ASTVผู้จัดการรายวัน – บลจ.ธนชาตเป็นปลื้ม “ธนชาตตราสารหนี้พลัส 7” ปิดยอดขายได้ก่อนกำหนด หลังนักลงทุนหนีดอกเบี้ยต่ำ โยกเงินลงทุนบอนด์เอกชนแทน เผยต้นเดือนมิถุนายนนี้ เข็น “ธนชาตตราสารหนี้ 7” อายุ 6 เดือน เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงต่อ
นายบูญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 7 (TFixPlus7) ที่กำลังเปิดขายอยู่ขณะนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยมีการสั่งซื้อหน่วยลงทุนเข้ามาเต็มตามจำนวนเงินทุนของโครงการ ดังนั้น บริษัทจึงต้องปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนดระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ การที่นักลงทุนให้ความสนใจดังกล่าว สืบเนื่องจากว่านักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงมองหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน รวมถึงต้องการแสวงหาแหล่งลงทุนที่ต้องการให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากธนาคารที่ขณะนี้มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ดังนั้น นักลงทุนจึงเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวเพื่อเป็นการกระจายการลงทุนและให้ได้ผลตอบแทนที่ดีด้วย
“ตลาดด้านการลงทุนตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก ยังคงมีความผันผวนอยู่มาก ดังนั้น ตัวลูกค้าเองกำลังมองหาอะไรใหม่ ๆ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในธนาคาร หรือให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนรวมมันนี่มาร์เก็ต นักลงทุนจึงหันเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายการลงทุน” นายบุญชัย กล่าว
สำหรับกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 7 มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง หรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
นายบุญชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงสัปดาห์หน้าบริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 7 (TFIX7) เพิ่มอีก 1 กองทุน มีอายุโครงการประมาณ 6 - 8 เดือน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท เริ่มเสนอขายในระหว่างวันที่ 1 - 8 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดต่ำลงมากจนอัตราเงินฝากออมทรัพย์ลดลงถึงระดับ 0.5% ในปัจจุบัน
โดยกองทุนTFIX7 มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐที่มีคุณภาพมีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง และหรือเงินฝากหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
“ในสัปดาห์หน้านี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนประเภทดังกล่าวอีก 1 กองทุน โดยมีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน ส่วนมูลค่าของโครงการอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท สาเหตุของการออกกองทุนที่มีอายุเพียง 6 เดือน เนื่องจากว่ากองทุนที่เปิดขายในช่วงที่ผ่านมามีทั้งอายุ 1 ปี และ 2 ปี ให้นักลงทุนได้เลือกเข้าไปลงทุนแล้ว กองทุนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่ไม่ชอบการลงทุนในระยะยาว” นายบุญชัยกล่าว
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาลงทุนนั้น คาดว่ายังคงเป็นนักลงทุนกลุ่มเดิมเป็นหลัก ที่เป็นนักลงทุนจากธนาคารธนาคารซึ่งเป็นแบงก์แม่เป็นหลัก รวมถึงลูกค้าทางบลจ. ธนชาตเอง และกลุ่มลูกค้าจากตัวแทนจำหน่าย ซึ่งคาดว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะขายหมดก่อนกำหนดที่จะปิดขายกองทุนเช่นเคย เนื่องจากว่าขนาดมูลค่าของกองทุนนั้นไม่ใหญ่มากนัก
กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากองทุนรวมตราสารหนี้ยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดต่ำลงมาก ส่งผลให้ในปัจจุบันบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้อายุประมาณ 1 - 2 ปี จำนวน 4 กองทุน ได้แก่กองทุนเปิดธนชาต ตราสารหนี้พลัส 1 (TFixPlus1) กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 2 (TFixPlus2) กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 3 (TFixPlus3) และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 4 (TFixPlus4) โดยสามารถระดมเงินได้เต็มมูลค่าโครงการภายในวันแรกที่เสนอขายทั้ง 4 กอง และสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้บริษัทต่าง ๆ และสามารถลงทุนได้ระยะยาว บลจ.ธนชาต ได้เริ่มเสนอขายกองทุนตราสารหนี้อายุประมาณ 4 - 5 ปี จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 5 (TFixPlus5) ขนาดกองทุน 600 ล้านบาท มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนประมาณ 538 ล้านบาท และ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 6 (TFixPlus6) ขนาดกองทุน 400 ล้านบาท มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนประมาณ 392 ล้านบาท
นายบูญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 7 (TFixPlus7) ที่กำลังเปิดขายอยู่ขณะนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยมีการสั่งซื้อหน่วยลงทุนเข้ามาเต็มตามจำนวนเงินทุนของโครงการ ดังนั้น บริษัทจึงต้องปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนดระยะเวลาการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ การที่นักลงทุนให้ความสนใจดังกล่าว สืบเนื่องจากว่านักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงมองหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุน รวมถึงต้องการแสวงหาแหล่งลงทุนที่ต้องการให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากธนาคารที่ขณะนี้มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ดังนั้น นักลงทุนจึงเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวเพื่อเป็นการกระจายการลงทุนและให้ได้ผลตอบแทนที่ดีด้วย
“ตลาดด้านการลงทุนตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก ยังคงมีความผันผวนอยู่มาก ดังนั้น ตัวลูกค้าเองกำลังมองหาอะไรใหม่ ๆ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในธนาคาร หรือให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนรวมมันนี่มาร์เก็ต นักลงทุนจึงหันเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายการลงทุน” นายบุญชัย กล่าว
สำหรับกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 7 มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง หรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
นายบุญชัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงสัปดาห์หน้าบริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 7 (TFIX7) เพิ่มอีก 1 กองทุน มีอายุโครงการประมาณ 6 - 8 เดือน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท เริ่มเสนอขายในระหว่างวันที่ 1 - 8 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดต่ำลงมากจนอัตราเงินฝากออมทรัพย์ลดลงถึงระดับ 0.5% ในปัจจุบัน
โดยกองทุนTFIX7 มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐที่มีคุณภาพมีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง และหรือเงินฝากหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้
“ในสัปดาห์หน้านี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนประเภทดังกล่าวอีก 1 กองทุน โดยมีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน ส่วนมูลค่าของโครงการอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท สาเหตุของการออกกองทุนที่มีอายุเพียง 6 เดือน เนื่องจากว่ากองทุนที่เปิดขายในช่วงที่ผ่านมามีทั้งอายุ 1 ปี และ 2 ปี ให้นักลงทุนได้เลือกเข้าไปลงทุนแล้ว กองทุนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่ไม่ชอบการลงทุนในระยะยาว” นายบุญชัยกล่าว
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาลงทุนนั้น คาดว่ายังคงเป็นนักลงทุนกลุ่มเดิมเป็นหลัก ที่เป็นนักลงทุนจากธนาคารธนาคารซึ่งเป็นแบงก์แม่เป็นหลัก รวมถึงลูกค้าทางบลจ. ธนชาตเอง และกลุ่มลูกค้าจากตัวแทนจำหน่าย ซึ่งคาดว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะขายหมดก่อนกำหนดที่จะปิดขายกองทุนเช่นเคย เนื่องจากว่าขนาดมูลค่าของกองทุนนั้นไม่ใหญ่มากนัก
กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากองทุนรวมตราสารหนี้ยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดต่ำลงมาก ส่งผลให้ในปัจจุบันบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้อายุประมาณ 1 - 2 ปี จำนวน 4 กองทุน ได้แก่กองทุนเปิดธนชาต ตราสารหนี้พลัส 1 (TFixPlus1) กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 2 (TFixPlus2) กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 3 (TFixPlus3) และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 4 (TFixPlus4) โดยสามารถระดมเงินได้เต็มมูลค่าโครงการภายในวันแรกที่เสนอขายทั้ง 4 กอง และสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้บริษัทต่าง ๆ และสามารถลงทุนได้ระยะยาว บลจ.ธนชาต ได้เริ่มเสนอขายกองทุนตราสารหนี้อายุประมาณ 4 - 5 ปี จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 5 (TFixPlus5) ขนาดกองทุน 600 ล้านบาท มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนประมาณ 538 ล้านบาท และ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 6 (TFixPlus6) ขนาดกองทุน 400 ล้านบาท มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนประมาณ 392 ล้านบาท