ASTVผู้จัดการายวัน - บลจ.กรุงไทยประเมิน "พันธบัตรออมทรัพย์" ไม่เเย่งฐานลูกค้ากับบลจ. เชื่อผลตอบเเทน-ความเสี่ยงระหว่างกองทุน กับพันธบัตรออมทรัพย์ต่างกัน มั่นใจกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้ ยังให้ผลตอบเเทนดีกว่า
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลเตรียมจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท หลังพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญนั้น ไม่ถือว่าเป็นการเเย่งฐานลูกค้าของบลจ.ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้ของไทย เเละของต่างประเทศอย่างเช่นพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีนั้น ให้ผลตอบเเทนที่เเตกต่างกัน รวมถึงความเสี่ยงของเเต่ละประเทศก็เเตกต่างกันอีกด้วย โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องของการถือตราสารหนี้ในระยะปานกลางถึงระยะยาวนั้นอาจจะมีปัญหาเรื่องดูเรชั่นหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจะทำให้ผลตอบเเทนนั้นลดลงได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ ค่อนข้างให้ผลตอบเเทนที่ดี ความเสี่ยงก็มีน้อย เนื่องจากบลจ.จะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเเลกเปลี่ยนไว้เเล้ว ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในความเสี่ยงดังกล่าวได้ ขณะเดียวกัน เรามองว่าตราสารหนี้ของเกาหลีใต้นั้นยังมีความน่าสนใจในเเง่ผลตอบเเทน ซึ่งก่อนหน้านี้ เราก็มองหาตราสารหนี้ประเทศอื่นๆไว้เช่นกันเเต่ผลตอบเเทนนั้นก็ยังถือว่าน้อยกว่าของประเทศเกาหลีใต้
ด้านรายงานว่าจากฝ่ายวิจัยมีมุมมองต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ดังนี้ ธนาคารพาณิชย์ของเกาหลีใต้ได้เพิ่มการให้เงินกู้เเก่ภาคครัวเรือน โดยยอดการปล่อยกู้ภาคครัวเรือนในเดือนพฤษาภาคม เพิ่มขึ้น 2.81 ล้านล้านวอนอยู่ที่ 395.5 ล้านล้านวอน เนื่องจากผู้บริโภคมีอุปสงค์ตือบ้างที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการปล่อยกู้เพิ่มขึ้นเเม้ว่ายอดการปลดพนังงานในเดือน พ.ค.มีจำนวนมาที่สุดในรอบกว่า 10 ปีโดยอัตราการจ้างงานในเดือนพค.ลดลง 219,000 ตำเเหน่งจากปีก่อน เเละอัตราการว่างงาน (ปรับฤดูกาล) เพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีอยู่ที่ 3.9% จาก 3.7% ในเดือนเมษายน ซึ่งเเม้ว่าจะเป็นอัตราการว่างงานที่ต่ำกว่าประเทศตะวันตกหลายประเทศ เเต่อัตรานี้ก็เน้นย่ำว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้อาจจะดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
อย่างไรก็ตาม ตลาดเเรงงานที่ซบเซานี้ไม่ได้เป็นตัวยบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงต่อไป ในทางตรงกันข้าม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ธนาคารกลางเกาหลี (BOK) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันเป็นเวลาอีกหลายเดือน สำหรับดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือนพ.ค. หดตัวเป็นครั้งเเรกในรอบ 7 ปีอยู่ที่ -0.8%MoMหรือ -1.3%YoY จากเดือนเมษายน +0.2%MoM หรือ +1.5%YoY เนื่องจากต้นทุนของสินค้าอุตสหกรรมที่ปรับลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อซึ่งวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้อยู่ในระดับต่ำจากราคาพลังงานที่ลดต่ำลงกว่าปีที่เเล้ว อย่างก็ดีเเม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ เเต่ยังมีความวิตกเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นทันที่ของเเรงกดดันด้านเงินเฟ้อ อันเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกนับตั้งเเต่ปลายปีที่เเล้ว
โดยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา BOK ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 7 วันไว้ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันอยู่ที่ 2.0% เเละมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมามีความเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดย BOK ได้ปรับลดอัตราเบี้ยลงเเล้ว ซึ่งธนาคารกลางจะยังดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายต่อไป เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเเละตลาดการเงิน
ทั้งนี้ ผู้ว่าการ BOK ได้เรียกร้องให้มีความระมัดระวังเกี่ยวกับเเรงกดดันจากเงินเฟ้อภายในประเทศจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นทั่วโลก เเละภาวะฟองสบู่จากราคาสินทรัพย์อันเป็นผลจากนโยบายผ่อนคลานการเงินที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา Window sale เพื่อดูดซับสภาพคล่องจากระบบการธนาคารภายในประเทศโดย BOK เห็นว่าเป็นการดำเนินการเพื่อปรับตลาดสำหรับการควบคุมระดับสภาพคล่อง เนื่องจาก BOK จำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่ความเป็นไปได้ที่ราคาวัตถุดิบระหว่างประเทศที่ปรับตัวขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของราคาภายในประเทศเเละการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสภาพคล่องระยะสั้น