xs
xsm
sm
md
lg

ชูหุ้นกู้เอกชนต่างประเทศน่าลงทุน บลจ.ธนชาตชี้โอกาสรับผลตอบแทนสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บุญชัย เกียรติธนาวิทย์
ASTVผู้จัดการรายวัน  - บลจ.ธนชาต มองการลงทุนในต่างประเทศยังมีโอกาศดี โดยเฉพาะ "หุ้นกู้เอกชน" เหตุให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากหลายบริษัทเอกชนในต่างประเทศ ยังมีความแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจถดถอย ขณะที่กองFIF อื่นๆ ได้ทำการปรับลดพอร์ตเข้าถือเงินสดเพื่อรอดูสถานการณ์ 

 นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึง ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศในขณะนี้ว่า แม้เศรษฐกิจต่างประเทศทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้น จะยังมีการถดถอยอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังส่งผลให้ตลาดการเงินโลกเกิดความผันผวนขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม การลงทุนในต่างประเทศนั้นยังคงมีช่องทางและโอกาสอยู่เช่นเดียวกัน

 โดยจะเห็นได้ว่าในภาวะที่เศรษฐกิจเกิดการถดถอยนั้น รัฐบาลทั่วโลกได้ทำการลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตนเอง ส่งผลให้การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลได้รับผลตอบแทนที่ลดน้อยลง แต่ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจที่ประสบปัญหาเช่นนี้ บริษัทเอกชนหลายบริษัทในต่างประเทศยังคงมีศักยภาพอยู่ และหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนเหล่านี้ ยังมีผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรของรัฐบาล ดังนั้น การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนต่างประเทศจึงถือเป็นโอกาสการลงทุนในตอนนี้
 
ขณะเดียวกันในเรื่องของความเสี่ยงนั้นก็ยังคงมีอยู่เท่าๆกัน ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้ทำการประเมินความเสี่ยงไว้ในเบื้องต้นแล้วว่า จะมีปัจจัยที่สำคัญๆ ประการใดบ้าง โดยที่ชัดเจนที่สุดคือปัจจัยในเรื่องที่เศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ทางบริษัทจึงเลือกผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศที่จะสามารถบริหารเงินลงทุนของบริษัทที่ได้นำไปลงทุนอยู่ในต่างประเทศนั้นได้อย่างดี แต่นักลงทุนเองก็ต้องมองด้วยว่าการลงทุนในขณะนี้ เหมาะสมกับตนเองหรือไม่และสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับใด  
 "การลงทุนในต่างประเทศในขณะนี้ ถือว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี หากเศรษฐกิจของประเทศหลักๆในโลกเริ่มมีฟื้นตัวขึ้นมา ก็จะทำให้การลงทุนที่เราคาดการณ์เอาไว้นั้นถูกต้องและส่งผลดีต่อนักลงทุน" นายบุญชัย กล่าว

 ทั้งนี้ จากการประชุมกลุ่มประเทศ จี20 เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีในเรื่องของการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพราะทุกประเทศในโลกให้ความร่วมมือการการแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างเป็นรูปแบบมากขึ้น  ดังนั้นหากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้นได้ผล จะส่งผลต่อสถานการณ์ของการลงทุนในต่างประเทศที่จะเป็นไปในทิศทางที่ดี

 ผู้บริหาร บลจ. ธนชาต ยังกล่าวถึง การบริหารกองทุนต่างประเทศ (FIF) ของบริษัทในขณะนี้ด้วยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้มีการปรับลดพอร์ตการลงทุนลงมา โดยมีการเข้าถือเงินสดไว้มากขึ้นเพื่อรอดูสถานการณ์การลงทุน ซึ่งหากมีแนวโน้มที่ดีทางบริษัทจะปรับพอร์ตเข้าลงทุนมากขึ้น เพราะการลงทุนในต่างประเทศนั้นยังถือว่าในระยะยาวแล้วยังมีความน่าลงทุน โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาที่ยังคงถือว่ายังเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกอยู่ ขณะที่ประเทศจีนนั้นแม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในโลกแต่ด้วยศักยภาพในการพัฒนาในด้านอื่นๆนั้นยังไม่เท่ากับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคงใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 5-10ปี 

 สำหรับ บลจ. ธนชาตนั้น มีแผนที่จะออกกองทุนใหม่ออกมา ในช่วงไตรมาสที่ 2  โดยจะออกกองทุนรวมต่างประเทศ หรือเอฟไอเอฟเพิ่มขึ้นอีก 1 กองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ที่ดีในต่างประเทศทั่วโลก และมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามความเหมาะสมของสถานการณ์ในช่วงนั้น ๆ แบบไม่จำกัดโอกาสในการลงทุน ซึ่งจะเป็นการบริหารกองทุนคล้าย ๆ กับกองทุนเปิดธนชาตอินฟราสตัคเจอร์ แอนด์ แน็ชเชอรัล รีซอร์ส ที่มีการกระจายการลงทุนไปตามคอเปอร์เรทบอนด์
โดยจะทำการคัดเลือกตราสารหนี้จากทั่วประเทศที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีหรือเป็น Best of Fund เข้ามายังกองทุนดังกล่าวประมาณ 5 - 7 กองทุนจากกองทุนทั่วโลก เป็นต้น ซึ่งกองทุนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังรอดูช่วงที่เหมาะสมในการเปิดขายกองทุนอยู่ ซึ่งตราสารหนี้ที่บริษัทจะเลือกเข้าไปลงทุนในจะเป็นการลงทุนในประเภทหุ้นกู้ของต่างประเทศที่มีอันดับเครดิตน่าสนใจ และกึ่งพันธบัตรรัฐบาลค้ำประกัน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะทำการคัดเลือกจากทั่วโลก และจะมาคัดเลือกอีกครั้งเพื่อนำมาเข้าพอร์ตของกองทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น