xs
xsm
sm
md
lg

KTAMดึงเงินฝากพักมันนี่มาร์เก็ต ชูผลตอบแทน-สภาพคล่องสูงกว่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทย ส่งบริการเสริมซื้อหน่วยลงทุนเเบบหักบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทยเเบบไม่จำกัดวงเงินลงทุนต่อเนื่องทุกเดือน "สมชัย" เชียร์กองทุน"กรุงไทยสะสมทรัพย์"ความเสี่ยงต่ำให้ผลตอบเเทนสูงกว่าเงินฝาก
นายสมชัย บุญนำศิริ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บลจ.กำลังเปิดให้บริการซื้อหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์(KTSS)เเบบหักบัญชีเงินฝาก ซึ่งจะหักจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทยโดยไม่จำกัดเงินขั้นต่ำในการลงทุน นอกจากกองทุนดังกล่าวเเล้ว บลจ.ยังได้เปิดให้มีการลงทุนประเภทดังกล่าวกับกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (KTSF) กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ปันผล (KTDF)เเละกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาวทุกกองทุน (RMF/LTF) อีกด้วย โดยนักลงทุนสามารถเลือกให้บลจ.หักเงินในบัญชีทุกวันที่ 1 หรือ 10 หรือ 20 ของทุกเดือน

อย่างไรก็ตาม เราอยากให้นักลงทุนเเบ่งเงินลงทุนส่วนหนึ่งหรือเเบ่งเงินเก็บส่วนหนึ่งเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือมันนี่มาร์เก็ต เนื่องจากจะให้ผลตอบเเทนที่ดีกว่าการฝากเงินเเล้วไม่ต้องเสียภาษี ขณะเดียวกันกองทุนประเภทดังกล่าวยังมีสภาพคล่องสูงความเสี่ยงต่ำเหมือนกับการออมเงินไว้ในธนาคารอีกด้วย

"เราอยากส่งเสริมการออมของนักลงทุนเเละประชาชนทั่วไป ซึ่งโครงการนี้จะช่วยในเรื่องความสะดวกเเล้วยังเป็นการส่งเสริมในระยะยาวให้กับนักลงทุนอีกด้วย" นายสมชัย กล่าว

สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก ตราสารเเห่งหนี้เเละหรือตราสารทางการเงินอื่น รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนหรือมีอายุสัญญาไม่เกิน 1 ปี นับตั้งเเต่วันที่กองทุนได้ลงทุน ทั้งกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)เเละตราสารหนี้ที่มีการจ่ายเงินผลตอบเเทนอ้างอิงกับตัวเเปร (Structure Note)

ด้านรายงานข่าวจากฝ่ายวิจัยบลจ.กรุงไทยมีมุมมองต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าผู้บริโภคเเละผู้ผลิตมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกาหลีใต้เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีอยู่ที่ 105.0 จาก 98.0 ในเดือนเมษายน เนื่องจากผู้บริโภคเชื่อมั่นมาตรการฟิ้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล การลดหย่อนภาษี เเละการลดอัตราดอกเบี้ย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้ฟื้นตัวขึ้นได้ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นในภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน

โดยดัชนีวัดความเชื่อมั่นภาคการผลิตเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 76 จากเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 71 เเละดัชนีคาดการณ์สำหรับนอกภาคการผลิต เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 76 จากเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 74 เนื่องจากการกะตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐส่งผลดีตาอุปสงค์ในประเทศ ประกอบด้วยค่าเงินวอนที่เเข็งค่าขึ้นทำให้ลดต้นทุนการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ได้ ส่งผลให้ผลผลิตภาคอุตสหกรรมยังคงขายตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายน ขยายตัว 2.6% MoM เเต่ชะลอลงจาเดือนมีนาคม ซึ่งขยายตัว 4.9% MoM เนื่องจากเเผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 17.7ล้านล้านวอน ทำให้ภาคการผลิตปรับตัวดีขึ้นไปด้วย สำหรับการค้าระหว่างประเทศยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเมษายน อยู่ที่ 4,284.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงอยู่ที่ 6,169 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เเม้ว่าการนำเข้าลดลงมากกว่าการส่งออกก็ตาม ทั้งนี้การส่งออก (ไม่รวมทางเรือ) ลดลง 19.6%YoY ขณะที่การนำเข้าลดลง 35.6%YoYขณะที่ดุลรายได้ขาดดุล 855.5 ล้านดอกลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลให้ต่างประเทศ ส่วนดุลบริการขาดดุล 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเนื่องจากท่องเที่ยวที่ลดลงเเละต้นทุนขนส่งที่เพิ่มขึ้น เเต่ดุลบัญบัญชีทุนกลับมาเกินดุล 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเนื่องจากมีการนำเงินเข้ามาลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น