เมื่อไม่นานมานี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ หรือสำนักงานก.ล.ต.อนุญาตให้กองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคลรายย่อย เเละกองทุนสำรองเลั้ยงชีพ สามารถลงทุนโดยเข้าเป็นคู่สัญญาในสัญญาเครดิตอนุพันธ์ได้เพื่อการลดความเสี่ยง (hedging) จากการลงทุนในตราสารเเหน่งหนี้ หรือการเข้าทำธุรกรรมสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เเต่กรณีที่เป็นกองทุนส่วนบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กองทุนส่วนบุคคลรายย่อยสามารถเข้าเป็นคู่สัญญาในสัญญาเครดิตอนุพันธ์ได้ทุกลักษณะ วะ
ซึ่งวันนี้คอลัมน์ Q&A จะอาสาพาไปท่านผู้อ่านไปรู้จักกับเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงตัวนี้กันครับ
สัญญาเครดิตอนุพันธ์ (credit derivatives) คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะเป็นการเคลื่อนย้ายความเสี่ยงด้านเครดิตหรือผลตอบเเทนหรือผลประโยชน์ในเชิงการเงินหรือเศรษฐกิจ จากคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่า ผู้ซื้อประกันความเสี่ยงไปยังคู่สัญญา โดยผู้ขายประกันความเสี่ยงมีภาระผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ (credit event) ของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์เเลกกับการได้รับผลตอบเเทนหรือค่าธรรมเนี่ยมจากผู้ซื้อประกันความเสี่ยง ดังนั้นเมื่อกองทุนทำประกันทรัพย์สินด้วยการเข้าลงทุนในสัญญาเครดิตอนุพันธ์ กองทุนจึงอยู่ในฐานะผู้ซื้อประกันความเสี่ยง ทรัพย์สินหรือสัญญาที่กองทุนลงทุนหรือไม่ไว้ก็จะได้รับการป้องกันหรือลดความเสี่ยง (hedging)จากการเข้าสัญญาเครดิตอนุพันธ์ดังกล่าวในนามกองทุน
สำหรับสัญญาเครดิตอนุพันธ์ ที่ก.ล.ต. อนุญาตให้กองทุนลงทุนได้จะจำกัดการอนุญาติเฉพาะสัญญาเครดิตอนุพันธ์ประเภทที่เป็นที่นิยมอย่างเเพร่หลายดังต่อไปนี้ 1.สัญญาซีดีเอส (single-name credit default swap)ซึ่งเป็นสัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่กำหนดสินทรัพย์ตามที่สัญญาเครดิตอนุพันธ์ไว้เพียงรายการเดียว
2.สัญญาเอฟทีดีเอส (first-to-default swap) ซึ่งเป็นสัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่กำหนดทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ไว้หลายรายการ ทั้งนี้ผู้ขายประกันความเสี่ยงจะมีภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีผลตอการชำระหนี้ของทรัพย์สินดังกล่าวรายการใดรายการหนึ่งเป็นรายเเรก
3.สัญญาโพรพอร์ชั่นเนทซีดีเอส (proportionate credit default swap) ซึ่งหมายถึงสัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่กำหนดทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ไว้หลายรายการ ทั้งนี้ผู้ขายประกันความเสี่ยงมีภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีผลต่อการชำระหนี้ของทรัพย์สินดังกล่าวเเต่ละรายการ โดยจะชำระเงินตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในสัญญาสำหรับทรัพย์สินเเต่ละรายการนั้น
4.สัญญาทีอาร์โออาร์เอส (proportionate credit default swap) หมายถึง สัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่มีข้อกำหนดให้ผู้ขายประกันความเสี่ยงจากผลตอบเเทนในอัตราลอยตัวที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเเละผลประโยชน์ในเชิงการเงินหรือเศรษฐกิจที่ลดลงของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ให้เเก่ผู้ซื้อประกันความเสี่ยงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มีผลตอ่การชำระหนี้ของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์หรือจนกว่าสัญญาเครดิตอนุพันธ์นั้นจะต้องครบอายุเพื่อเเลกกับการที่ผู้ซื้อประกันความเสี่ยงโอนผลตอบเเทนเเละผลประโยชน์ในเชิงการเงินหรือเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ให้เเก่ตน
โดยในการลงทุนในสัญญาเครดิตอนุพันธ์ข้างต้นสำนักงาน ก.ล.ต. ได้กำหนดเกณฑ์การลงทุนที่เคร่งครัดป้องกันไม่ให้บริษัทจัดการใช้สัญญาเครดิตอนุพันธ์เพื่อเลี่ยงเกณฑ์การกระจายตัวการลงทุนของกองทุน กำหนดให้ใช้สัญญามาตรฐานเเละมีข้อตกลงที่มีผลใช้บังคับได้ตามกฏหมายโดยไม่ขัดหรือเเย้งกับกฏหมายอื่นใด ไม่มีข้อกำหนดที่ทำให้สิทธิที่กำหนดไว้ในตราเเห่งหนี้หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่สัญญาเครดิตอนุพันธ์นั้นอ้างอิงเสื่อมไป เเละผู้ขายประกันความเสี่ยงต้องไม่มีสิทธ์ไล่เบี้ยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกองทุน ตลอดจนกำหนดความครอบคลุมของสัญญาระดับความน่าเชื่อถือของผู้ประกันสกุลเงิน อายุคงเหลือ ลำดับการชำระหนี้ ฯลฯเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน
ต้องขอขอบคุณ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือ AIMC มาณ ที่นี้ได้นะครับเเละที่สำคัญที่สุดต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านคอลัมน์ Q&A ทุกท่านนะครับ โอกาสหน้าทีมงาน" ASTVผู้จัดการรายวัน" คอลัมน์ Q&A คงจะได้รับใช้ผู้อ่านอีกนะครับ
ซึ่งวันนี้คอลัมน์ Q&A จะอาสาพาไปท่านผู้อ่านไปรู้จักกับเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงตัวนี้กันครับ
สัญญาเครดิตอนุพันธ์ (credit derivatives) คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะเป็นการเคลื่อนย้ายความเสี่ยงด้านเครดิตหรือผลตอบเเทนหรือผลประโยชน์ในเชิงการเงินหรือเศรษฐกิจ จากคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่า ผู้ซื้อประกันความเสี่ยงไปยังคู่สัญญา โดยผู้ขายประกันความเสี่ยงมีภาระผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ (credit event) ของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์เเลกกับการได้รับผลตอบเเทนหรือค่าธรรมเนี่ยมจากผู้ซื้อประกันความเสี่ยง ดังนั้นเมื่อกองทุนทำประกันทรัพย์สินด้วยการเข้าลงทุนในสัญญาเครดิตอนุพันธ์ กองทุนจึงอยู่ในฐานะผู้ซื้อประกันความเสี่ยง ทรัพย์สินหรือสัญญาที่กองทุนลงทุนหรือไม่ไว้ก็จะได้รับการป้องกันหรือลดความเสี่ยง (hedging)จากการเข้าสัญญาเครดิตอนุพันธ์ดังกล่าวในนามกองทุน
สำหรับสัญญาเครดิตอนุพันธ์ ที่ก.ล.ต. อนุญาตให้กองทุนลงทุนได้จะจำกัดการอนุญาติเฉพาะสัญญาเครดิตอนุพันธ์ประเภทที่เป็นที่นิยมอย่างเเพร่หลายดังต่อไปนี้ 1.สัญญาซีดีเอส (single-name credit default swap)ซึ่งเป็นสัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่กำหนดสินทรัพย์ตามที่สัญญาเครดิตอนุพันธ์ไว้เพียงรายการเดียว
2.สัญญาเอฟทีดีเอส (first-to-default swap) ซึ่งเป็นสัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่กำหนดทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ไว้หลายรายการ ทั้งนี้ผู้ขายประกันความเสี่ยงจะมีภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีผลตอการชำระหนี้ของทรัพย์สินดังกล่าวรายการใดรายการหนึ่งเป็นรายเเรก
3.สัญญาโพรพอร์ชั่นเนทซีดีเอส (proportionate credit default swap) ซึ่งหมายถึงสัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่กำหนดทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ไว้หลายรายการ ทั้งนี้ผู้ขายประกันความเสี่ยงมีภาระผูกพันที่จะต้องชำระเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีผลต่อการชำระหนี้ของทรัพย์สินดังกล่าวเเต่ละรายการ โดยจะชำระเงินตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในสัญญาสำหรับทรัพย์สินเเต่ละรายการนั้น
4.สัญญาทีอาร์โออาร์เอส (proportionate credit default swap) หมายถึง สัญญาเครดิตอนุพันธ์ที่มีข้อกำหนดให้ผู้ขายประกันความเสี่ยงจากผลตอบเเทนในอัตราลอยตัวที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเเละผลประโยชน์ในเชิงการเงินหรือเศรษฐกิจที่ลดลงของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ให้เเก่ผู้ซื้อประกันความเสี่ยงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มีผลตอ่การชำระหนี้ของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์หรือจนกว่าสัญญาเครดิตอนุพันธ์นั้นจะต้องครบอายุเพื่อเเลกกับการที่ผู้ซื้อประกันความเสี่ยงโอนผลตอบเเทนเเละผลประโยชน์ในเชิงการเงินหรือเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของทรัพย์สินตามสัญญาเครดิตอนุพันธ์ให้เเก่ตน
โดยในการลงทุนในสัญญาเครดิตอนุพันธ์ข้างต้นสำนักงาน ก.ล.ต. ได้กำหนดเกณฑ์การลงทุนที่เคร่งครัดป้องกันไม่ให้บริษัทจัดการใช้สัญญาเครดิตอนุพันธ์เพื่อเลี่ยงเกณฑ์การกระจายตัวการลงทุนของกองทุน กำหนดให้ใช้สัญญามาตรฐานเเละมีข้อตกลงที่มีผลใช้บังคับได้ตามกฏหมายโดยไม่ขัดหรือเเย้งกับกฏหมายอื่นใด ไม่มีข้อกำหนดที่ทำให้สิทธิที่กำหนดไว้ในตราเเห่งหนี้หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่สัญญาเครดิตอนุพันธ์นั้นอ้างอิงเสื่อมไป เเละผู้ขายประกันความเสี่ยงต้องไม่มีสิทธ์ไล่เบี้ยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกองทุน ตลอดจนกำหนดความครอบคลุมของสัญญาระดับความน่าเชื่อถือของผู้ประกันสกุลเงิน อายุคงเหลือ ลำดับการชำระหนี้ ฯลฯเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน
ต้องขอขอบคุณ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือ AIMC มาณ ที่นี้ได้นะครับเเละที่สำคัญที่สุดต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านคอลัมน์ Q&A ทุกท่านนะครับ โอกาสหน้าทีมงาน" ASTVผู้จัดการรายวัน" คอลัมน์ Q&A คงจะได้รับใช้ผู้อ่านอีกนะครับ