เอเอฟพี - ธนาคารโลกปรับการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกกันใหม่อีกเมื่อวันนี้(22) โดยพยากรณ์ว่าประเทศกำลังพัฒนาทั่วทั้งโลกว่าจะขยายตัว 1.2%.ในปีนี้ แต่หากว่าไม่นับรวมจีนและอินเดียแล้วน่าจะหดตัวถึง 1.6%
ท่ามกลางกระแสวิกฤตทางด้านการเงินและเศรษฐกิจของโลกที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ เพียงเมื่อ 8 วันก่อนหน้านี้ เวิลด์แบงก์ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของโลกโดยรวมว่าจะหดตัวตัวถึง 3% ในปีนี้ แต่มาวานนี้ ธนาคารโลกก็ปรับการคาดการณ์ให้ดีขึ้นเล็กน้อย คือ เป็นติดลบ 2.9%
ในรายงานพยากรณ์เศรษฐกิจที่ธนาคารโลกออกมาเมื่อเดือนมีนาคมชี้ว่า บรรดาประเทศกำลังพัฒนานั้นจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.1% และน่าจะเป็น 0% ถ้าไม่นับรวมจีนและอินเดีย
สำหรับการคาดการณ์ของปี 2010 รายงานของธนาคารโลกฉบับใหม่ระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะอยู่ที่ 2% ส่วนอัตราของประเทศกำลังพัฒนาจะอยู่ที่ 4.4% และหากไม่รวมจีนและอินเดียแล้ว การขยายตัวในประเทศกำลังพัฒนาจะอยู่ที่ 2.5%
ทั้งนี้เศรษฐกิจของจีนจะขยายตัว 7.2% ในปีนี้ และ 7.7% ในปี 2010 ในขณะที่เศรษฐกิจอินเดียวจะเติบโต 5.1% ปีนี้ และตามด้วย 8.0% ในปีถัดไป
การทำนายล่าสุดของธนาคารโลกนี้ปรากฏในรายงาน "พัฒนาการด้านการเงินของโลกปี 2009: วางผังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก" (Global Development Finance 2009: Charting a Global Recovery) ซึ่งออกมาในช่วงการสัมมนาประจำปีของธนาคารโลกที่เริ่มขึ้นวานนี้ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ในรายงานฉบับนี้ ธนาคารโลกยังได้แสดงความวิตกว่า กระแสการไหลของเงินทุนภาคเอกชนสู่ประเทศกำลังพัฒนา จะลดน้อยลงถึง 49% ในปีนี้ หรือเหลือเพียง 363,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 707,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
เวิลด์แบงก์คาดด้วยว่าในปีนี้การค้าโลกจะหดตัวลงไป 9.7% ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 3.8% ในปี 2010
"ความจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างในภาคการธนาคาร รวมกับความจำกัดที่กำลังปรากฏขึ้นมาให้เห็น ในเรื่องการใช้นโยบายมุ่งขยายตัวของพวกประเทศที่มีรายได้สูง จะถ่วงดึงไม่ให้การฟื้นตัวของโลกได้รับแรงฉุดลาก" จัสติน หลิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกกล่าวในคำแถลงเปิดตัวรายงาน
นอกจากนั้น ธนาคารโลกเรียกร้องให้ "มุ่งความสนใจเป็นพิเศษ" ไปที่ "ความเสี่ยงของวิกฤตดุลการชำระเงิน และการปรับโครงสร้างหนี้ของภาคธุรกิจในหลายๆ ประเทศ" เพื่อที่จะ "หลีกเลี่ยงวิกฤตสินเชื่อที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 1970 และ 1980 มาแล้ว"
เมื่อแยกเป็นรายภูมิภาค เวิลด์แบงก์คาดการณ์ว่า พวกประเทศกำลังพัฒนาในยุโรปและเอเชียกลาง จีดีพีจะหดตัวถึง 4.7% ในปีนี้ ก่อนจะบวก 1.6% ในปีหน้า
สถานการณ์ในประเทศกำลังพัฒนาแถบลาตินอเมริกาและทะเลแคริบเบียนก็คล้ายคลึงกัน โดยในปี 2009 เศรษฐกิจของสองกลุ่มนี้จะหดตัว 2.2% และตามมาด้วยการขยายตัว 2.0% ในปีหน้า
สำหรับภูมิภาคอื่นๆ ของโลกกำลังพัฒนา ยังสามารถเติบโตได้ต่อไปไม่ต้องติดลบ เอเชียใต้นั้นจะขยาย 4.6% ในปีนี้ และ 7.0%ในปีหน้า ส่วนตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะโต 3.1% ในปี 2009 และ 3.8% ในปี 2010 ซับซาฮาราของแอฟริกาก็จะขยายตัว 1.0% และ 3.7% ตามลำดับ
รายงานเวิลด์แบงก์พูดถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกว่า รู้สึกถึงผลกระทบจากวิกฤตอย่างเต็มที่ เพราะมีความเชื่อมโยงทางการค้าอย่างใกล้ชิดกับพวกประเทศรายได้สูง และเพราะปริมาณการลงทุนก็ลดวูบลง เช่นเดียวกับการหล่นฮวบในการส่งออกและการผลิตทางอุตสาหกรรม
เกี่ยวกับอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าทั้งภูมิภาคโดยรวมจะเติบโตในระดับ 5% ปีนี้ ถึงแม้ประเทศในภูมิภาคนี้จำนวนมากน่าจะมีจีดีพีติดลบ ทั้งนี้ตลอดทั้งเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกน่าจะเริ่มมีการฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 2009 และไปถึงปี 2010 โดยเป็นการสะท้อนถึงมาตรการกระตุ้นทางการคลังอันสำคัญมากในประเทศจีน และการที่พวกประเทศร่ำรวยเริ่มกลับมีความต้องการสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ดี การเลี้ยวกลับมาสู่ความเจริญเติบโตคงจะเป็นไปอย่างช้าๆ โดยที่รายงานทำนายว่าจีดีพีของภูมิภาคนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 6.6% ในปี 2010
