 9 กองทุนเปิดอเบอร์ดีน โกบอล อิเมอร์จิ้ง โกรทฟันด์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 33.36%
อันดับ 10 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเวสท์ โกลบอล อะกรีบิซซิเนส ฟันด์ ด้วยผลตอบแทนย้อนหลัง 33.56%

...มาเปิดโผกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรกกันต่อ
อันดับ 1 กองทุนเปิดไอเอ็นจีแวลูพลัสปันผล หุ้นระยะยาว ผลตอบแทนย้อนหลัง 42.38%
อันดับ 2 กองทุนเปิดไอเอ็นจี บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.90%
อันดับ 3 กองทุนเปิดแมนูไลฟ์ สเตร็งค์ คอร์ หุ้นระยะยาว ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.48%
อันดับ 4 กองทุนเปิดทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.29%
อันดับ 5 กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยา SET 50 ผลตอบแทนย้อนหลัง 37.86%
อันดับ 6 กองทุนเปิดไอเอ็นจี Big Cap ปันผลหุ้นระยะยาว ผลตอบแทนย้อนหลัง 36.81%
อันดับ 7 กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว SET 50 ผลตอบแทนย้อนหลัง 36.60%
อันดับ 8 กองทุนเปิดเค โกรท หุ้นระยะยาวปันผล ผลตอบแทนย้อนหลัง 36.49%
อันดับ 9 กองทุนเปิด JUMBO 25 ปันผลหุ้นระยะยาว ผลตอบแทนย้อนหลัง 35.92%
อันดับ 10 กองทุนเปิด กรุงไทยหุ้นระยะยาว 70/30 ผลตอบแทนย้อนหลัง 35.68%

ปิดท้ายด้วยโผกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น ผลตอบแทนน่าสนใจทีเดียว..
อันดับ 1 กองทุนเปิดไอเอ็นจีหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.88%
อันดับ 2 กองทุนเปิดทหารไทย SET 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.59%
อันดับ 3 กองทุนเปิดอยุธยา SET 100 เพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.48%
อันดับ 4 กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 39.11%
อันดับ 5 กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 36.23%
อันดับ 6 กองทุนเปิด JUMBO 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 35.92%
อันดับ 7 กองทุนเปิดแมกซ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 35.48%
อันดับ 8 กองทุนเปิดแอสเซทพลัส ตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 33.96%
อันดับ 9 กองทุนเปิดยูโอบี ตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 31.78%
อันดับ 10 กองทุนเปิดหุ้นคุณค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ ผลตอบแทนย้อนหลัง 31.54%

มุมมองผู้จัดการกองทุน
ได้ทราบกันไปแล้วว่า กองทุนแต่ละประเภท กองทุนไหนบ้างที่ผลตอบแทนโดดเด่น สามารถจับจังหวะการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกได้ถูกต้อง นักลงทุนหลายคนเห็นแล้ว อาจจะมีข้อสงสัยว่า ครึ่งปีแรก ทำกำไรไปเยอะพอสมควรแล้ว แล้วช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือ จะมีโอกาสอยู่อีกหรือไม่

...ต้องบอกว่า การจับจังหวะการลงทุนได้อย่างถูกต้อง ถือเป็นคีย์สำคัญต่อการสร้างผลตอบแทนให้กับเงินของเรา ซึ่งการจับจังหวะนี้เอง เป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ ดังนั้น ในเมื่อเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ การแบ่งเงินลงทุนสะสมทุกเดือน ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ เพราะการลงทุนสะสมทุกเดือน จะทำให้ต้นทุนของเราลดลง แถมยังลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนของเราด้วย

เมื่อมีทางเลือกแล้ว ข้อมูลทิศทางการลงทุนครึ่งปีหลัง ก็น่าสนใจเช่นกันว่าจะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าเราเอามุมมองจากผู้จัดการกองทุนมาฝากกันกีกว่า

ออเสน การบริสุทธิ์ ผู้จัดการกองทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาในช่วงนี้เป็นการเทขายทำกำไรตามปกติ ทั้งจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามปกติของภาวะตลาด ที่เศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน โดยการปรับตัวลดลงไปของตลาดหุ้นนั้นไม่ได้มีปัจจัยใดเข้ามากระทบแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นมาอย่างชัดเจนนั้นทำให้นักลงทุนยังคงลงทุนในตราสารหนี้อยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้แนวโน้มของตลาดหุ้นหลังจากนี้ คาดว่าในช่วงกลางเดือนหน้าคงยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร มากเนื่องจากในต่างประเทศเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ ซึ่งต้องกลับมาดูการเคลื่อนไหวของตลาดอีกทีในช่วงต้นเดือนกันยายน

อรุณศักดิ์ จรูญวงศ์นิรมล ผู้อำนวยการสายงานจัดการกองทุน บลจ. เอสซีบี ควอนท์ จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นในต่างประเทศขณะนี้ เริ่มเห็นการโยกเงินไปลงทุนในตราสารหนี้กันมากขึ้นหลังจากที่แนวโน้มเศรษฐกิจหลังผ่านไตรมาสที่ 2 มีทิศทางที่ไม่ดีนัก โดยต้องรอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจทื่จะออกมาก่อนว่าจะเป็นอย่างไร

เช่นเดียวกับ วนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ไทย) จำกัด ที่ระบุว่า ตลาดหุ้นที่มีความผันผวนในขณะนี้ทำให้นักลงทุนบางส่วนมีการย้ายเงินลงทุนไปพักไว้ที่ตราสารหนี้รวมถึงกองทุนตลาดเงินเพื่อรอดูสถานการณ์

กำลังโหลดความคิดเห็น