ASTVผู้จัดการรายวัน - สัญญาณดอกเบี้ยต่ำ กระตุ้นบลจ.ออกกองทุนระยะยาว ล่าสุด "บัวหลวง" คลอด "ธนพลัส 3/09" ขยับอายุลงทุนยาวขึ้นเป็น 3 ปี ในตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ พร้อมให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 5% ปี หลังประเมินเศรษฐกิจโลกซึมยาว ขณะที่ "กรุงไทย" เดินหน้ากองระยะสั้นต่อ เปิดไอพีโอ "กรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ9เดือน1" ลงทุนบอนด์เกาหลีใต้ 9 เดือน ให้ผลตอบเเทน 4.00% ต่อปี
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมบัวหลวงธนพลัส 3/09 (BP3/09) ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการ 3 ปี เเละมีขนาดโครงการ 2,000 ล้านบาท จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศซึ่งออกโดยสถาบันการเงินของประเทศเกาหลี โดยประมาณการผลตอบเเทนไม่น้อยกว่า 5% ต่อปี ซึ่งเปิดขายครั้งเเรก (IPO)เเล้ว ตั้งเเต่วันนี้ถึง 4 พฤษภาคม 2552 นี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้นักลงทุนค่อนข้างให้ความสนใจกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นจำนวนมาก เเต่บลจ.บัวหลวงมองอีกมุมหนึ่งว่า เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังไม่มีสัญญาณว่าจะปรับตัวขึ้น ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุขึ้นมาประมาณ 3 ปี จากอายุสั้นๆเพียง 3 เดือน 6 เดือน เเละ 1 ปี น่าจะให้ผลตอบเเทนที่ดีกว่า โดยกองทุนรวมบัวหลวงธนพลัส 3/09 นั้นประมาณการผลตอบเเทนไม่น้อยกว่า 5% ต่อปี ซึ่งเเน่นอนว่าน่าจะให้ผลตอบเเทนมากกว่าที่ได้การันตีไว้
สำหรับกองทุนรวมบัวหลวงธนพลัส 3/09 จะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศ และหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจ และหรือตราสารแห่งหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงิน ซึ่งผู้ออกหรือตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ตั้งแต่ A- ขึ้นไปส่วนที่เหลือ อาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นทั้งในและต่างประเทศ
อนึ่ง การลงทุนในประเทศ จะเป็นการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานรอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรือสำหรับการอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันนี้ โดยจะเป็นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้หรือเงินฝากที่มีอายุของตราสารหรือสัญญาหรือระยะเวลาการฝากเงินไม่เกินหนึ่งปี และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ( Derivatives contract ) เพื่อป้องกันความเสี่ยง ( Hedging )ในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ( Structured Note ) รวมถึงตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) แต่อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) เฉพาะกรณีที่ตราสารแห่งหนี้นั้นได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) ขณะที่กองทุนลงทุนเท่านั้น
ด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM กล่าวว่า ตลาดพันธบัตรรัฐบาลยังมีปริมาณความต้องการลงทุนสูง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2552-2553 ลงมาอยู่ในระดับ -1.5% ถึง -3.5% (YoY) และ +1.5% ถึง +3.5% ตามลำดับ โดยที่เศรษฐกิจจะไม่เผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุน ได้ปรับเปลี่ยนมาลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวขึ้น รวมถึงการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ในระดับความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทจึงได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 9 เดือน1 (KTFIF9 M1) ออกมาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 28 เมษายน -4 พฤษภาคมนี้
โดยกองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนที่มีอายุโครงการ 9 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ได้แก่ Export-Import Bank of Korea , Korea Development Bank และ Industrial Bank of Korea โดยผู้ลงทุนกองจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่4.00% ต่อปี สถาบันการเงินทั้ง 3 แห่ง เป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการดำเนินนโยบายต่างๆ โดยปัจจุบัน รัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้นใน Export – Import Bank of Korea และ Korea Development Bank ทั้ง 100% และถือหุ้นใน Industrial Bank of Korea ประมาณ 67% โดยเงินลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 2 ( Roll Over) จนถึงวันที่ 29 เมษายน 2552 อายุโครงการ 3 เดือน มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ และเงินฝากธนาคารพาณิชย์ โดยกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 60% เงินฝาก /บัตรเงินฝากของธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารทิสโก้ สถาบันละ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 0.40%ต่อปี
