เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันพฤหัสบดี (11) โดยปิดตลาดเหนือ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 เดือนครั้งใหม่ บนความหวังแห่งการฟื้นตัวของอุปสงค์พลังงานโลก ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดในแดนบวก หลังได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขยอดขายปลีกและข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ
ปัจจัยที่ผลักดันราคาน้ำมันคือสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ได้ปรับเพิ่มประมาณการอุปสงค์น้ำมันโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2 วันหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ปรับประมาณการของตนเองในแบบเดียวกัน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายทะยานไปถึง 72.23 ดอลลารต่อบาร์เรล ขณะที่ เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ ปิดที่ 71.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ช่วงต้นของการซื้อขายตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลขของจีนที่เผยว่าชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกแห่งนี้นำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 5.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากข่าวบริษัท บาเรโล จะปิดโรงกลั่นน้ำมันที่ตั้งอยู่ ณ เกาะอารูบา ทะเลแคริบเบียน ในช่วงฤดูร้อนนี้สืบเนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน ก่อความกังวลต่ออุปทานพลังงานในช่วงที่อเมริกันใช้รถใช้ถนนสูงสุด
รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) เมื่อวันพุธ (10) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงอย่างแรง 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้วเหตุเพราะนำเข้าลดลง ทว่าสต๊อกน้ำมันดิบยังคงสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีก่อนถึง 19 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกัน ข้อมูลยอดขายปลีกที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ และจำนวนผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานที่ลดลง ทำให้นักลงทุนคาดหมายว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอเมริกากำลังคลี่คลาย ผลักให้วอลล์สตรีทในวันพฤหัสบดี (10) ปิดตลาดในแดนบวกเล็กน้อย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.90 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,770.92 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.74 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 944.89 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 9.29 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,862.37 จุด
ตลาดปรับขึ้นตอบรับข่าวยอดขายปลีกสหรัฐฯในเดือนพฤษภาคม ดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แม้ว่าตัวเลขส่วนใหญ่จะมาจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ ในรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่ระบุว่า จำนวนผู้เข้าขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและลดลง 4 สัปดาห์ติดต่อกันก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักให้ตลาดขยับขึ้นไปปิดในแดนบวก
