บลจ.ไอเอ็นจี เตรียมส่งกองทุนอสังหาริมทรัพย์โลจิสติกส์เเละเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ เอาใจนักลงทุน จ่อเปิดขายไตรมาส 3 เชื่อผลตอบเเทนไม่ต่ำกว่า 7% พร้อมเผยความคืบหน้าการตั้งกองทุนอสังหาฯร่วมกับม.พายัพ คาดกลางปี 53 เปิดให้ลงทุนได้ ล่าสุดส่งบอนด์กิมจิ "ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M4" อายุ1 ปีให้ยิลด์ 3% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนตั้งเเต่วันนี้ถึง 15 มิถุนายน 52
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังอยู่ในระหว่างการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 2 กองทุน ได้เเก่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทโลจิสติกส์ ขนาดกองอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เเเละกองทุนอสังหาริมทรัพย์ปรเะเภทเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์อีก 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงไตรมาส 3ของปีนี้ ซึ่งผลตอบเเทนของเเต่ละกองทุนไม่น่าจะต่ำกว่า 7%ต่อปี ในส่วนของการจัดตั้งกองทุนรวมสาธารณูปโภค หรืออินฟราสตรัคเจอร์ นั้นคงต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติก่อน ซึ่งหากอนุญาตให้มีการจัดตั้งได้ทางบลจ.ก็มีความพร้อมในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการร่วมมือระว่างบลจ.ไอเอ็นจี กับมหาวิทยาลัยพายัพ ในโครงการพัฒนาที่เดินประมาณ 20 ไร่ บริเวณบ้านธารเเก้วมหาวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างอาคารชุดที่พักอาศัยหรือเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ จำนวน 200 ห้องเเละศูนย์การค้าครบวงจรมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนได้ประมาณกลางปี 2553 ซึ่งคงต้องรอให้สิ่งปลูกสร้างนั้นเสร็จเรียบร้อยก่อนทางบลจ.จึงจะดำเนินในส่วนการจัดตั้งกองทุนได้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M4 ซึ่งที่ผ่านมาออกกองทุนเปิดในซีรีย์ ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ12Mมาแล้ว 3 กองทุน แต่ละกองทุนได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยต้องยอมรับว่าตราสารหนี้สกุลเกาหลีใต้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้จะได้รับความสนใจและสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี แม้ว่าขณะนี้จะเห็นว่า ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เริ่มขยับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น แต่ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยก็ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ
โดยล่าสุดดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ12 เดือนอยู่ที่ 1% เท่านั้น ซึ่งยังต่ำกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนใน กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M4 ที่คาดว่าจะอยู่ในราว 3% ต่อปีโดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินที่มีคุณภาพและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) อยู่ในระดับ “A” อายุประมาณ 12 เดือน ซึ่งจะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งเเต่วันนี้ถึง 15 มิถุนายนนี้
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M4เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือเงินฝาก ในต่างประเทศ ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และ/หรือ สถาบันการเงิน โดยตราสารดังกล่าวได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงทุน
นอกจากนี้ กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด เช่น การทำสัญญา สวอป และ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น และ/หรืออาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(Structured Note)
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังอยู่ในระหว่างการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 2 กองทุน ได้เเก่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทโลจิสติกส์ ขนาดกองอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เเเละกองทุนอสังหาริมทรัพย์ปรเะเภทเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์อีก 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงไตรมาส 3ของปีนี้ ซึ่งผลตอบเเทนของเเต่ละกองทุนไม่น่าจะต่ำกว่า 7%ต่อปี ในส่วนของการจัดตั้งกองทุนรวมสาธารณูปโภค หรืออินฟราสตรัคเจอร์ นั้นคงต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติก่อน ซึ่งหากอนุญาตให้มีการจัดตั้งได้ทางบลจ.ก็มีความพร้อมในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการร่วมมือระว่างบลจ.ไอเอ็นจี กับมหาวิทยาลัยพายัพ ในโครงการพัฒนาที่เดินประมาณ 20 ไร่ บริเวณบ้านธารเเก้วมหาวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างอาคารชุดที่พักอาศัยหรือเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ จำนวน 200 ห้องเเละศูนย์การค้าครบวงจรมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนได้ประมาณกลางปี 2553 ซึ่งคงต้องรอให้สิ่งปลูกสร้างนั้นเสร็จเรียบร้อยก่อนทางบลจ.จึงจะดำเนินในส่วนการจัดตั้งกองทุนได้
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M4 ซึ่งที่ผ่านมาออกกองทุนเปิดในซีรีย์ ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ12Mมาแล้ว 3 กองทุน แต่ละกองทุนได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยต้องยอมรับว่าตราสารหนี้สกุลเกาหลีใต้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้จะได้รับความสนใจและสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี แม้ว่าขณะนี้จะเห็นว่า ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เริ่มขยับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น แต่ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยก็ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ
โดยล่าสุดดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ12 เดือนอยู่ที่ 1% เท่านั้น ซึ่งยังต่ำกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนใน กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M4 ที่คาดว่าจะอยู่ในราว 3% ต่อปีโดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินที่มีคุณภาพและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) อยู่ในระดับ “A” อายุประมาณ 12 เดือน ซึ่งจะเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งเเต่วันนี้ถึง 15 มิถุนายนนี้
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ 12M4เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือเงินฝาก ในต่างประเทศ ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และ/หรือ สถาบันการเงิน โดยตราสารดังกล่าวได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุนจะมีอายุคงเหลือประมาณ 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงทุน
นอกจากนี้ กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging) ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด เช่น การทำสัญญา สวอป และ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น และ/หรืออาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(Structured Note)