บลจ. วรรณ โชว์ผลงาน "วรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้งมา มาร์เก็ต เอควิตี้" ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนพุ่ง 28% หลังได้อานิสงส์ตลาดหุ้นขาขึ้น ชี้ระยะสั้น หากตลาดหุ้นปรับฐาน เป็นโอกาสดีในการลงทุนซื้อของดีราคาถูก สร้างกำไรระยะยาว ผู้จัดการกองทุนชูกลยุทธ์ เน้นปรับพอร์ตตามสถานการณ์ ล่าสุด ระบุให้น้ำหนักลงทุนเอเชียมากสุด พร้อมเชื่อมั่นเศรษฐกิจจีนดีดตัวเร็ว ตัวแปรหนุนสำคัญ
นายสันธาน เฮงสกุล ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงผลตอบแทนของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอควิตี้ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของของบริษัทว่า ผลตอบแทนของกองทุนจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2552 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 28%จากต้นปีที่ผ่านมา จากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีนักลงทุนเข้ามาสอบถามถึงข้อมูลต่างๆของกองทุนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน นักลงทุนได้เริ่มกลับเข้ามาลงทุนใหม่อีกครั้งด้วยหลังจากที่มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งการลงทุนของนักลงทุนของบริษัทจะเป็นการทยอยเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องจากช่วงต้นปี
ทั้งนี้ การที่นักลงทุนให้ความสนใจกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้งมา มาร์เก็ต เอควิตี้ เนื่องจากมองว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้สะท้อนถึงสัญญาณการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมองว่าหากมีการฟื้นตัวตลาดเอเชียจะฟื้นตัวเร็วกว่าตลาดอื่นๆไม่ว่าจะเป็น อเมริกา หรือยุโรป ที่เป็นประเทศที่ประสบกับวิกฤตการเงินโดยตรง ดังนั้นประเทศเหล่านี้จึงจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงสั้นๆ นั้นอาจจะมีการปรับตัวลดลงบ้าง โดยอาจจะทำให้ตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงด้วย แต่สำหรับบริษัทมองว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในขณะนี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการกลับเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่เหล่านี้ เพราะจะทำให้ราคาหุ้นถูก โอกาสที่ระยะยาวนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ดีนั้นสูงตามไปด้วย
สำหรับกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้งมา มาร์เก็ต เอควิตี้ จะเน้นลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ลาตินอเมริกา และยุโรป โดยบริษัทจะให้น้ำหนักการลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นส่วนมากเช่น จีน เกาหลีใต้ ใต้หวัน อินเดีย ซึ่งประเทศจีนแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีที่สุด เนื่องจากฟื้นฐานโดยรวมในประเทศยังคงแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ส่วนที่เหลือได้กระจายการลงทุนไปยังลาตินอเมริกา และยุโรป ซึ่งกองทุนของเราจะให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดยุโรปน้อยกว่า MSCI Emerging Market เพราะแนวโน้มตลาดยังไม่ดีมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
"การปรับพอร์ตการลงทุนของ จะเน้นการปรับพอร์ตตามความเหมาะสมของสถานการณ์ในช่วงนั้นเป็นหลัก โดยพิจารณาจากมูลค่าพื้นฐานของหุ้นในประเทศที่เราจะเข้าไปลงทุนเป็นหลัก หากประเทศไหนเราดูแล้วว่าราคาหุ้นถูก อีกทั้งเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะเวลาไม่นาน ก็จะเข้าไปลงทุน"นายสันธาน
ในส่วนของผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552 พบว่า กองทุน 1AM-GEM มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 42.94% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 36.05% ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -34.23% และผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่-10.82%
สำหรับตลาดหุ้นไทย นายสันธานกล่าวว่า การที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้มีการเทขายเพื่อทำกำไรของนักลงทุนในประเทศ จนทำให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงบ้าง เช่นเดียวกับ เม็ดเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่อาจจะมีการขายออกเพื่อทำกำไรบ้างก็ได้ จากนั้นก็เม็ดเงินดังกล่าวก็จะไหลกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง เพราะนักลงทุนเหล่านี้ ต่างมองว่าตลาดหุ้นยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
นายสันธาน เฮงสกุล ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงผลตอบแทนของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอควิตี้ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของของบริษัทว่า ผลตอบแทนของกองทุนจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2552 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 28%จากต้นปีที่ผ่านมา จากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีนักลงทุนเข้ามาสอบถามถึงข้อมูลต่างๆของกองทุนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน นักลงทุนได้เริ่มกลับเข้ามาลงทุนใหม่อีกครั้งด้วยหลังจากที่มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งการลงทุนของนักลงทุนของบริษัทจะเป็นการทยอยเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องจากช่วงต้นปี
ทั้งนี้ การที่นักลงทุนให้ความสนใจกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้งมา มาร์เก็ต เอควิตี้ เนื่องจากมองว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้สะท้อนถึงสัญญาณการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมองว่าหากมีการฟื้นตัวตลาดเอเชียจะฟื้นตัวเร็วกว่าตลาดอื่นๆไม่ว่าจะเป็น อเมริกา หรือยุโรป ที่เป็นประเทศที่ประสบกับวิกฤตการเงินโดยตรง ดังนั้นประเทศเหล่านี้จึงจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงสั้นๆ นั้นอาจจะมีการปรับตัวลดลงบ้าง โดยอาจจะทำให้ตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงด้วย แต่สำหรับบริษัทมองว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในขณะนี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการกลับเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่เหล่านี้ เพราะจะทำให้ราคาหุ้นถูก โอกาสที่ระยะยาวนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ดีนั้นสูงตามไปด้วย
สำหรับกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้งมา มาร์เก็ต เอควิตี้ จะเน้นลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ลาตินอเมริกา และยุโรป โดยบริษัทจะให้น้ำหนักการลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นส่วนมากเช่น จีน เกาหลีใต้ ใต้หวัน อินเดีย ซึ่งประเทศจีนแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีที่สุด เนื่องจากฟื้นฐานโดยรวมในประเทศยังคงแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ส่วนที่เหลือได้กระจายการลงทุนไปยังลาตินอเมริกา และยุโรป ซึ่งกองทุนของเราจะให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดยุโรปน้อยกว่า MSCI Emerging Market เพราะแนวโน้มตลาดยังไม่ดีมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
"การปรับพอร์ตการลงทุนของ จะเน้นการปรับพอร์ตตามความเหมาะสมของสถานการณ์ในช่วงนั้นเป็นหลัก โดยพิจารณาจากมูลค่าพื้นฐานของหุ้นในประเทศที่เราจะเข้าไปลงทุนเป็นหลัก หากประเทศไหนเราดูแล้วว่าราคาหุ้นถูก อีกทั้งเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะเวลาไม่นาน ก็จะเข้าไปลงทุน"นายสันธาน
ในส่วนของผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552 พบว่า กองทุน 1AM-GEM มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 42.94% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 36.05% ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -34.23% และผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่-10.82%
สำหรับตลาดหุ้นไทย นายสันธานกล่าวว่า การที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้มีการเทขายเพื่อทำกำไรของนักลงทุนในประเทศ จนทำให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงบ้าง เช่นเดียวกับ เม็ดเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่อาจจะมีการขายออกเพื่อทำกำไรบ้างก็ได้ จากนั้นก็เม็ดเงินดังกล่าวก็จะไหลกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง เพราะนักลงทุนเหล่านี้ ต่างมองว่าตลาดหุ้นยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
