ยูโอบีผุดแคมเปญดันยอด"ชัวร์เดลี"

ASTVผู้จัดการรายวัน – บลจ.ยูโอบี (ไทย) ผุดโปรโมชั่นดันยอดขายกองทุนเปิดยูโอบี ชัวร์ เดลี หลังหยุดพักยกไประยะหนึ่ง พร้อมเตรียมนำพรีเซ็นเตอร์คนแรกของกองทุน อย่าง “พอล ภัทรพล" มาเดินสายกระตุ้นยอดขายอีกทางด้วย ขณะเดียวกัน เปิดขายกองทุนโรลโอเวอร์ 3 กองรวดตั้งแต่ 8 – 12 มิ.ย.นี้

 นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกโปรโมชั่นมากระตุ้นยอดขายกองทุนเปิดยูโอบี ชัวร์ เดลี (UOBSD) อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ออกโปรโมชั่นมาส่งเสริมการขายกองทุนดังกล่าวมานานแล้ว จึงนับเป็นโอกาสที่ดีในการกลับมาใช้โปรโมชั่นใหม่ โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ที่เข้ามาลงทุนในช่วงนี้ แต่ไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายการเพิ่มของเม็ดเงินลงทุนในกองทุนแต่อย่างใด ซึ่งนโยบายหลักในปีนี้ไม่ได้เน้นการปรับเพิ่มของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) แต่จะเน้นความปลอดภัยของการลงทุนให้แก่ลูกค้าเป็นสำคัญ

 ทั้งนี้ บริษัทเตรียมนำพรีเซ็นเตอร์คนแรกของกองทุนเปิดยูโอบี ชัวร์ เดลี ซึ่งได้แก่ “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์" มาช่วยจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่าย รวมทั้งโฆษณา และประชาสัมพันธ์กองทุนนี้เพิ่มเติมอีกหลายโครงการด้วยกัน หลังจากที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และกลุ่มลูกค้ามีความหลายหลาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่รู้จักสินค้าทางการเงินมาก่อน 
อย่างไรก็ตาม “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์" ยังมีสัญญาเหลืออีกประมาณ 6 เดือน แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องสัญญาในระยะนี้แต่อย่างใด เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีการต่อสัญญาใหม่ในช่วงปลายปีมากกว่า ขณะเดียวกัน บริษัทยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาการออกโปรโมชั่นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ออกมาในอนาคตด้วยเช่นกัน

 นายวนา กล่าวว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของแผนงานในการออกกองทุนในเดือนมิถุนายน 2552 ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด โดยจะมีกองทุนทั้งที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ และต่างประเทศด้วย ซึ่งเบื้องต้นมีแนวโน้มว่าจะมีลักษณะกองทุนคล้ายกับกองทุนเปิดยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ (UOBSS) ซึ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์อีกประเภทหนึ่ง (Asset Class) แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมได้
 
สำหรับโปรโมชั่นของกองทุนเปิดยูโอบี ชัวร์ เดลี มีเงื่อนไขดังนี้ ยอดซื้อสุทธิทุกๆ 1 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2552 ถึง 15 กรกฎาคม 2552 จะมีสิทธิได้รับของสมนาคุณคือ Central Gift Voucher มูลค่า 300 บาท โดยเมื่อนำยอดซื้อ และยอดขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาข้างต้นมาหักลบกันให้เหลือเป็นยอดซื้อสุทธิ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิได้รับของสมนาคุณตามเงื่อนไขดังกล่าวจะต้องถือหน่วยลงทุน (ยอดซื้อสุทธิ) ตั้งแต่วันที่ 16กรกฎาคม 2552 ถึง 16 ตุลาคม 2552 โดยไม่มีการขายคืนจึงจะได้รับของสมนาคุณ กรณีที่มีการขายคืนจะคำนวณโดยใช้หลักเข้าหลังออกก่อน (Last In First Out หรือ LIFO)

 ขณะเดียวกัน ยอดซื้อหน่วยลงทุนสุทธิจะนับรวมกันทุกเลขที่ผู้ถือหน่วย (Unitholder ID) ภายใต้ชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนเดียวกัน  ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะจัดส่งของสมนาคุณภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 โดยจะส่งผ่านตัวแทนขายเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไป ซึ่งโปรโมชั่นนี้ขอสงวนสิทธิเฉพาะบุคคลธรรมดาเท่านั้น
 ขณะเดียวกัน รายงานจาก บลจ.ยูโอบี (ไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบระยะการลงทุนใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 (UOBMF3) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 (UOB Protect 3M1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุประมาณ 3 เดือน และกองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 (UOB Protect 6M3)มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน โดยทั้งหมดจะเปิดจองซื้ออีกครั้งในวันที่ 8 – 12 มิถุนายน 2552 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท

 สำหรับกองทุนเปิดยูโอบี มันนี่ ฟันด์ 3 มุ่งลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้จะไม่ลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตราสารหนี้ที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Notes) และหลักทรัพย์ หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ

 ส่วนกองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 3 เอ็ม 1 เป็นกองทุนตราสารหนี้ประเภทคุ้มครองเงินต้นที่เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ (ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง) พันธบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก อายุประมาณ 3 เดือน

 ขณะที่กองทุนเปิดยูโอบี โพรเทค 6 เอ็ม 3 เป็นกองทุนตราสารหนี้ประเภทคุ้มครองเงินต้นที่เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลังพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ (ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง) พันธบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก อายุประมาณ 6 เดือน