บลจ.กรุงไทยเชื่อ กนง.ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มหันออกไปมองหาหลักทรัพย์อื่นเพื่อเพิ่มผลตอบจากการลงทุน แม้ว่าจะต้องแบกรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ตาม พร้อมเดินหน้าส่งกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ-แดนโสมเป็นทางเลือก ด้าน บลจ.นครหลวงไทยคลอดกองทุนตราสารหนี้แดนโสมเช่นกัน เสนอทางเลือกลงทุนระยะสั้น 9 เดือนและระยะยาว 3 ปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ที่จะมีการประชุมในวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 นี้ เพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าการประชุมในครั้งนี้ทาง กนง.น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกไม่เกิน 0.25% จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ1.25% ต่อปี โดยแนวโน้มดังกล่าวทำให้นักลงทุนและผู้ออมเงินเริ่มแสวงหาหลักทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน แม้จะต้องรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐ ในช่วงนี้ ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนรุ่นอายุ 3-5 ปี เริ่มมีผู้ออกมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุน
ทั้งนี้ ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศโดยเฉพาะตราสารหนี้ของสถาบันการเงินเกาหลีใต้ยังมีแนวโน้มความต้องการลงทุนของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทจะเริ่มทยอยปรับลดลง แต่อัตราผลตอบยังสูงกว่าการลงทุนในประเทศที่มีระดับความเสี่ยงเดียวกัน
ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังอยู่ในช่วงการเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ให้ผู้ลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม โดยจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12 เดือน 2(KTFF12M2) และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 2 ( KTSIV3M2)
โดยกองทุน KTFF12M2 เปิดจำหน่ายในวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2552 อายุโครงการ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด F1 โดย Fitch Rating และเงินลงทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 4.00-4.30%ต่อปี
ส่วนกองทุนKTSIV3M2 เป็นกอง Roll Over เปิดจำหน่ายรอบใหม่ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤษภาคม 2552 อายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน และเงินฝากสถาบันการเงินในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.90%ต่อปี
ด้านรายงานจาก บลจ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M4/09 (SCI INGI9M4/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 9 เดือน และกองทุนเปิดนครหลวงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ KO 3Y (SCI FIFKO 3Y) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 3 ปี โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 13 – 19 พฤษภาคม 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 2,000 บาท
สำหรับกองทุน SCI INGI9M4/09 จะนำเงินไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจากการลงทุนดังกล่าว บริษัทจัดการอาจลงทุนในเงินฝาก หรือ ตราสารแห่งหนี้ในประเทศ รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือ การหาดอกผลโดยวิธีอื่นใดตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) นอกจากนี้ กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (efficient portfolio management) ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเข้าทำธุรกรรมกับคู่สัญญาต่างประเทศนั้นจะดำเนินการได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ทราบ รวมทั้งอาจทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) หรือ ธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
ส่วนกองทุน SCI FIFKO 3Y จะนำเงินไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ หรือตราสารที่มีรูปแบบทำนองเดียวกับตราสารภาครัฐไทยที่รัฐบาล องค์การหรือหน่วยงานของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายต่างประเทศของประเทศเกาหลีใต้เป็นผู้ออกหรือผู้ค้ำประกัน และหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินของประเทศเกาหลีใต้ที่มีอัยนดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่ลงทุนได้ (investment grade) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเข้าทำธุรกรรมกับคู่สัญญาต่างประเทศนั้นจะดำเนินการได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ทราบ รวมทั้งอาจทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) หรือ ธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ที่จะมีการประชุมในวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 นี้ เพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าการประชุมในครั้งนี้ทาง กนง.น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกไม่เกิน 0.25% จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ1.25% ต่อปี โดยแนวโน้มดังกล่าวทำให้นักลงทุนและผู้ออมเงินเริ่มแสวงหาหลักทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน แม้จะต้องรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐ ในช่วงนี้ ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนรุ่นอายุ 3-5 ปี เริ่มมีผู้ออกมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุน
ทั้งนี้ ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศโดยเฉพาะตราสารหนี้ของสถาบันการเงินเกาหลีใต้ยังมีแนวโน้มความต้องการลงทุนของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทจะเริ่มทยอยปรับลดลง แต่อัตราผลตอบยังสูงกว่าการลงทุนในประเทศที่มีระดับความเสี่ยงเดียวกัน
ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังอยู่ในช่วงการเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ให้ผู้ลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม โดยจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 12 เดือน 2(KTFF12M2) และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 2 ( KTSIV3M2)
โดยกองทุน KTFF12M2 เปิดจำหน่ายในวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2552 อายุโครงการ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด F1 โดย Fitch Rating และเงินลงทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 4.00-4.30%ต่อปี
ส่วนกองทุนKTSIV3M2 เป็นกอง Roll Over เปิดจำหน่ายรอบใหม่ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤษภาคม 2552 อายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน และเงินฝากสถาบันการเงินในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.90%ต่อปี
ด้านรายงานจาก บลจ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M4/09 (SCI INGI9M4/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 9 เดือน และกองทุนเปิดนครหลวงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ KO 3Y (SCI FIFKO 3Y) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 3 ปี โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 13 – 19 พฤษภาคม 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 2,000 บาท
สำหรับกองทุน SCI INGI9M4/09 จะนำเงินไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจากการลงทุนดังกล่าว บริษัทจัดการอาจลงทุนในเงินฝาก หรือ ตราสารแห่งหนี้ในประเทศ รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือ การหาดอกผลโดยวิธีอื่นใดตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) นอกจากนี้ กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (efficient portfolio management) ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเข้าทำธุรกรรมกับคู่สัญญาต่างประเทศนั้นจะดำเนินการได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ทราบ รวมทั้งอาจทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) หรือ ธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
ส่วนกองทุน SCI FIFKO 3Y จะนำเงินไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ หรือตราสารที่มีรูปแบบทำนองเดียวกับตราสารภาครัฐไทยที่รัฐบาล องค์การหรือหน่วยงานของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายต่างประเทศของประเทศเกาหลีใต้เป็นผู้ออกหรือผู้ค้ำประกัน และหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินของประเทศเกาหลีใต้ที่มีอัยนดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่ลงทุนได้ (investment grade) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเข้าทำธุรกรรมกับคู่สัญญาต่างประเทศนั้นจะดำเนินการได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยและแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ทราบ รวมทั้งอาจทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) หรือ ธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้