“บัว” สโรชา ตันจรารักษ์ รู้จักออม...รู้จักคุณค่าของเงิน

คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง

การออมโดยการสะสมเงินทีละเล็กทีละน้อยให้พอกพูนขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป เงินออมก้อนเล็กๆ ในวันนี้ อาจจะเป็นเงินก้อนใหญ่ในวันหน้าที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆ และความมั่นคงในอนาคตได้

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าเมื่อเราเพียรพยายามในการออมเราก็จะบรรลุเป้าหมายในอนาคตได้ ซึ่งเราทุกคนสามารถทำได้ การออมเป็นสิ่งที่ไม่ยาก แต่ที่เราต้องมีคือการเพียร พยายาม อดทนเพื่อให้สู่เป้าหมายของเราในอนาคต ก็เหมือนกับการดำรงชีวิตของเรานั้นเอง ถ้าเราไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ วันหนึ่งเราจะบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของเราได้

วันนี้ คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง ขอนำเสนอวิธีการออมเงินของนางเอกสาวที่กำลังมีผลงานด้านภาพยนตร์เรื่อง "ม.3 ปี 4 เรารักนาย" นั่นคือ บัว - สโรชา ตันจรารักษ์ ซึ่งเธอจะมาถ่ายทอดถึงเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวของเธอเองในบางเรื่อง ที่ใคร ๆ อาจจะไม่เคยทราบมาก่อน ทั้งในเรื่องของการทำงาน รวมถึงการใช้จ่ายเงินหรือการเก็บเงินแต่ละบาท ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะทุกคนก็รู้ว่าวงการบันเทิงเป็นงานที่มีความไม่แน่นอน ดังนั้นจึงต้องมีการเก็บออมไว้ใช้ในอนาคตด้วย

"บัว" เริ่มเล่าถึงเรื่องการออมเงินก่อนว่า คุณพ่อคุณแม่จะสอนให้ออมเงินอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจำได้ว่าช่วงเด็ก ๆ นั้นคงจะเหมือนกับเด็กทั่วไปที่คุณพ่อคุณแม่มักจะสอนให้ออมเงินด้วยการหยอดกระปุกออมสิน ซึ่งมันเป็นเหมือนพื้นฐานของเด็กทุก ๆ คนในการออมและค่อย ๆ พัฒนาไปในรูปแบบอื่น

สำหรับรายได้แรกที่บัวสามารถหาได้ด้วยตนเองนั้นเป็นช่วงตอนอายุประมาณ 15 – 16 ปี เป็นการถ่ายแบบให้กับนิตยสารฉบับหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่าค่าตอบแทนได้มาประมาณ 10,000 บาท พอได้มาก็ได้ให้คุณแม่หมดทุกบาททุกสตางค์ และหลังจากนั้นก็มีผลงานด้านการแสดงในวงการบันเทิงเข้ามาเรื่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักของประชาชนในทุกวันนี้

ส่วนรายได้ที่ได้มาในปัจจุบัน "บัว" ก็ยังให้คุณแม่เป็นคนดูแลให้ โดยคุณแม่จะแบ่งรายได้ของบัวออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเก็บออมเพื่อไว้ในอนาคตหรือเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ส่วนอีกส่วนหนึ่งบัวแบ่งออกเพื่อไปลงทุนเกี่ยวกับด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคุณแม่จะเป็นคนดูแลให้ทั้งสิ้น

“การออมมีประโยชน์ในตัวมันอยู่แล้ว เพราะเป็นพื้นฐานในการสร้างอนาคตที่ดีถ้าเรารู้จักออม ซึ่งชีวิตในวันข้างหน้าหลังเกษียณอายุก็จะได้ไม่ลำบาก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ใช้ว่าจะเก็บแต่เงินอย่างเดียวโดยที่ไม่ใช้จ่ายอะไรเลยมันก็ไม่ใช่ เพราะเนื่องจากว่าเราต้องทำงาน ดังนั้น มันต้องมีต้นทุนต้องดูแลตัวเองใส่ใจสุขภาพของเราด้วย เพื่อให้แข็งแรงและปราศจากโรคภัยด้วยนอกจากนี้ การออมยังเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนที่กำลังจะเปิดธุรกิจส่วนตัว ซึ่งถ้าเรามีเงินออมนั้นมันก็สามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิ้นใครด้วย ” บัวบอก

เมื่อรู้วิธีการบริหารจัดสรรการออมเงินในแบบฉบับของนางเอกสาวสวยกันแล้ว เราลองมาดูน้องบัว เล่าถึงผลงานด้านภาพยนตร์กันบ้างว่าเป็นอย่างไรมีความยากง่ายกันอย่างไรบ้าง…..

"บัว" บอกถึงความยากง่ายของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า ค่อนข้างยาก เพราะว่าตัวละครที่บัวเล่นจะค่อนข้างแตกต่างจากตัวจริง บัวรับบทเป็น จูน เล่นเป็นพี่สาว มีน้องสาว แล้วก็ต้องเล่นเป็นคนห้าว ๆ ด้วยนิดนึง มีขับรถกระบะ ใส่ร้องเท้าผ้าใบ ต้องเล่นเป็นคนที่ดูทะมัดทะแมงเลย ซึ่งบัวยังคิดอยู่ว่ามันใช่ตัวเราหรือเปล่า

“เรื่องนี้ บัว ต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะมากค่ะ ในเรื่องแสดงเป็น “จูน” พี่สาวคนโตที่ทำตัวเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวเพื่อดูแลแม่และน้องแทนพ่อที่เสียไป บุคลิกจะมีทั้งความห้าว ความแมน เป็นผู้นำแถมต้องพูดเสียงดังๆ เวลาไม่พอใจพระเอก เห็นหน้าปุ๊บก็ด่าได้เลย ซึ่งแตกต่างจากชีวิตจริงของบัวมาก ๆ เพราะบัวเป็นน้องเล็กของบ้าน”

นอกจากนี้เรื่องการแต่งตัวก็เปลี่ยนหมดเหมือนกัน ปกติบัวชอบใส่กระโปรง ร้องเท้าสาน แต่เรื่องนี้บัวต้องใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบต้องแต่งตัวแบบนี้ตลอด ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เพื่อความเคยชิน เวลาเข้าฉากจะได้ไม่เขิน จนที่บ้านยังงงเลย เพราะปกติจะไม่ค่อยเห็นเราแต่งตัวแบบนี้ไง แล้วเสียงพูด ก็จะต่ำลง ให้ดูขรึม เหมาะกับการเป็นพี่คนโตด้วย

...สุดท้าย "บัว"ฝากบอกว่า เด็กรุ่นใหม่ที่ยังต้องของเงินคุณพ่อ คุณแม่ใช้อยู่ ให้รู้จักคุณค่าของเงินนั้น ๆ เพราะเงินแต่ละบาทที่ท่านหามาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ละบาทแต่ละสตางค์มันมีคุณค่ามาก ๆ ซึ่งถ้าใครที่คิดจะซื้ออะไรควรคิดไตร่ตรองให้รอบครอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ชื่อ – นามสกุล สโรชา ตันจรารักษ์ (บัว)
วันเดือนปีเกิด 19 กันยายน 2530
การศึกษา กำลังศึกษาชั้นปีที่ 2
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่อง ม.3 ปี 4 เรารักนาย