คอลัมน์ คุยกับผู้จัดการกองทุน
โดยบลจ. แอสเซท พลัส
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 60.19 จุดหรือ 13.98 % โดย ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 52 SET Index ปิที่ระดับ 560.41 และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 24,419 ล้านบาท โดย SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา และสามารถปรับตัวยืนหนือ 500 ได้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคมที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนเม.ย.52 ยู่ที่ 104.6 ลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกจากต่างประทศอีกด้วย เริ่มจากผลการทดสอบภาวะวิกฤต(Stress Test)โดยรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ธนาคารจำนวน 10 แห่จาก 19 แห่งมีจำเป็นต้องเพิ่มทุนซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด ต่อมาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มแสดงห้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวไม่ว่าจะเป็น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเกินคาดและสูงที่สดในรอบ 7 เดือนสู่ระดบ -43 ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย.ซึ่งลดลงเพีย 491,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 650,000 ตำแหน่ง
นอกจากนั้นดัชนีภาคบริการของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PM) ของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ 43.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนปี 2001 โดย SET ปรับตัวขึ้นและแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 569.55 ในวันที่ 29 พฤษภาคม อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างเดือน SET ปรับตัวลดลงเป็นระยะๆ ตามปัจจัยลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร ระยะ 1 วัน ไว้ที่ 1.25% ซึ่งไม่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าดอกเบี้ยจะลดลง 0.25%
สภาพัฒน์รายงานตัวเลขอัตราการขายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP)ในไตรมาสที่ 1 ที่หดตัวสงถึง 7.1% เมื่อทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ มูดส์ อินเวสเตอร์ เซร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 11 แห่งของไทย โดยมีแนวโน้มรับลดอันดับความน่าชื่อถือลง นอกจากนั้นยังมีประเด็นการที่สถาบันจัดอันดับสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ให้ความเห็นเชิงลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของอังกฤษ และการทดสอบขีปนาวุธของประเทศเกาหลีเหนือ โดยในเดือนพฤษภาคมนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิ 8,091 ล้านาท นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ขายสุทธิ 2,350 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ขายสุทธิ 5,741 ล้านบาท
คาดการณ์การลงทุนใเดือนมิถุนายน
ในช่วงเดือนพฤษภาคม SET น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 530-590 จุด โดยกระแสนักลงทุนต่างชาติที่ข้าสู่ภูมิภาคเอเชีและการปรับตัวของตลาดต่างประเทศจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาด อย่างไรก็ตามภาวะเศรฐกิจโลกและภาวะเศรษกิจไทย ตลอดจนปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
โดยบลจ. แอสเซท พลัส
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 60.19 จุดหรือ 13.98 % โดย ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 52 SET Index ปิที่ระดับ 560.41 และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 24,419 ล้านบาท โดย SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา และสามารถปรับตัวยืนหนือ 500 ได้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคมที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนเม.ย.52 ยู่ที่ 104.6 ลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกจากต่างประทศอีกด้วย เริ่มจากผลการทดสอบภาวะวิกฤต(Stress Test)โดยรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ธนาคารจำนวน 10 แห่จาก 19 แห่งมีจำเป็นต้องเพิ่มทุนซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด ต่อมาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มแสดงห้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวไม่ว่าจะเป็น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเกินคาดและสูงที่สดในรอบ 7 เดือนสู่ระดบ -43 ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย.ซึ่งลดลงเพีย 491,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 650,000 ตำแหน่ง
นอกจากนั้นดัชนีภาคบริการของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PM) ของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ 43.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนปี 2001 โดย SET ปรับตัวขึ้นและแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 569.55 ในวันที่ 29 พฤษภาคม อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างเดือน SET ปรับตัวลดลงเป็นระยะๆ ตามปัจจัยลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร ระยะ 1 วัน ไว้ที่ 1.25% ซึ่งไม่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าดอกเบี้ยจะลดลง 0.25%
สภาพัฒน์รายงานตัวเลขอัตราการขายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP)ในไตรมาสที่ 1 ที่หดตัวสงถึง 7.1% เมื่อทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ มูดส์ อินเวสเตอร์ เซร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร 11 แห่งของไทย โดยมีแนวโน้มรับลดอันดับความน่าชื่อถือลง นอกจากนั้นยังมีประเด็นการที่สถาบันจัดอันดับสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ให้ความเห็นเชิงลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของอังกฤษ และการทดสอบขีปนาวุธของประเทศเกาหลีเหนือ โดยในเดือนพฤษภาคมนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิ 8,091 ล้านาท นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ขายสุทธิ 2,350 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ขายสุทธิ 5,741 ล้านบาท
คาดการณ์การลงทุนใเดือนมิถุนายน
ในช่วงเดือนพฤษภาคม SET น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 530-590 จุด โดยกระแสนักลงทุนต่างชาติที่ข้าสู่ภูมิภาคเอเชีและการปรับตัวของตลาดต่างประเทศจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาด อย่างไรก็ตามภาวะเศรฐกิจโลกและภาวะเศรษกิจไทย ตลอดจนปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด