xs
xsm
sm
md
lg

INGขายกองบอนด์3เดือนยิลด์3.60% หลังซีรีส์6M2โกยเงินระดมทุน733ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ไอเอ็นจี เดินหน้าขายกองบอนด์ต่อเนื่อง ล่าสุดตั้งโต๊ะรับจอง"ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1" เน้นตราสารหนี้ในประเทศ หลบความผันผวนปัญหาวิกฤตการเงินต่างแดน ตั้งแต่วันนี้ถึง13ตุลาคม คาดผลตอบแทน3.60%ขณะที่กองไอเอ็นจี ไทย เอ็ม เอ็ม 6M2 ที่เพิ่งปิดขายระดมทุนได้ 733 ล้านบาท
นายจุมพล สายมาลา
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด - กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความผันผวนในตลาดหุ้น ทำให้บริษัทต้องมองหาการลงทุนที่สามารถหนีความผันผวนดังกล่าว และเพื่อหลีกหนีการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง โดยเน้นการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นแทน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 6-13 ตุลาคม 2551 บริษัทจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1 (ING THAI MM 3M1 Fund) ที่เน้นการลงทุนในประเทศ ให้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุน

"กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) มีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยประมาณการณ์ว่ากองทุนนี้น่าจะสามารถให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.60% ต่อปี และคาดว่าจะสามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้กว่า 1,000 ล้านบาท "นายจุมพล กล่าว

สำหรับนโยบายการลงทุนของ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 3M1 จะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาลรัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. รวมทั้ง เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้ ตราสารส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุน จะมีอายุคงเหลือประมาณ 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงทุน ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 3 เดือนซึ่งจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ลงทุนในตราสารดังกล่าว เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่กำหนดไว้ประมาณ 3 เดือน

ส่วนเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการก.ล.ต. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อป้องกันความเสี่ยง (hedging)และ/หรืออาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาของตราสาร แต่จะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) หรือ Credit Linked Note

"ในช่วงนี้ เราจะให้ความสำคัญกับกองทุนตรสารหนี้ระยะสั้น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งจากปัจจัย่ภายในและภายนอกประเทศ โดยบริษัทจะทำการเปิดขายกองทุนใหม่ประเภทนี้เป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วนใครที่สนใจเข้ามาลงทุนระยะยาว ก็ขอแนะนำว่าควรลงทุนผานกองแอลทีเอฟ อาร์เอ็มเอฟจะดีกว่า"

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ทำการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เอ็มเอ็ม 6M2 (ING THAI MM 6M2 Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) อายุโครงการ6 เดือน มูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยประมาณการณ์ว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3.80% ต่อปี ซึ่งได้ปิดการเสนอขายไปแล้วเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2551 และสามารถระดมเงินทุนจากนักลงทุนได้ 733 ล้านบาท

อนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมา นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นในประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงสุด แม้จะมีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าการลงทุนตราสารหนี้ในตลาดโลก

ส่วนภาพรวมธุรกิจกองทุนรวมปีนี้มีแนวโน้มเติบโตได้ดี แม้จะมีปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกเพราะยังมีกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเข้ามาช่วย ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับเงินฝากธนาคารและในช่วงปลายปียังเป็นฤดูกาลของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ที่มีความต้องการลงทุนจากนักลงทุนมากขึ้น หลังดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น