xs
xsm
sm
md
lg

การซื้อขาย SET50 Index Futures - High Return, … Risk

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ คลายทุกข์ ยุควิกฤต
โดย White Cow (wc2552@gmail.com)

การซื้อ หรือ ที่เรียกกันว่า Long Futures Contract และ การขาย หรือ ที่เรียกกันว่า Short Futures Contract ทั้งนี้ Futures Contract คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งจัดเป็นตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) ชนิดหนึ่ง โดยการซื้อขายจะต้องทำผ่าน Broker เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นบริษัทสมาชิกของบริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) – Thailand Futures Exchange (TFEX) มีการกำหนดหลักประกันเริ่มต้น (Initial Margin) และหลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) สำหรับ SET50 Index Futures TFEX ได้กำหนดอัตราขั้นต่ำไว้ที่ระดับ 35,100 และ 26,000 บาทต่อสัญญา ตามลำดับ

ประโยชน์ของ Futures คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้ เช่น เมื่อเรามีการลงทุนในตลาดหุ้นโดยเป็นการลงทุนระยะยาวหรือประเภท Value Investor มีการซื้อหลักทรัพย์หลายๆ หลักทรัพย์เพื่อประกอบกันขึ้นเป็นพอร์ตโฟลิโอ แต่ในบางช่วงเวลาที่ผู้ลงทุนไม่แน่ใจว่าตลาดจะมีทิศทางขึ้นต่อไปได้อีกหรือมีแนวโน้มที่ราคาอาจจะลดลงได้ ผู้ลงทุนอาจจะลดความเสี่ยงลงได้ด้วยการขายหรือ Short Futures Contract ออกไปก่อนแทนที่จะขายหลักทรัพย์ เพราะถ้าราคาหลักทรัพย์ในพอร์ตโฟลิโอลดลง เราก็จะได้กำไรจาก Futures Contract มาชดเชยหลังจากเมื่อซื้อหรือ Long Futures Contract กลับมา ณ ระดับที่คิดว่าราคาหลักทรัพย์จะไม่ลดลงอีกแล้ว การลดความเสี่ยงขึ้นอยู่กับจำนวน Contract ที่ทำการขายและซื้อว่าคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าพอร์ตโฟลิโอ รวมทั้งค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) ของพอร์ตโฟลิโอกับ Futures Contract ที่ใช้ลดความเสี่ยง

ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ Futures Contract คือ แต่ละสัญญามีอายุจำกัด ไม่สามารถถือยาวไปตลอดเหมือนหลักทรัพย์ทั่วไป สำหรับ SET50 Index Futures จะมีอยู่ 4 หลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้ โดยมีเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ ที่แน่นอน คือ เดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม แต่สัญญาที่มีสภาพคล่องสูงหรือมีส่วนต่างของราคาเสนอซื้อและเสนอขายแคบเพียง 0.10 จะมีเพียงสัญญาที่มีอายุคงเหลือน้อยที่สุดซึ่งไม่เกิน 3 เดือน เช่นปัจจุบันคือ หลักทรัพย์ S50M09 คือ สัญญา SET50 Index Futures ที่จะสิ้นสุดอายุในเดือนมิถุนายน 2009 ส่วน S50U09 สิ้นสุดเดือน ก.ย. 09 S50Z09 จะสิ้นสุดเดือน ธ.ค. 09 และ S50H10 คือสัญญาที่จะสิ้นสุดอายุในเดือน มี.ค. 2010 ซึ่งอายุที่เหลือยิ่งมากก็มีปริมาณการซื้อขายน้อยลงตามลำดับ ผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลได้จากค่า Open Interest คือจำนวนสัญญาที่ผู้ลงทุนยังไม่ทำการปิดสัญญา เปรียบเสมือน volume หรือปริมาณจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขาย

ประโยชน์อีกข้อของ Futures Contract คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการลงทุนโดยตรง แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในหลักทรัพย์โดยตรง 5-6 เท่า ขอยกตัวอย่าง หลักประกันเริ่มต้นของบริษัท Broker แห่งหนึ่งกำหนดสำหรับ SET50 Index Futures ไว้ที่ 49,400 บาทต่อสัญญา ถ้าซื้อหรือ Long S50M09 ไว้ 1 Contract ที่ระดับ 290 เมื่อ 30 มี.ค. 52 เทียบได้กับมูลค่าของการลงทุนเท่ากับ 290,000 (290 คูณด้วย 1,000) ด้วยเงินลงทุนเพียง 49,400 บาท บวกกับค่า Broker อีกประมาณ 500 บาท ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 เม.ย. 52 ณ 315.5 จะมีกำไรจากการตีราคา = (315.5-290) คูณด้วย 1,000 คิดเป็นเงิน 25,500 บาท หรือกำไรถึง 50% เมื่อหักค่า Broker อีก 500 บาทถ้าปิด Position ด้วยการขายหรือ Short S50M09

บทวิเคราะห์ การใช้ Futures Contract ในช่วงจังหวะที่เหมาะสมจะสามารถทำกำไรได้อย่างมาก หรือ High Return ตามหัวเรื่องของวันนี้ แต่ที่ได้ละ … Risk หรือ ความเสี่ยงไว้เพราะขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนแต่ละท่านว่าจะรู้จักความเสี่ยงในการซื้อขาย Futures Contract มากน้อยขนาดไหน บางท่านไม่ได้ศึกษาหรือยังศึกษาไม่เข้าใจหรือละเอียดเพียงพอก็อาจจะเข้าข่าย High Risk High Return แต่ถ้าได้เข้าถึงอย่างแท้จริงแล้วก็จะมีโอกาสเป็น High Return Low Risk ได้ ข้อมูลที่น่าศึกษาอย่างหนึ่ง คือ การเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 ที่เป็นสินค้าอ้างอิง โดยล่าสุด ค่า VaR สำหรับ SET50 Index อยู่ที่ระดับ 3.7% ด้วยระดับความเชื่อมั่น 95% ขอแสดงความเห็นว่า ถ้ามีเวลาอยู่หน้าจอหรือติดตามราคาของ Futures ได้ตลอดทั้งวัน จะสามารถทำการซื้อขายระยะสั้น (Short Term Trading) ด้วยการ Long เมื่อราคาลดลงต่ำกว่าราคาเฉลี่ย 1% และ Short เมื่อราคาสูงขึ้นเกินกว่าราคาเฉลี่ย 1% เราก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง 2% ซึ่งอยู่ในวิสัยที่ดัชนีจะเคลื่อนไหวได้ในแต่ละวัน ตัวอย่าง Long ไว้ 4 สัญญา ด้วยเงินค่าหลักประกัน ประมาณ 200,000 บาท ต้องการกำไร 2% คือ 4,000 บาท บวกค่า Broker ทั้งซื้อและขายรวม 4 สัญญา เป็นเงิน 4,000 บาท บวกกับกำไรแล้ว จะต้องทำกำไรในการลงทุน 8,000 บาท หรือ ราคาส่วนต่างของราคาซื้อขายสัญญาละ 2 จุดเท่านั้น ทั้งนี้จะต้องใช้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคเข้าช่วย และบางวันอาจจะต้อง Short ก่อน แล้วค่อย Long กลับ ขึ้นกับภาวะตลาด

สำนวนวันนี้ สิบเบี้ยใกล้มือ – สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการลงทุน คือ การกำหนด Target Return เอาไว้ล่วงหน้า บางครั้งผู้ที่กำหนด Return ได้เหมาะสม จะได้ผลตอบแทนสะสมที่สูงกว่า ผู้ที่กำหนด Return ไว้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เปรียบได้กับสำนวนที่ยกมาในวันนี้ สิบเบี้ยใกล้มือ ให้เก็บไว้ก่อน อย่าปล่อยให้ผ่านพ้นไป เพราะถ้ารอสะสมให้สูงขึ้นไปจนกลายเป็น ตำลึง หรือ ชั่ง คงจะไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้นี้เป็นแน่

ของฝาก ราคาของทองคำในตลาดโลกได้ลดลงจากระดับสูงสุดของปีนี้ 1,005 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2009 โดยขึ้นมาจากระดับ 680 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เมื่อ 24 ตุลาคม 2008 ขึ้นไปทั้งหมด 325 เหรียญในระยะเวลาร่วม 4 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 81 เหรียญ ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 867 เหรียญ ลดลงทั้งหมด 138 เหรียญ ในเวลาร่วม 2 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 69 เหรียญ ภาพรวมทางด้านเทคนิค ถ้าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ราคาที่น่าจะเข้าลงทุนอาจจะเริ่มพิจารณาและติดตามกันได้แล้ว โดยเฉพาะภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เริ่มเข้าใกล้แนวรับจากกรอบล่างของ Bollinger Bands ที่ระดับ 850 และ 835 เหรียญจากกราฟรายวันและรายสัปดาห์ ตามลำดับ ซึ่งน่าจะเป็นการจบคลื่น c ตามที่ได้เคยวิเคราะห์ไว้เมื่อฉบับ 25 มี.ค. 52 สำหรับผู้ลงทุนที่จะลงทุนใน Gold Futures ต้องไม่ลืมที่จะต้องติดตามค่าเงินบาท เพราะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อราคาที่ซื้อขายด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น