ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศ ระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเมษายน.ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนปรับขึ้นสูงระดับ 98 จุด จากเดิมในระดับ 84 จุดในเดือนมีนาคม อีกทั้ง ในไตรมาสที่ 1/ 52 จีดีพีขยายตัวร้อยละ 0.1 เทียบกับในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ที่ลดลงร้อยละ 5.1
ทั้งนี้ ด้านการผลิตในไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่า ติดลบลดลงเหลือร้อยละ 3.2 จากเดิมที่มีอัตราติดลบเกือบร้อยละ 12 ในไตรมาสที่ 4/51 ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการขยายตัวของสาธาณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ปรับตัวเป็นร้อยละ 8 เทียบกับในไตรมาสที่ 4/51 ที่ลดลงร้อยละ 1.6 ขณะเดียวกัน ภาคก่อสร้างมีอัตราการเติบโตร้อยละ 6.1 ด้านภาคบริการและการบริโภคของเอกชนขยายตัวร้อยละ 0.3 และร้อยละ 0.4 ตามลำดับ
ขณะที่ภาคส่งออกหดตัวในอัตราที่ชะลอลงเหลือร้อยละ 3.4 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ 4/51 ซึ่งหดตัวลงเกือบร้อยละ 13 ทั้งนี้ ภาคส่งออกในเดือนเมษายน ติดลบลดลงเหลือร้อยละ 19 เทียบกับในเดือนมีนาคมมีอัตราที่ติดลบร้อยละ 22 สะท้อนถึงสัญญาณการฟื้นตัวซึ่งอาจผ่านช่วงวิกฤตทางเศรษฐกิจต่ำสุดมาแล้ว ขณะที่การนำเข้าในไตรมาสแรกของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยหดตัวร้อยละ 7 เทียบกับในช่วงไตรมาสที่ 4/51 ที่หดตัวสูงร้อยละ 15.7 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณชี้ว่า ภาคส่งออกของเกาหลีใต้เริ่มทรงตัวดีขึ้น
...ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นข้อมูลที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรวบรวมมาเพื่อให้เห็นภาพว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ของเกาหลีใต้ เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันหลายๆ ประเทศในเอเชีย ที่ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นกลุ่มประเทศที่มีการฟื้นตัวได้ก่อนใคร
ซึ่งเกาหลีใต้เอง เป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดประเทศหนึ่ง ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกมากน้อยแค่ไหน...และหากพูดถึงในมุมมองของนักลงทุนไทยแล้ว ต้องบอกว่าได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ มีกองทุนที่ออกไปลงทุนในประเทศเกาหลีเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่มีข่าวไม่ค่อยจะสู้ดีออกมา ก็สะเทือนมาถึงนักลงทุนบ้านเราอยู่ไม่น้อย ถึงขั้นเกรงว่าจะลงทุนต่อได้หรือไม่...
อย่างไรก็ตาม นอกจากกองทุนเกาหลี กระแส(ดารา) เกาหลีฟีเวอร์แล้ว...การส่งออกของไทยไปเกาหลีใต้เอง ก็มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย ซึ่งการที่เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวเช่นนี้ การส่งออกของไทยจะได้รับอานิสงส์อย่างไรบ้าง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภาพไว้ดังนี้
...ปัจจุบันเกาหลีใต้เป็นตลาดส่งออกสินค้าของไทยอันดับที่ 13 โดยมีสหรัฐ ฯ ญี่ปุ่น และจีนเป็นประเทศที่ไทยส่งออกไปมากในอันดับ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนในด้านการนำเข้า เกาหลีใต้ถือเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 6 รองจากญี่ปุ่น จีน สหรัฐ ฯ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ตามลำดับ โดยในปี 51 ที่ผ่านมา การส่งออกของไทยไปยังเกาหลีใต้ขยายตัวกว่าร้อยละ 23 จากปีก่อนหน้า ขณะที่การนำเข้าของไทยจากเกาหลีใต้ขยายตัวเกือบร้อยละ 30
โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเกาหลีใต้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 พบว่าสินค้า 10 อันดับแรก ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักร กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และ เหล็ก เหล็กกล้า
และผลิตภัณฑ์เมื่อวิเคราะห์สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเกาหลีใต้ในช่วงไตรมาสที่ 1/52 พบว่า สินค้าส่งออกที่ยังคงหดตัวสูงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 51 ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า มูลค่า 65.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ หดตัวร้อยละ 27.74 ยางพารา มูลค่า 52.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ลดลงเกือบร้อยละ 44 ผลิตภัณฑ์กระดาษ มูลค่า 23.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ 8.31 ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง มูลค่า 22.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ลดลงเกือบร้อยละ 40 ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ มูลค่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ลดลงกว่าร้อยละ 53
ขณะที่สินค้าส่งออกที่หดตัวในอัตราที่ชะลอลง คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 51.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ลดลงเหลือร้อยละ 11.82 จากเดิมหดตัวกว่าร้อยละ 21 ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ มูลค่า 15.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ 12.3 เทียบกับในช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 51 หดตัวกว่าร้อยละ 40 นอกจากนี้ สินค้าส่งออกขยายตัวชะลอลง คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ มูลค่า 22.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ขยายตัวร้อยละ 14.54 จากช่วงเดียวกันของปี 51 ที่ขยายตัวเกือบร้อยละ 62
สำหรับสินค้านำเข้าของไทยจากเกาหลีใต้ที่สำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์โลหะ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ และ สิ่งพิมพ์
สินค้านำเข้ารายการสำคัญที่ลดลงอย่างมาก ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ มูลค่า 143.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ 40.28 เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน มูลค่า 102.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงเกือบร้อยละ 16 เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ มูลค่า 92.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงเกือบร้อยละ 29 เคมีภัณฑ์ มูลค่า 78.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงกว่าร้อยละ 53 แผงวงจรไฟฟ้า มูลค่า 68.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ 53.01 สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ มูลค่า 49.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ 41.38 และเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ มูลค่า 36.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ลดลงร้อยละ 41.1
ส่วนสินค้านำเข้าที่ขยายตัวเร่งขึ้น ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ มูลค่า 178.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นสูงเกือบร้อยละ 50 เทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2551 ที่ขยายตัวร้อยละ 11.3ผลิตภัณฑ์โลหะ มูลค่า 155.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ขยายตัวเกือบร้อยละ 110 และเป็นที่น่าสังเกตว่า ไทยนำเข้าสิ่งพิมพ์จากเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างมาก มูลค่า 31.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ขยายตัวมากถึง 3,683.41 จากเดิมขยายตัวร้อยละ 300 ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ทิศทางการค้าไทย-เกาหลีใต้ ในปี 2552 น่าจะชะลอตัวลงจากปี 2551 เนื่องจากภาวะซบเซาของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงบั่นทอนความต้องการของตลาดต่างประเทศให้ชะลอลง ส่งผลให้ภาคส่งออกและภาคการผลิตของประเทศเกาหลีใต้ยังคงอ่อนแรง และทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าขั้นต้นและขั้นกลางจากไทยชะลอลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มการค้าไทย-เกาหลีใต้ว่า อาจจะติดลบต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ แต่คาดว่า การส่งออกของไทยไปเกาหลีใต้น่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราติดลบน่าจะชะลอลง เนื่องจากสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจเกาหลีใต้และเศรษฐกิจประเทศสำคัญ ๆ ของโลกอย่าง สหรัฐ ฯ จีน และญี่ปุ่น โดยได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเกาหลีใต้มูลค่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ที่ส่งผลขับเคลื่อนเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญของเกาหลีใต้ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คงต้องจับตาสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจของโลกที่เป็นหัวจักรขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะ สหรัฐ ฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีสัญญาณชี้วัดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ก็อาจส่งผลให้การค้าระหว่างไทย-เกาหลีใต้ฟื้นตัวขึ้นและอาจขยายตัวเป็นบวกในช่วงปลายปี 52
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและสัญญาณปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างไทย-เกาหลีใต้ในปี 52 โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 52 มูลค่าการค้ารวมของไทยกับเกาหลีใต้ ลดลงกว่าร้อยละ 23 มีมูลค่าการค้าทั้งสิ้น 1,838.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ โดยการส่งออกมีมูลค่าทั้งสิ้น 613.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ลดลงเกือบร้อยละ 25 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 51 ในขณะเดียวกันมูลค่าการนำเข้าลดลงเช่นกันที่ร้อยละ 22.67 มูลค่าการนำเข้ารวม 1,225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ
โดยการค้าไทย-เกาหลีใต้ในไตรมาสที่ 1/52 ไทยยังคงเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากับเกาหลีใต้ มูลค่า 611.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ จากเดิม 770.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในช่วงเดียวกันของปี 51 แต่มูลค่าขาดดุลมีอัตราชะลอลงร้อยละ 20.69 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ยังมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 อย่างไรก็ตาม น้ำมันดิบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักร ซึ่งมีการขยายตัวดีขึ้น รวมถึงสินค้าส่งออกของไทยไปเกาหลีใต้บางรายการมีอัตราติดลบชะลอลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สะท้อนถึงภาคการผลิตในเกาหลีใต้ที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ขณะที่สินค้านำเข้าของไทยจากเกาหลีใต้ที่หดตัวลงในช่วงเดียวกันส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสินค้านำเข้าวัตถุดิบ/ขั้นกลาง อย่างไรก็ตาม ไทยนำเข้าสินค้าบางรายการจากเกาหลีใต้ขยายตัวเร่ง
ส่วน แนวโน้มการค้าไทย-เกาหลีใต้ในปี 52 นั้น คาดว่า น่าจะชะลอตัวจากปี 51 เนื่องจากภาวะซบเซาของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงบั่นทอนความต้องการของตลาดต่างประเทศให้ซบเซา ส่งผลให้ภาคส่งออกและภาคการผลิตของประเทศเกาหลีใต้ชะลอลงและทำให้ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างไทยและเกาหลีใต้ตามไปด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มการค้าไทย-เกาหลีใต้ว่า อาจจะยังคงติดลบต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
โดยสรุป ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ทิศทางเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ปรับตัวดีขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยไปเกาหลีใต้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่คงต้องจับตาสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจของโลกที่เป็นหัวจักรขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐ ฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน และสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ชัดเจนขึ้น ก็อาจส่งผลกระตุ้นให้การค้าระหว่างไทย-เกาหลีใต้ฟื้นตัวอย่างมั่นคงมากขึ้น โดยมีอัตราติดลบชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 โดยหากเศรษฐกิจเกาหลีใต้เริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ชัดเจนแล้ว คาดว่าการส่งออกของไทยที่จะขยายตัวได้ดีคือ แผงวงจรไฟฟ้า ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักร กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย