xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตปลื้ม3เดือนเงินเข้า9หมื่นล. จ่อคิวเอฟไอเอฟลุยบอนด์ทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ และนายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ (ขวา)
บลจ.ธนชาตปลื้ม 3เดือนแรก เงินไหลเข้ากว่า 9 หมื่นล้าน ขยับเข้าไกลเป้าหมาย 1 แสนบาททั้งปี ระบุได้อานิสงส์ 2 กองทุนมันนี่มาร์เกต ทั้ง "ธนชาตบริหารเงิน-ธนชาตตลาดเงิน" ดึงเงินฝากเข้า พร้อมเดินหน้าส่งกองทุนเพิ่มทางเลือกต่อ ล่าสุด จ่อคิวกองทุนเอฟไอเอฟ ลุยตราสารหนี้ทั่วโลก เน้นบริหารแบบแอกทีฟ กระจายความเสี่ยง สร้างผลตอบแทนให้ลูกค้า

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารสุทธิ หรือเอยูเอ็มไว้ทั้งสิ้น 100,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้ปรากฏว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 บริษัทสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้กว่า 90,000 ล้านบาทแล้ว เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดเอยูเอ็มอยู่ที่ 78,000 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนส่วนใหญ่ที่ไหลเข้ามานั้น ได้มาจากเงินลงทุนที่นักลงทุนหันมาลงทุนในกองทุนรวมธนชาตบริหารเงิน และกองทุนรวมธนชาตตลาดเงิน เป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่าในช่วงที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลง จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้นักลงทุนต่างต้องหาช่องทางใหม่ ๆ ให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

ขณะเดียวกัน ในช่วงไตรมาสที่ 2 บริษัทยังมีแผนออกกองทุนใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ. ธนชาต กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนรวมต่างประเทศ หรือเอฟไอเอฟเพิ่มขึ้นอีก 1 กองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ที่ดีในต่างประเทศทั่วโลก และมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามความเหมาะสมของสถานการณ์ในช่วงนั้น ๆ แบบไม่จำกัดโอกาสในการลงทุน ซึ่งจะเป็นการบริหารกองทุนคล้าย ๆ กับกองทุนเปิดธนชาตอินฟราสตัคเจอร์ แอนด์ แน็ชเชอรัล รีซอร์ส ที่มีการกระจายการลงทุนไปตามคอเปอร์เรทบอนด์

โดยผู้จัดการกองทุน จะทำการคัดเลือกตราสารหนี้จากทั่วประเทศและนำมาคัดเลือกอีกครั้ง โดยจะเลือกตราสารหนี้ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีหรือเป็น Best of Fund เข้ามายังกองทุนดังกล่าวประมาณ 5 - 7 กองทุนจากกองทุนทั่วโลก เป็นต้น โดยกองทุนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังรอดูช่วงที่เหมาะสมในการเปิดขายกองทุนอยู่

นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า เหตุผลที่บริษัทต้องการออกกองทุนประเภทนี้ เนื่องจากว่าการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เป็นการเปิดกว้างในการลงทุนมากยิ่งขึ้น เพราะมันจะสามารถไปได้เรื่อย ๆ เพราะเป็นการบริหารแบบแอกทีฟ โดยกรอบของการลงทุนจะขยายเป็นออกไปเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี อาจจะลงทุนในเทมเบอร์ตัน ถ้าช่วงระยะเวลานั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ถ้าในช่วงระยะเวลาอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต ถ้ามีบริษัทไหนในประเทศอื่น ๆ มีผลตอบแทนที่ดี ก็สามารถเปลี่ยนเข้าไปลงทุนได้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง แต่ไม่ได้มีความเสี่ยงมากนัก

สำหรับตราสารหนี้ที่บริษัทจะเลือกเข้าไปลงทุนในขณะนี้ จะเป็นการลงทุนในประเภทหุ้นกู้ของต่างประเทศที่มีอันดับเครดิตน่าสนใจ และกึ่งพันธบัตรรัฐบาลค้ำประกัน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะทำการคัดเลือกจากทั่วโลก และจะมาคัดเลือกอีกครั้งเพื่อนำมาเข้าพอร์ตของกองทุน

ทั้งนี้ บริษัทยังมองว่าการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในต่างประเทศ ยังคงมีการลงทุนที่สูงกว่าปกติในช่วงนี้ เรายังมีโอกาสในการออกตราสารหนี้ต่างประเทศได้ เพราะจะเห็นได้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทที่เป็นคอเปอร์เรทมีความแข็งแกร่งและยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการวิเคราะห์ในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น โดยต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลด้วย ดังนั้นการเข้าไปลงทุนจึงต้องมองไปจนถึงว่า 2 - 5 ปีข้างหน้าเงินนั้นจะงอกเงยได้อย่างไรด้วย

นายตระกูลจิตร กล่าวเพิ่มเติมถึงภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้คนตกงานเป็นจำนวนมาก ทำให้คนส่วนใหญ่เก็บเงินออมไว้มากกกว่าที่จะเอามาจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น การเติบโตจึงแผ่วลงไปมาก รวมถึงการบริโภคก็ต้องลดลง นอกจากนี้ โรงงานการผลิตได้ปรับลดลงไปด้วย ทำให้การทำงานของบริษัทเอกชนก็หดหายตามไปด้วย และการนำเข้าและการส่งออกเองก็มีการเติบโตช้าลงไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยังมีอยู่ เนื่องจากว่ารัฐบาลจะเข้ามาช่วยสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเป็นหลัก ซึ่งตรงนี้จะเป็นตัวช่วยให้ประเทศฟื้นกลับคืนมาได้ แต่จะเป็นการฟื้นตัวแบบไม่เร็วมากนัก ซึ่งคาดว่าการเติบโตที่จะเห็นอย่างเด่นชัดน่าจะเป็นช่วง 2 - 3 ปีต่อจากนี้ไป

ล่าสุด บลจ. ธนชาต ได้คว้า 2 รางวัลจากลิปเปอร์ในการบริหารจัดการกองทุนยอดเยี่ยมในช่วงระยะเวลาติดต่อกัน 3 ปีซ้อน ได้แก่ Best Fund Group Over Three Years ประเภท Overall group ซึ่งบลจ.ธนชาตมีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งและต่อเนื่องทั้งในกลุ่มตราสารหนี้ ตราสารทุน และกองทุนรวมผสม โดยรางวัลดังกล่าวถือเป็น Top Prize ของงาน และรางวัล Best Fund Over Ten Years ประเภท Bond Thai Bath ซึ่งเป็นกลุ่มตราสารหนี้ที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในระยะเวลาติดต่อกัน 10 ปี

โดยกองทุนที่ให้ผลการดำเนินดีนั้น ได้แก่ กองทุนเปิดธีรสมบัติ ซึ่งกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ย้อนหลัง 3 เดือน -3.41% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.07% ย้อนหลัง 6 เดือน 8.58% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.52% ย้อนหลัง 1 ปี 6.03% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.76% ย้อนหลัง 3 ปี 6.15% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.42% และย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.68% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 5.19%
กำลังโหลดความคิดเห็น