บลจ.บัวหลวงเข็นซีรีส์ "ธนสารพลัส" ลุยตลาด 3 กองทุนรวม รองรับดีมานด์ล้นหลาม เน้นลงทุนพันธบัตรเกาหลีเช่นเดิม เสนอทางเลือกลงทุนระยะสั้น 6 เดือน 1ปี และ 2 ปี เปิดขายไอพีโอถึง 25 มิถุนายนนี้
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทเปิดขายกองทุนเพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 15/09 (BP15/09) 2. กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 16/09 (BP16/09) และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 17/09 (BP17/09) ซึ่งเริ่มเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 25 มิถุนายน 2552 นี้ โดย 3 กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในสถาบันทางการเงินของประเทศเกาหลีใต้
ทั้งนี้ กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 15/09 มีอายุประมาณ 6 เดือน ขนาดโครงการ 2,000 ล้านบาท ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 16/09 มีอายุประมาณ 12 เดือน ขนาดโครงการ 1,000 ล้านบาท และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 17/09 มีอายุประมาณ 24 เดือน ขนาดโครงการ 1,500 ล้านบาท
โดย 3 กองทุนดังกล่าว เหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
"จากการตอบรับของนักลงทุนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทเตรียมออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน แต่นโยบายการลงทุนนั้นยังคงต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ ว่าการลงทุนประเภทใดจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การลงทุนในเกาหลีใต้ยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่"
นายวศินกล่าวต่อว่า ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 12/09 (BP12/09) , กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 13/09 (BP13/09) และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 14/09 (BP14/09) ที่ได้เปิดขายไปเมื่อวันที่ 12 - 18 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกว่าทั้ง 3 กองทุนสามารถปิดยอดขายได้เกือบเต็มจำนวนขนาดโครงการที่ได้ตั้งไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นนักลงทุนรายใหม่ และรายเก่า ที่เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้กองทุนได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีนั้น เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศยังคงให้ผลตอบแทนไม่น่าจูงใจมากนัก จึงเป็นผลให้นักลงทุนต่างหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน และแสวงหาผลตอบแทนที่สูงด้วย
ขณะเดียวกันนายวศิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือกับ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ชมรมธนาคาร จังหวัดนครราชสีมา จัดมหกรรมการออม การลงทุนครบวงจร : SET in the City สัญจร จ.นครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2552 บลจ. บัวหลวงได้เข้าร่วมเปิดรับชำระค่าซื้อหน่วยลงทุน สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้น25%เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สามารถชำระค่าคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าว ภายใต้เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ตามที่บริษัทจัดการและธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กำหนด ได้ทันทีในวันดังกล่าว โดยไม่ต้องกรอกเอกสารยืนยันการหักบัญชีบัตรเครดิตเพื่อซื้อหน่วยลงทุน และไม่ต้องทำเรื่องขออนุมัติจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
นายวศิน กล่าวต่อว่า นอกจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ ที่บริษัทนำเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วยแล้ว บริษัทยังเตรียมกองทุนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเข้าร่วมในงานด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้นักลงทุนได้เลือกสรรกัน รวมถึงเป็นการกระจายความเสี่ยงในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทเปิดขายกองทุนเพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 15/09 (BP15/09) 2. กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 16/09 (BP16/09) และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 17/09 (BP17/09) ซึ่งเริ่มเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 25 มิถุนายน 2552 นี้ โดย 3 กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในสถาบันทางการเงินของประเทศเกาหลีใต้
ทั้งนี้ กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 15/09 มีอายุประมาณ 6 เดือน ขนาดโครงการ 2,000 ล้านบาท ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 16/09 มีอายุประมาณ 12 เดือน ขนาดโครงการ 1,000 ล้านบาท และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 17/09 มีอายุประมาณ 24 เดือน ขนาดโครงการ 1,500 ล้านบาท
โดย 3 กองทุนดังกล่าว เหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
"จากการตอบรับของนักลงทุนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทเตรียมออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน แต่นโยบายการลงทุนนั้นยังคงต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ ว่าการลงทุนประเภทใดจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การลงทุนในเกาหลีใต้ยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่"
นายวศินกล่าวต่อว่า ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 12/09 (BP12/09) , กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 13/09 (BP13/09) และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 14/09 (BP14/09) ที่ได้เปิดขายไปเมื่อวันที่ 12 - 18 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกว่าทั้ง 3 กองทุนสามารถปิดยอดขายได้เกือบเต็มจำนวนขนาดโครงการที่ได้ตั้งไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นนักลงทุนรายใหม่ และรายเก่า ที่เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้กองทุนได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีนั้น เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศยังคงให้ผลตอบแทนไม่น่าจูงใจมากนัก จึงเป็นผลให้นักลงทุนต่างหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน และแสวงหาผลตอบแทนที่สูงด้วย
ขณะเดียวกันนายวศิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือกับ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ชมรมธนาคาร จังหวัดนครราชสีมา จัดมหกรรมการออม การลงทุนครบวงจร : SET in the City สัญจร จ.นครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2552 บลจ. บัวหลวงได้เข้าร่วมเปิดรับชำระค่าซื้อหน่วยลงทุน สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้น25%เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สามารถชำระค่าคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าว ภายใต้เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ตามที่บริษัทจัดการและธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กำหนด ได้ทันทีในวันดังกล่าว โดยไม่ต้องกรอกเอกสารยืนยันการหักบัญชีบัตรเครดิตเพื่อซื้อหน่วยลงทุน และไม่ต้องทำเรื่องขออนุมัติจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
นายวศิน กล่าวต่อว่า นอกจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ ที่บริษัทนำเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วยแล้ว บริษัทยังเตรียมกองทุนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเข้าร่วมในงานด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้นักลงทุนได้เลือกสรรกัน รวมถึงเป็นการกระจายความเสี่ยงในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย
