3 บลจ.ใหญ่ ตบเท้าคลอดกองทุนบอนด์เกาหลีใต้ ส่งลุยตลาดพร้อมกันรวดเดียว 6 กองทุน "กสิกรไทย" เสนอขาย 3 กองทุน จ้องกวาดเงินเข้าพอร์ต 8 พันล้าน ส่วนบลจ.ธนชาต ไม่น้อยหน้า เข็นเพิ่มอีก 2 กองทุนหลังดีมานด์ยอดจองล้น หนีดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ ขณะที่ไทยพาณิชย์ ส่งกองทุนตามแผน ล็อกเงินสั้นๆ 6 เดือน
นายนคร ตามไท ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและสื่อสารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 16 - 22 มิถุนายน 2552 บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 8 เดือน เอ (KKG8MA) มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท 2. กองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอพี (KKG1YAP) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท และ 3. กองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 2 ปี เอ (KKG2YA) มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการลงทุนของผู้ยังคงต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากกองทุนพันธบัตรเกาหลี พร้อมทั้งเพิ่มทางเลือกด้านระยะเวลาลงทุนให้หลากหลายขึ้น เพื่อครอบคลุมทั้งการลงทุนระยะสั้นซึ่งไม่เกิน 1 ปี และระยะยาวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
โดยทั้ง 3 กองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสูง ทั้งจาก Moody’s / Standard and Poor’s / FITCH Rating โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น ที่ P1 / A1 / F1 และ ระยะยาวที่ A2 / A / A+ ตามลำดับ ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงเสถียรภาพทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสารที่ยังอยู่ในระดับสูง ถือเป็นตราสารที่มีคุณภาพดี นอกจากนี้ กองทุนยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100%
นายนครกล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านโอกาสรับผลตอบแทน แม้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลในประเทศจะเริ่มปรับตัวขึ้นบ้าง แต่คาดว่าผลตอบแทนของกองทุนพันธบัตรเกาหลีทั้ง 3 กองทุนจะยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนที่จูงใจกว่าเมื่อเทียบกับเงินฝากประจำ และพันธบัตรรัฐบาลในประเทศที่มีอายุตราสารใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ ผลตอบแทนสำหรับผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
“ผู้ลงทุนยังให้ความสนใจเข้าลงทุนโดยล็อคผลตอบแทนกับกองทุนพันธบัตรเกาหลีอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอโอ (KKG1YAO) ที่บริษัทเปิดขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดจองซื้อเข้ามาจำนวนมากจนต้องปิดการขายภายในวันที่ 2 ของช่วง IPO ส่วนกองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 10 เดือน เอ (KKG10MA) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการลงทุนระยะสั้น ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นกัน โดยทั้ง 2 กองทุนระดมเม็ดเงินลงทุนใหม่ไปแล้วไปกว่า 4,300 ล้านบาท บริษัทจึงมีแผนจะเสนอขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีต่อเนื่องอีก 3 กองทุน เพื่อเพิ่มทางเลือกในด้านระยะเวลาลงทุนให้หลากหลายยิ่งขึ้น ครบทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจจากตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดีซึ่งเป็นจุดเด่นของกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลีที่ผู้ลงทุนยังคงเชื่อมั่นได้” นายนครกล่าว
ขณะเดียวกัน บลจ. ธนชาต ก็อยู่ระหว่างการเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอีก 2 กองทุน ซึ่งประกอบด้วยกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 11 (T-FixFIF11) อายุโครงการประมาณ 2 ปี และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 13 (T-FixFIF13) อายุโครงการประมาณ10 - 12 เดือน ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 1,400 ล้านบาท เริ่มไอพีโอในระหว่างวันที่ 15 - 22 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้นักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท
ทั้งนี้ในภาวะปัจจุบัน ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจแก่ผู้ลงทุน คือ ตราสารภาครัฐของประเทศเกาหลี กองทุนดังกล่าว เป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ และเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารหนี้ในต่างประเทศ และประเทศที่กองทุนไปลงทุน
โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือตราสารทางการเงินต่าง ๆ ของภาครัฐหรือภาคเอกชน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบให้ลงทุนได้
นอกจากนี้กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หรือจัดให้มีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงงทุน เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในประเทศตามความเหมาะสม และสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยจะไม่ลงทุในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทน และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
ด้านรายงานจาก บลจ. ไทยพาณิชย์ ระบุว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ฟอร์เรน โนท 6M14 (SCBFRN6M14) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ และเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้ – 17 มิถุนายน 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
นายนคร ตามไท ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและสื่อสารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 16 - 22 มิถุนายน 2552 บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 8 เดือน เอ (KKG8MA) มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท 2. กองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอพี (KKG1YAP) มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท และ 3. กองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 2 ปี เอ (KKG2YA) มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการลงทุนของผู้ยังคงต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากกองทุนพันธบัตรเกาหลี พร้อมทั้งเพิ่มทางเลือกด้านระยะเวลาลงทุนให้หลากหลายขึ้น เพื่อครอบคลุมทั้งการลงทุนระยะสั้นซึ่งไม่เกิน 1 ปี และระยะยาวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
โดยทั้ง 3 กองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสูง ทั้งจาก Moody’s / Standard and Poor’s / FITCH Rating โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น ที่ P1 / A1 / F1 และ ระยะยาวที่ A2 / A / A+ ตามลำดับ ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงเสถียรภาพทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสารที่ยังอยู่ในระดับสูง ถือเป็นตราสารที่มีคุณภาพดี นอกจากนี้ กองทุนยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100%
นายนครกล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านโอกาสรับผลตอบแทน แม้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลในประเทศจะเริ่มปรับตัวขึ้นบ้าง แต่คาดว่าผลตอบแทนของกองทุนพันธบัตรเกาหลีทั้ง 3 กองทุนจะยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนที่จูงใจกว่าเมื่อเทียบกับเงินฝากประจำ และพันธบัตรรัฐบาลในประเทศที่มีอายุตราสารใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ ผลตอบแทนสำหรับผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
“ผู้ลงทุนยังให้ความสนใจเข้าลงทุนโดยล็อคผลตอบแทนกับกองทุนพันธบัตรเกาหลีอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอโอ (KKG1YAO) ที่บริษัทเปิดขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดจองซื้อเข้ามาจำนวนมากจนต้องปิดการขายภายในวันที่ 2 ของช่วง IPO ส่วนกองทุนเปิดเคพันธบัตรเกาหลี 10 เดือน เอ (KKG10MA) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการลงทุนระยะสั้น ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นกัน โดยทั้ง 2 กองทุนระดมเม็ดเงินลงทุนใหม่ไปแล้วไปกว่า 4,300 ล้านบาท บริษัทจึงมีแผนจะเสนอขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีต่อเนื่องอีก 3 กองทุน เพื่อเพิ่มทางเลือกในด้านระยะเวลาลงทุนให้หลากหลายยิ่งขึ้น ครบทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจจากตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดีซึ่งเป็นจุดเด่นของกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลีที่ผู้ลงทุนยังคงเชื่อมั่นได้” นายนครกล่าว
ขณะเดียวกัน บลจ. ธนชาต ก็อยู่ระหว่างการเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอีก 2 กองทุน ซึ่งประกอบด้วยกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 11 (T-FixFIF11) อายุโครงการประมาณ 2 ปี และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 13 (T-FixFIF13) อายุโครงการประมาณ10 - 12 เดือน ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 1,400 ล้านบาท เริ่มไอพีโอในระหว่างวันที่ 15 - 22 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้นักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท
ทั้งนี้ในภาวะปัจจุบัน ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจแก่ผู้ลงทุน คือ ตราสารภาครัฐของประเทศเกาหลี กองทุนดังกล่าว เป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ และเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารหนี้ในต่างประเทศ และประเทศที่กองทุนไปลงทุน
โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือตราสารทางการเงินต่าง ๆ ของภาครัฐหรือภาคเอกชน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบให้ลงทุนได้
นอกจากนี้กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หรือจัดให้มีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงงทุน เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในประเทศตามความเหมาะสม และสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยจะไม่ลงทุในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทน และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
ด้านรายงานจาก บลจ. ไทยพาณิชย์ ระบุว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ฟอร์เรน โนท 6M14 (SCBFRN6M14) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ และเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้ – 17 มิถุนายน 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
