xs
xsm
sm
md
lg

พิษร้ายแดงจลาจล บ่อนทำลายท่องเที่ยวไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นับเป็นแก๊งนักโทษชายป่วนชาติทีเดียวสำหรับการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อ้างสิทธิ์การชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญแบบประชาธิปไตย แต่การกระทำกลับเลยเถิดจนกลายเป็นการจลาจลที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะความพยายามนำรถแก๊สมาใช้ และการปฏิบัติการอุกอาจที่จะเข้าเผาทำลายชุมนุนนางเลิ้งจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย

 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ออกมาประเมินผลกระทบของเหตุการณ์ในครั้งนี้เอาไว้ว่า จากการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาลซึ่งทวีความรุนแรงถึงขั้นจลาจลในช่วงระหว่างวันที่ 11-12 เมษายน 2552  ทำให้รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2552  และใช้กำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์จนสามารถคลี่คลายสู่ภาวะปกติ โดยได้มีการยุติการชุมนุมลงในวันที่ 14 เมษายน 2552  โดยภาพเหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งตอกย้ำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติขาดความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ผลกระทบออกมาด้วยสมมุติฐานของความยืดเยื้อของเหตุการณ์เป็นหลัก...

 กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงไม่ยืดเยื้อ
 ในกรณีที่เหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศได้รับการคลี่คลายลงได้โดยเร็ว และไม่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมที่ทวีความรุนแรงขึ้นมาอีกในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2552  บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถดถอยลงร้อยละ 16 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 มีแนวโน้มถดถอยลงในอัตราประมาณร้อยละ 24 ในช่วงไตรมาสที่ 2   และชะลอการถดถอยลงมาอยู่ในอัตราร้อยละ 16 ช่วงไตรมาสที่ 3   ส่วนไตรมาสสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นคาดว่าจะสามารถฟื้นตัวกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปี 2551 
 
 จากแนวโน้มดังกล่าวจึงคาดว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยลดลงประมาณร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 6.3 ล้านคน และชะลอการถดถอยลงเหลือเพียงร้อยละ 4 ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารวมทั้งสิ้นประมาณ 6.4 ล้านคน ทำให้โดยรวมตลอดทั้งปี 2552 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยรวมทั้งสิ้นประมาณ 12.7 ล้านคน ลดลงร้อยละ 13 จากปี 2551 และสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าประเทศคิดเป็นมูลค่าประมาณ 430,000 ล้านบาทลดลงร้อยละ 17

 เมื่อเปรียบเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์รุนแรงในช่วงสงกรานต์ พบว่า กรณีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมประมาณ 1.3 ล้านคน (เดิมคาดการณ์ไว้ที่ 14 ล้านคน)  และส่งผลให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาทจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 480,000 ล้านบาท

 กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงยืดเยื้อ

 ในกรณีที่ความขัดแย้งระหว่างขั้วอำนาจทางการเมืองทวีความรุนแรง และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศได้อีกในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2552  อันจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านความสงบและปลอดภัยในประเทศอย่างมาก จนยากที่จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของไทยให้กลับคืนมาในหมู่นานาประเทศได้ในระยะเวลาอันสั้น  ทำให้มีแนวโน้มที่ประเทศไทยจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้แก่ประเทศคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเดียวมากขึ้น

 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถดถอยลงร้อยละ 16 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 มีแนวโน้มถดถอยลงอย่างรุนแรงในอัตราประมาณร้อยละ 35 ในช่วงไตรมาสที่ 2  และชะลอการถดถอยลงมาอยู่ในอัตราร้อยละ 25 ช่วงไตรมาสที่ 3  ส่วนไตรมาสสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นมีแนวโน้มทรงตัว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2551

 จากแนวโน้มดังกล่าวจึงคาดว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยลดลงประมาณร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 5.9 ล้านคน  และชะลอการถดถอยลงเหลือเพียงร้อยละ 12  ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารวมทั้งสิ้นประมาณ 5.8 ล้านคน

ทำให้โดยรวมตลอดทั้งปี 2552  จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยรวมทั้งสิ้นประมาณ 11.7 ล้านคน ลดลงเกือบร้อยละ 20 จากปี 2551 และสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าประเทศคิดเป็นมูลค่าประมาณ 380,000 ล้านบาทลดลงร้อยละ 27 ตัวเลขนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวถอยหลังไป 4-5 ปีใกล้เคียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ในปี 2547-2548
เมื่อเปรียบเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์รุนแรงในช่วงสงกรานต์ พบว่า กรณีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมประมาณกว่า 2 ล้านคน (เดิมคาดการณ์ไว้ที่ 14 ล้านคน)  และส่งผลให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาทจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 480,000 ล้านบาท

 ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังรายงานถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยอีกว่า นอกจากจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ลุกลามไปทั่วโลกแล้ว ในปี 2552 การท่องเที่ยวไทยยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งได้นำไปสู่ความแตกแยกทางสังคมของประชาชนในประเทศอย่างเด่นชัดนับตั้งแต่ปลายปี 2551 เป็นต้นมา จนมาถึงเหตุการณ์จลาจลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่ตอกย้ำซ้ำเติมให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2552 ย่ำแย่มากยิ่งขึ้น  ทำให้คาดว่ารายได้ด้านการท่องเที่ยวของไทยในปี 2552 มีแนวโน้มลดลงจากที่เคยได้ประมาณกว่า 5 แสนล้านในปีที่แล้วเหลือเพียงประมาณ 380,000-430,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับรายได้ด้านการท่องเที่ยวของไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

 ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันสานสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้เกิดความสงบสุขในประเทศอย่างแท้จริง และมีการประสานความร่วมมืออย่างจริงจังและต่อเนื่องระหว่างหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในอันที่จะเร่งชี้แจงสถานการณ์ที่เป็นจริงในปัจจุบันที่กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และเชิญผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและสื่อมวลชนจากนานาประเทศ ให้เดินทางมาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วยตนเอง เพื่อความมั่นใจด้านความปลอดภัย อันจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยทำให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเพิ่มพูนรายได้ด้านการท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาช่วยเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศได้ในที่สุด
 

 
กำลังโหลดความคิดเห็น