บลจ.กรุงไทย กวาดยอดเงินกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ครึ่งปีเเรก กว่า 31,000 ล้านบาท ล่าสุด เดินหน้าส่งกองใหม่ "กรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12เดือน 4" เอาใจลูกค้าต่อเนื่อง ปรับกลยุทธ์ลงทุนใน MSB Bond เเทน หลังเศรษฐส่งสัญญาณฟื้น ดึงเงินลงทุนแดนกินจิทั้งบอนด์และหุ้น IPO เเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 9 มิ.ย. ให้ผลตอบเเทน 2.60%ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้มียอดการจำหน่ายทั้งสิ้นกว่า 31,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมากองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ จะลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐ (ECP หรือ MTN) ของประเทศเกาหลีใต้ เพราะผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุน Monetary Stabilization Board (MSB) Bond ซึ่งกองทุน
ล่าสุด กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12เดือน 4 ที่กำลังเปิดขายอยู่นี้ จะลงทุนใน MSB Bond เเทน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีเงินทุนต่างประเทศไหลกลับเข้าไปลงทุนทั้งในตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุน ส่งผลให้ความเสี่ยงในการโอนเงินข้ามสกุลระหว่างวอนกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ลดลงอย่างชัดเจน และผลตอบแทนจากการลงทุนใน ECP หรือ MTN ได้ลดลงอย่างมากประกอบกับสถาบันการเงินต่างๆ ในเกาหลีใต้มีการปรับโครงสร้างการเงินโดยเน้นการออกตราสารหนี้ในระยะกลาง-ยาวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ความจำเป็นในการออกตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปีลดลง ดังนั้น กองทุนจึงเพิ่มทางเลือกโดยการหันมาเน้นลงทุนใน MSB Bond ซึ่งเป็นตราสารที่มีอายุใกล้เคียงกับกองทุน โดยมีสถานะเป็นภาครัฐได้รับการจัดอันดันความน่าเชื่อถือระยะสั้น A1 โดย S&P
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12เดือน 4( KTFIF12M4) มีอายุโครงการ1ปี มูลค่า 5,000 ล้านบาทป็นกองทุนที่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศเกาหลีใต้ ( Monetary Stabilization Board (MSB) Bond ) ทั้ง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมซึ่งพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวมีบทบาทในการรักษาเสถียรภาพการเงินของเกาหลีใต้มีสถานะเป็นหน่วยงานภาครัฐและกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.60% ต่อปีและไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายเปิดขายหน่วยลงทุนเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 9 มิถุนายน 2552
นายสมชัยกล่าวว่า บริษัทยังยึดมั่น ในนโยบายการบริหารกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และมีความปลอดภัยในเงินลงทุนของลูกค้าให้เหมาะสมกับที่บริษัทได้รับความไว้วางใจมาโดยตลอด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ เมื่อมีกองทุนที่ครบอายุโครงการ ก็จะลงทุนในกองทุนอื่นๆของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัท จึงต้องเสาะแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ดีให้กับลูกค้าตลอดเวลา
ขณะเดียวกันบริษัทยังเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนรอบใหม่( Roll Over)สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำคุ้มครองเงินต้น 3 เดือน 3 (KTFIX3M3)ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2552ซึ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และเงินฝากของสถาบันการเงินในประเทศ โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 0.60% ต่อปี กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นลงทุนในประเทศ และรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3 จะลงทุนในตราสารหนี้ที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้นได้เเก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออกหรือสินทรัพย์อื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียงเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ส่วนเงินทุนที่เหลือาจพิจารณาลงทุนในตราสารที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารเเห่งหนี้ของธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารที่มีกฏหมายเฉพาะจัดตั้งเเละหรือตราสารเเห่งหนี้ทั่วไปที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)เเละตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเเฝง(Structured Note)
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้มียอดการจำหน่ายทั้งสิ้นกว่า 31,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมากองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ จะลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐ (ECP หรือ MTN) ของประเทศเกาหลีใต้ เพราะผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุน Monetary Stabilization Board (MSB) Bond ซึ่งกองทุน
ล่าสุด กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12เดือน 4 ที่กำลังเปิดขายอยู่นี้ จะลงทุนใน MSB Bond เเทน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีเงินทุนต่างประเทศไหลกลับเข้าไปลงทุนทั้งในตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุน ส่งผลให้ความเสี่ยงในการโอนเงินข้ามสกุลระหว่างวอนกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ลดลงอย่างชัดเจน และผลตอบแทนจากการลงทุนใน ECP หรือ MTN ได้ลดลงอย่างมากประกอบกับสถาบันการเงินต่างๆ ในเกาหลีใต้มีการปรับโครงสร้างการเงินโดยเน้นการออกตราสารหนี้ในระยะกลาง-ยาวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ความจำเป็นในการออกตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปีลดลง ดังนั้น กองทุนจึงเพิ่มทางเลือกโดยการหันมาเน้นลงทุนใน MSB Bond ซึ่งเป็นตราสารที่มีอายุใกล้เคียงกับกองทุน โดยมีสถานะเป็นภาครัฐได้รับการจัดอันดันความน่าเชื่อถือระยะสั้น A1 โดย S&P
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12เดือน 4( KTFIF12M4) มีอายุโครงการ1ปี มูลค่า 5,000 ล้านบาทป็นกองทุนที่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศเกาหลีใต้ ( Monetary Stabilization Board (MSB) Bond ) ทั้ง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมซึ่งพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวมีบทบาทในการรักษาเสถียรภาพการเงินของเกาหลีใต้มีสถานะเป็นหน่วยงานภาครัฐและกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.60% ต่อปีและไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายเปิดขายหน่วยลงทุนเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 9 มิถุนายน 2552
นายสมชัยกล่าวว่า บริษัทยังยึดมั่น ในนโยบายการบริหารกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และมีความปลอดภัยในเงินลงทุนของลูกค้าให้เหมาะสมกับที่บริษัทได้รับความไว้วางใจมาโดยตลอด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ เมื่อมีกองทุนที่ครบอายุโครงการ ก็จะลงทุนในกองทุนอื่นๆของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัท จึงต้องเสาะแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ดีให้กับลูกค้าตลอดเวลา
ขณะเดียวกันบริษัทยังเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนรอบใหม่( Roll Over)สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำคุ้มครองเงินต้น 3 เดือน 3 (KTFIX3M3)ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2552ซึ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และเงินฝากของสถาบันการเงินในประเทศ โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 0.60% ต่อปี กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นลงทุนในประเทศ และรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3 จะลงทุนในตราสารหนี้ที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้นได้เเก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออกหรือสินทรัพย์อื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียงเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ส่วนเงินทุนที่เหลือาจพิจารณาลงทุนในตราสารที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารเเห่งหนี้ของธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารที่มีกฏหมายเฉพาะจัดตั้งเเละหรือตราสารเเห่งหนี้ทั่วไปที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)เเละตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเเฝง(Structured Note)
