ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.นครหลวงไทย แนะนักลงทุน รีบจับจังหวะลงทุนบอนด์เกาหลีใต้ รับผลตอบแทนสูง ก่อนแบงก์ชาติกิมจิขยับดอกเบี้ยลง ชี้ช่องล็อกการลงทุนระยะยาว ตั้งแต่ 1 ปีถึง 3 ปี ระบุยังมั่นใจ เศรษฐกิจเกาหลีฟื้นได้เร็ว หลังจีน-มะกัน ส่งสัญญาณเริ่มสดใส
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในขณะนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีในการเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศเกาหลีใต้ เพราะช่วงนี้ยังให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลง ในการพิจารณาดอกเบี้ยของธนาคารกลางเกาหลีที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ซึ่งได้รับการคาดการณ์ว่า จะปรับลดลงเช่นเดียวกับทั่วโลก และหากมีการปรับลดลงจริง ก็จะทำให้ผลตอบแทนของกองทุนที่ออกไปลงทุนในเกาหลีใต้ปรับลดลงไปด้วย ดังนั้น นักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสการลงทุนในช่วงนี้ ถือว่ากองทุนเกาหลีใต้ยังน่าสนใจอยู่
โดยกองทุนของบลจ.นครหลวงไทย ที่กำลังเปิดขายอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ กองทุนเปิดนครหลวงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ KO 2Y ก็ให้ผลตอบแทนสูงถึง 5% ในการลงทุนยาวประมาณ 2 ปี ในตราสารหนี้ที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ซึ่งการที่กองทุนล็อกอายุการลงทุนไว้ยาวถึง 2 ปีนั้น เนื่องจากมองว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยหลังจากนี้จะปรับลดลงต่อเนื่อง ดังนั้น การล็อกเงินลงทุนระยะยาวเอาไว้ จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า
"ช่วงนี้อยากเเนะนำให้นักลงทุนลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เกาหลีระยะกลางถึงระยะยาวตั้งเเต่ 1-3 ปีขึ้นไป เพราะเรามองว่าการประชุมของธนาคารกลางเกาหลีใต้ครั้งนี้น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการลงทุนในบอนด์ที่มีอายุยาวขึ้นนั้นจะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบเเทนที่มากกว่าบอนด์ระยะสั้น เเม้ว่าเส้นอัตราผลตอบเเทนจะขึ้นลงบ้างเเต่ก็ถือว่ายังให้ผลตอบเเทนที่ดี ส่วนความเสี่ยงเรื่องอัตราเเลกเปลี่ยนนั้นกองทุนส่วนใหญ่จะป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวไว้เเล้ว"นายธีรพันธ์กล่าว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางประเทศเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งทางรัฐบาลเกาหลีเองไม่สามารถกู้เงินจากต่างประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกาได้ จึงเปิดขายตราสารหนี้ของรัฐบาล เเละตราสารหนี้ของธนาคารที่รัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน ทั้งนี้ความเสี่ยงเรื่องของการผิดชำระหนี้ของเกาหลีใต้นั้นถือว่า ไม่มีปัญหาเนื่องจากเกาหลีใต้เองก็มีเงินกองทุนสำรองระหว่างประเทศค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ที่เข้าไปลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาลเกาหลีคลายความกังวลในส่วนนี้ได้
ขณะเดียวกัน นายธีรพันธุ์ กล่าวต่ออีกว่า การที่สหรัฐฯ หรือประเทศจีน เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเเล้วนั้น มองว่าประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตการเงิน ก็น่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้
สำหรับกลยุทธ์ในการบริหารกองทุนในช่วงหลังจากนี้ นายธีรพันธุ์ กล่าวว่า จะเน้นใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการที่สามารถซื้อได้ทุกโซเคิลทั้งขาขึ้นแล้วขาลง ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้า โดยเร็วๆนี้ บริษัทจะเสนอขายกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ใน 6 ตลาด มาแนะนำแก่นักลงทุนด้วย ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะใช้อนุพันธ์มาช่วยในการจับจังหวะตลาดหาผลตอบแทน เนื่องจากเป็นกองทุนเปิด หากจะให้กองทุนสามารถอยู่ได้ในระยะเวลายาวนาน และในทุกสถานการณ์ไม่ว่าตลาดจะปรับตัวขึ้น หรือจะปรับตัวลดลง กองทุนจะต้องมีวิธีที่สามารถลงทุนได้ตามภาวะการณ์ต่างๆ เช่นกัน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยลดความผันผวนให้กับนักลงทุนได้
ทั้งนี้ กองทุนเปิดนครหลวงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ KO2Y ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท และลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ที่มีอายุประมาณ 2 ปี จะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกและครั้งเดียวถึงวันที่ 12 พฤษภาคนี้ โดยนักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท