xs
xsm
sm
md
lg

TMBAMมองศก.USใช้เวลา3ปีฟื้น ชี้ปัญหาการเงินความเสี่ยงสำคัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ทหารไทย มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องใช้เวลา 3 ปีในการฟื้นตัว ชี้หลังผ่านไตรมาส 2 ยังรอตัวตัวเลขอีกหลายตัว แต่เชื่อหากฟื้นวิกฤต สหรัฐฯจะยังคงเป็นเศรษฐกิจหลักของโลกอยู่ แม้ตลาดเกิดใหม่จะโตแรง

นายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาว่า แม้ว่าจะมีสัญญาณที่ดีขึ้นเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมา แต่โดยรวมแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินนั้น ยังไม่ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแต่อย่างใด ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3 ปี ถึงจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ เพราะภาคส่วนต่างๆนั้น ได้รับผลกระทบไปค่อนข้างมาก เช่น ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ รวมถึงตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มขึ้นด้วย

"หลังจากผ่านไตรมาสที่ 2ไปแล้วยังคงต้องรอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯอยู่ว่า จะออกมาในทิศทางใด เพราะปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจนั้นยังคงมีอยู่ "นายพิพัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจโลกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็จะยังคงเป็นเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของโลกอยู่ เพราะยังมีศักยภาพในด้านปัจจัยพื้นฐานต่างๆที่พร้อมอยู่ ซึ่งต่างจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว แม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูง แต่ยังคงต้องพึ่งพาเศรษฐกิจและการลงทุนจากสหรัฐฯเป็นหลักอยู่ เนื่องจากประเทศเกิดใหม่นั้นยังมีปัจจัยทางด้านพื้นฐานที่ยังไม่เท่ากับประเทศพัฒนาแล้ว

สำหรับตลาดเกิดใหม่นั้น เศรษฐกิจของประเทศจีนนั้นมีแนวโน้มของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี เนื่องจากประเทศมีเงินทุนสำรองจำนวนมาก และประเทศกำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันมีประชากรจำนวนมากทำให้มีการอุปโภคบริโภคจำนวนมาก โดยสำหรับกองทุนทหารไทย China Equity Index ซึ่งลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นจีนนั้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวมีการโตขึ้นกว่า 40%

นายไพศาล ครุฑดำรงชัย นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บลจ. ทหารไทย เปิดเผยถึงแผนงานของกองทุนหลังจากผ่านไตรมาสที่ 1 ว่า ทางบริษัทยังคงเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปีไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร โดยยังให้ความสนใจกับการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศอยู่ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในประเทศ ซึ่งล่าสุดได้ออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้รุ่นที่ 17 และสามารถขายหน่วยลงทุนได้กว่า 2,500 ล้านบาท

ทั้งนี้เนื่องจากเชื่อว่านักลงทุนไทยนั้น ส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจกับการลงทุนในตราสารหนี้อยู่ มากกว่าการลงทุนในหุ้น เพราะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้น ดัชนีที่ปรับตัวลดลงไปนั้นเป็นการปรับฐานเพราะนักลงทุนเทขายทำกำไรออกมาโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันในระยะที่ผ่านมานี้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นของประเทศในภูมิภาคเดียวกัน และยังรวมไปถึงตลาดหุ้นของประเทศเกิดใหม่ด้วยเช่นกัน ที่มีการขายทำกำไรออกมา
กำลังโหลดความคิดเห็น