xs
xsm
sm
md
lg

“กระแต” นิภาพร แปงอ้วน อุ่นใจฝากคุณแม่ดูแลเงินให้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระแต นิภาพร แปงอ้วน
คอลัมน์ เจาะพอร์ตคนดัง

หลายคนที่ยังไม่คิดที่จะออมเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือยามการเกษียณไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นั้น นับเป็นความประมาณที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับชีวิตของเราในวันข้างหน้าได้มากมายเลยทีเดียว ดังนั้น คำแนะนำในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นก็คือ เริ่มคิดเรื่องการออมกันตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป และเพียงเราเริ่มต้นศึกษาถึงการออมที่มีอยู่ ก็เท่ากับเราเริ่มวางแผนจัดสรรเงินออมเพื่อการเกษียณแล้วล่ะค่ะ

คอลัมน์ “เจาะพอร์ตคนดัง” ฉบับนี้พามาดูการจัดสรรการออมเงินกับ “สาวกระแต - นิภาพร แปงอ้วน” นักร้องลูกทุ่งสาวเสียงใส และนักมวยหญิงที่สวย และเก่ง หนึ่งเดียวของวงการเพลงลูกทุ่งเมืองไทย ว่าเธอมีมุมมองการออมเงินเป็นอย่างไรกันบ้างในแบบฉบับของตัวเธอเอง

กระแต เล่าว่า ตนเองนั้นเกิดมาในฐานะยากจนไม่ได้ร่ำรวยอะไร ดังนั้นเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาจะมีค่ามาก เนื่องจากว่าคุณพ่อคุณแม่มีลูกที่ต้องดูแลด้วยกัน 4 คน และในตอนนั้นคุณแม่ก็ทำวงดนตรีคอยหาเลี้ยงครอบครัว พอได้เงินมาคุณแม่ก็จะคอยบอกกับลูก ๆ ว่าเงินนั้นมันหายากเราทุกคนต้องรู้จักคุณค่าของมันและใช้จ่ายอย่างไม่ฟุ่มเฟือย มาจนถึงปัจจุบันคุณแม่ก็ยังสอนอยู่

จากการที่คุณแม่ทำวงดนตรีทำให้กระแตชอบร้องเพลงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรายได้แรก ๆ ที่กระแตหาได้ด้วยตนเองเลยทีเดียว เนื่องจากว่าในการร้องเพลงแต่ละครั้งนั้นจะได้ทริปครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท รายได้ที่ได้มาก็ให้คุณแม่เก็บไว้หมด

"เพราะเป็นความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก น้องแตร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบคิดว่าอยากจะเป็นนักร้อง เป็นศิลปิน ส่วนเรื่องชกมวยก็คงจะชกไปเรื่อยๆ ยังไม่คิดว่าจะหยุด เพราะชอบ เลยอยากจะชกไปเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาส อย่างรายการใหญ่ๆ ก็อยากจะโชว์เพราะกว่าที่จะได้แชมป์มวยหญิงมันก็ยากเหมือนกันก็ไม่อยากจะ ทิ้งตรงนี้"

ปัจจุบัน หลังจากเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งอย่างเต็มตัวแล้ว ทำให้มีผลงานออกมามากมาย โดยล่าสุดผลงานชุดที่ 3 ชื่อว่า “สาวกาดแลง” ซึ่งรายได้ทั้งหมดจากการทำงานในวงการบันเทิงนั้น กระแตจะให้คุณแม่เก็บไว้ทุกบาททุกสตางค์ โดยคุณแม่จะแบ่งส่วนหนึ่งเก็บออมไว้ในธนาคาร อีกส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน

กระแต เล่าถึงเส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงว่า ไม่ธรรมดาเหมือนกันเพราะเจ้าตัวตระเวณเดินสายร้องเพลงประกวดเป็นว่าเล่น ทั้ง KPN Award, รายการลูกทุ่งไทย ทางช่อง 11 ซึ่งหลายๆ เวทีก็คว้ารางวัลในระดับชนะเลิศและรองชนะเลิศมามากมาย ก่อนจะได้มาเป็นนักร้องอย่างเต็มตัวในค่าย อาร์ สยาม บริษัทในเครือ อาร์.เอส.โปรโมชั่น

“ตอนนี้กระแตเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งถือว่ายังอยู่ในช่วงวัยเรียน แต่ว่าเราโชคดีกว่าเพื่อน ๆ ที่เราสามารถมีงานทำก่อนเพื่อน ๆ และมีรายได้เป็นของตัวเอง ดังนั้นรายได้ทั้งหมดกระแตจะให้คุณแม่เป็นคนดูแลให้ เนื่องจากว่าเรายังเด็กเกินไปที่จะดูแลเอง ซึ่งการเก็บสตางค์ไว้กับคุณแม่ เพราะคุณแม่จะเป็นคนจัดสรรรายรับรายจ่ายให้กับกระแตทั้งหมด”

กระแต ยังบอกต่ออีกว่า การออมนั้นเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเราเคยลำบาก จนมาก่อน เราเลยคุณค่าของเงิน ว่าเงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์มันมีค่ามากเพียงใด ทุกวันนี้ไม่เคยบ่นเหนื่อยเลยถึงแม้ว่าเวลาพักผ่อนจะน้อยมาก ซึ่งบางครั้งก็ท้อแต่ว่าเราได้กำลังใจดีจากคุณแม่ตลอดเวลา ที่คอยปลอบใจเราอยู่เสมอ

กลับมาดูกันที่ผลงานด้านการชกมวยกันบ้าง “สาวกระแต” บอกว่า คุณพ่อเขาชอบมวยแล้วเราก็คลุกคลีกับมวยมาตั้งแต่เด็กๆ ข้างบ้านเป็นค่ายมวยก็เลยลองไปซ้อมกับเขาดู พ่อแอบมาเห็นแววก็เลยลองมาถามว่าลองขึ้นชกมั้ย เราก็บอกอยากลองขึ้นชกก็เลยมาเป็นนักมวย ตอนนั้นอายุ 12 ปี

"ตอนชก เราก็ต้องซ้อมหนักๆ พยายามเรียนรู้สไตล์การชก ก็ถนัดทุกอย่างแต่ที่น็อคคู่ต่อสู้บ่อยๆ ก็จะเป็นเข่า เตะ เพราะผู้หญิงจะมีจุดอ่อนตรงหน้าท้อง แตก็เคยโดนเหมือนกันแต่ต้องเก็บอาการ ส่วนมากจะปากแตก เพราะไม่ใด้ใส่ฟันยาง คือมันแล้วแต่คนใส่ เวลาที่แตใส่ฟันยางแล้วมันรู้สึกนูนๆ ตรงปาก บางคนจะหายใจไม่คล่องน้ำลายก็กระเด็นแล้วก็ไม่สวยด้วย ถ้างานธรรมดาก็จะไม่ใส่ ชกกันสดๆ เลย แต่ถ้างานใหญ่ๆ เขาจะบังคับให้ใส่เพราะว่ามันเป็นกฎบังคับ แล้วนักมวยหญิงส่วนมากเขาจะห้ามไม่ให้ใช้ศอกเพราะกลัวว่าจะแตก"

กระแต บอกว่า จากการทำงานไม่ว่าจะในวงการบันเทิงหรืองานด้านชกมวยก็ตาม น้องแตมีหลักและแนวคิดในการทำงานคือเราต้องทำงานนั้นอย่างเต็มที่ไม่ว่างานนั้น ๆ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม และไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่เราก็ต้องทุ่มเทกับมันให้เต็มที่ ตั้งใจทำงานนั้นอย่างจริงจัง เพราะน้อยคนนักที่จะได้มีโอกาสในการทำงานตรงนี้ หลายคนต่างใฝ่ฝันอยากทำแต่ไม่ได้ทำ ดังนั้นเมื่อเราได้ก้าวเข้ามาตรงนี้แล้วเราก็ต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่

สุดท้าย กระแต ฝากบอกว่า ในยามที่เศรษฐกิจไม่ดีเช่นนี้เราควรจะใช้จ่ายอย่างมีสติ เพราะถ้าขาดสติมันอาจจะทำให้เราลำบากในวันข้างหน้าได้ ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินในยามจำเป็นที่ต้องใช้เงิน ดังนั้นเราควรมีสติก่อนจะจับจ่ายใช้สอยว่าสิ่งนั้นมันมีความจำเป็นหรือไม่

///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ล้อมกรอบ
ชื่อ – นามสกุล นิภาพร แปงอ้วน (กระแต)
วันเดือนปีเกิด 25 สิงหาคม 2530
การศึกษา ชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ผลงานปัจจุบัน อัลบั้มชุดที่ 3 “สาวกาดแลง”

กำลังโหลดความคิดเห็น